เบนซ์เลิกพริตตี้

งานโชว์รถต้องมีพริตตี้ งานแข่งรถต้องมีกริดเกิร์ล หรืองานมวยในต่างประเทศต้องมีริงเกิร์ล!

ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าที่ผ่านมางานต่าง ๆ ที่ผมเอ่ยมาในบรรทัดด้านบน “จำเป็น” ต้องมีสาวสวย ที่อาจจะแต่งวาบหวิวบ้างหรือแต่งมิดชิดบ้าง เป็นส่วนหนึ่งของงาน ซึ่งพวกเธอสามารถสร้างสีสันให้แต่ละงานได้ไม่น้อย

สมัยผมเป็นวัยรุ่น หนึ่งในเป้าหมายเวลาไปงานมอเตอร์โชว์บอกเลยครับไปดูพริตตี้เป็นหลัก! ดูรถเป็นเรื่องรอง ขณะเดียวกันงานพริตตี้ประจำค่ายรถก็กลายเป็นจุดเริ่มของน้อง ๆ ที่ผมรู้จักหลายคน กลายเป็นอาชีพที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะช่วงมีงานอีเวนต์

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศตัวเป็นรถยี่ห้อแรกที่จะไม่ใช้งาน “พริตตี้” ในงานแสดงรถยนต์อีกต่อไป พร้อมเผยแนวคิดใหม่ด้วยการใช้ Digital Guide ทำหน้าที่แทน

เนื้อหาของการยกเลิกพริตตี้ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ The Reinvention of Tomorrow ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงค่านิยมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทางเพศ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางในงานแสดงรถยนต์ไปอย่างสิ้นเชิง

งานนี้ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงครั้งที่ผู้จัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งประกาศยกเลิก “กริดเกิร์ล” ซึ่งใช้สาวสวยทำหน้าที่กางร่มให้กับนักขับประจำกริดในสนามแข่งขัน โดยครั้งนั้นเอฟวันให้เหตุผลถึงความสำคัญของภาพลักษณ์สตรี และไม่ต้องการใช้ผู้หญิงมาเป็นวัตถุทางเพศอีกต่อไป

ซึ่งเหตุผลของเอฟวัน ก็เป็นส่วนหนึ่งในการยกเลิกพริตตี้ครั้งนี้ของเบนซ์ในเมืองไทยเช่นกันครับ โดยพวกเขาจะแทนที่ด้วย “Digital Guide” ใช้กลุ่มคนที่ไม่จำกัดเพศ สีผิว หรือรูปร่าง มาทำหน้าที่ในการให้ความรู้เรื่องรถยนต์แทน

ถามว่าจะมีผลกระทบต่อยอดขายรถยี่ห้อนี้ไหม ผมเชื่อว่าถ้ามีก็ไม่มาก เพราะเบนซ์มีกลุ่มลูกค้าประจำอยู่แล้ว การยกเลิกพริตตี้ไม่ใช่การยกเลิกเซลขายรถ ฉะนั้น ฝ่ายขายส่วนที่เป็นสุภาพสตรีก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ยอดขายจึงไม่น่ากระทบมาก

ต้องยอมรับความจริงครับว่าเซลคือหัวใจของการขายมากกว่า ส่วนพริตตี้จะสะท้อนภาพลักษณ์ของรถแบรนด์นั้น ๆ น่าสนใจครับว่าการยกเลิกพริตตี้ของค่ายตราดาวในครั้งนี้จะมีกระแสตอบรับออกมาในทิศทางใด