ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแนวโน้มเทคโนโลยีของโลกยานยนต์กำลังเดินหน้าไปสู่ EV แบบเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเทสล่า (Tesla) คือค่ายรถพลังไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกที่เป็นผู้เริ่มต้นแนวทางนี้เป็นเจ้าแรก จนทำให้ค่ายรถเก่าแก่เกือบทุกยี่ห้อต้องขยับตัวตาม และทยอยเปิดตัวรถ EV ยี่ห้อของตัวเองตาม ๆ กันมา
จากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เปลี่ยนมาเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า นอกจากความสำคัญของแบตเตอรี่แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของ EV คือระบบซอฟต์แวร์สำหรับสั่งการในการขับเคลื่อนทั้งหมดและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถ โดยเฉพาะเทสล่า ที่มาพร้อมจอแสดงผลหรือแดชบอร์ดขนาดใหญ่
ประสบการณ์ที่ผมเคยได้สัมผัสรถ EV มาบ้าง แต่ละยี่ห้อใช้การสั่งการผ่านหน้าจอแทบทั้งสิ้นครับ หากเป็นของเทสล่า อาทิ รุ่น Model 3 ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปนั่งในยานอวกาศ ส่วนรถ EV ค่ายฟอร์ด อย่าง Mustang Mach-E แม้จะพยายามคงเอกลักษณ์ความเป็นรถยนต์ไว้ แต่ก็สั่งการจากหน้าจอเช่นกัน
ฉะนั้น บริษัทที่พัฒนาซอฟต์แวร์ จะเป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมรถ EV ซึ่งที่ผ่านมา เทสล่า ปฏิเสธการติดตั้ง Apple CarPlay จากโรงงาน และใช้บริการซอฟต์แวร์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง นั่นหมายความว่า หากซื้อรถเทสล่า ทุกอย่างในรถคือเทสล่า ไม่มีแบรนด์อื่นเข้ามาแจมแต่อย่างใด
ซึ่งข่าวใหญ่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการที่แอปเปิลประกาศเตรียมเปิดตัว Apple CarPlay 2023 ฟังดูแบบผิวเผิน อาจเป็นการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ตามปกติ แต่หากลงลึงในรายละเอียดแล้ว บอกเลยครับว่าไม่ธรรมดา เพราะมีการเปิดเผยยี่ห้อรถที่พร้อมร่วมเป็นพันธมิตรติดตั้ง CarPlay เกินกว่า 12 ยี่ห้อ!
ในพรีเซนต์ของแอปเปิลที่เปิดตัวมา มีโลโก้รถยนต์ ทั้ง Ford, Honda, Nissan, Mercedes-Benz, BMW, Porsche, Audi, Volvo รวมไปถึง Land Rover นั่นหมายความว่าซอฟต์แวร์ของแอปเปิล จะถูกติดตั้งในรถยนต์ยี่ห้อเหล่านี้ออกมาจากโรงงาน
ที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้น คือเจ้าโปรแกรม CarPlay เวอร์ชันใหม่นี้ การทำงานของมันไม่ใช่แค่อ่านแผนที่, ฟังเพลง, อ่านข้อความ หรือโทรศัพท์ แบบเดิม ๆ อีกต่อไปครับ แต่มันแสดงข้อมูลทางเทคนิคของรถคันนั้น ๆ ได้ด้วย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ก็คล้ายกับซอฟต์แวร์ที่ถูกติดตั้งในรถรุ่นใหม่ ๆ รวมถึงรถไฟฟ้าของเทสล่าด้วย
นอกจากนี้ CarPlay 2023 ยังสามารถตอบสนองได้ทั้งรถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป ในการบอกข้อมูล อาทิ รอบเครื่องยนต์ รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เช่นเดียวกับออปชันในการทำงานร่วมกับรถ EV ซึ่งตอนนี้เราเริ่มเห็นรถ EV ค่ายยุโรปหลายรุ่น ออกแบบภายในโดยใช้จอแสดงผลหรือแดชบอร์ดขนาดใหญ่กันแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวมาหลายครั้งว่าแอปเปิลเตรียมจับมือค่ายรถดังหลายเจ้า เพื่อพัฒนา Apple Car รถไฟฟ้าไร้คนขับในอนาคต แต่ทั้งหมดก็ยังไม่มีความคืบหน้าและมีการยืนยันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าการประกาศเตรียมจับมือกับค่ายรถดังเปิดตัวโปรแกรม Apple CarPlay 2023 รอบนี้จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่
แต่ที่แน่ ๆ การที่แอปเปิลจับมือกับบรรดาค่ายรถดังได้ เหมือนเป็นการประกาศว่าหากเทสล่าไม่ง้อพวกเขา แอปเปิลก็ยังดำเนินธุรกิจในสายอุตสาหกรรมรถยนต์ได้เช่นกัน และฝั่ง อีลอน มัสก์ ก็อาจจะต้องคิดหนัก เพราะจะมีค่ายรถยนต์ชั้นนำจับมือกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระดับโลก มาเป็นคู่แข่งของพวกเขาอีกกว่า 12 ยี่ห้อเลยทีเดียวครับ