หากนึกถึงรถเฟอร์รารี่ หลายคนน่าจะนึกถึงรถซูเปอร์คาร์สีแดงเพลิง หรือหากนึกถึงรถปอร์เช่ คนส่วนใหญ่น่าจะถึงนึกรุ่นที่มีรูปโฉมเป็นเอกลักษณ์จากอดีตมาจนถึงปัจจุบันอย่างรุ่น 911 แต่ถ้าเป็นรถ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) คุณจะนึกถึงอะไร
ตลอดระยะเวลาร่วม 100 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยียานยนต์เติบโตขึ้นอย่างมากมาย และปัจจุบันเรากำลังจะก้าวเข้าสู่รถพลังงานไฟฟ้า แต่หากสังเกตกันให้ดีรถบีเอ็มฯ ทุกรุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จะมีเอกลักษณ์ที่ติดมาทุกรุ่น นั่นก็คือ “กระจังหน้า” รูปสี่เหลี่ยมประกบกันเป็นคู่
กระจังหน้ารูป “ไตคู่” อายุ 88 ปี
กระจังหน้าถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอันดับต้น ๆ ของรถยนต์ เพราะมันส่งผลไปถึงรูปลักษณ์โดยรวมของตัวรถตั้งแต่แรกเห็น แต่หน้าที่หลักของมันคือ การรับอากาศจากด้านหน้าเข้าสู่ห้องเครื่องเพื่อช่วยระบายความร้อน
ย้อนไปในปี 1933 รถบีเอ็มดับเบิลยู 303 คือรถยนต์รุ่นแรกที่เป็นจุดเริ่มของกระจังหน้าทรงเหลี่ยมประกบกันเป็นคู่ หรือที่เรียกว่า Kidney Grille หรือ ไตคู่ นั่นเอง
โดยถือเป็นรถเครื่องยนต์ 6 สูบคันแรกของค่ายบีเอ็มฯ และถือเป็นการเริ่มต้นดีไซน์การออกแบบกระจังหน้าแบบไตคู่ และวางด้วยโลโก้ BMW ไว้ด้านบน ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ติดมากับรถยี่ห้อนี้เกือบทุกรุ่น และได้รับการยกย่องให้เป็นประติมากรรมของ BMW เลยทีเดียว
ปริศนาที่มา “กระจังหน้า”
แม้แต่ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูเอง ยังไม่มีข้อมูลระบุถึงที่มาการดีไซน์กระจังหน้าไตคู่ในรถรุ่น 303 อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก caradvice.com.au ระบุว่ามาจากแนวคิดของ Rudolf และ Fritz Ihle สองพี่น้องนักออกแบบรถชาวเยอรมัน
โดยสองพี่น้องจากเมือง Bruchsal เริ่มต้นธุรกิจดัดแปลงตัวถังรถยี่ห้อดัง อาทิ BMW, Fiat และ Ford มาก่อน ซึ่งคาดว่ากระจังหน้าไตคู่ ได้ต้นแบบมาจากรถ BMW Ihle 600 ที่ผลิตออกมาในปี 1929
แม้แต่รถเอฟวัน BMW ก็ยังมีไตคู่
ตลอด 88 ปีที่ผ่านมา วิศวกรของบีเอ็มฯ มีโจทย์ตั้งตั้นอันท้าทายในการออกแบบรถที่จะต้องมีกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ติดมาในรถรุ่นใหม่ทุกรุ่น ทำให้ถึงปัจจุบันมีการออกออกกระจังหน้าไตคู่รวมแล้วกว่า 13 แบบ
นอกจากนี้หากใครที่เป็นแฟนความเร็วในยุคที่บีเอ็มดับเบิลยูสนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับทีมวิลเลียมส์ในช่วงปี 2000 ถึง 2005 รวมถึงทำทีมแข่งเอฟในนาม บีเอ็มเบิลยู-เซาเบอร์ ในช่วงปี 2006-2009 ลวดลายที่ถูกใส่ลงไปในจมูกหน้าของรถ ก็ยังมีลวดลายไตคู่ติดมาด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่คู่กับตัวรถมาทุกยุคทุกสมัยที่ติดมากับค่ายรถดังของเยอรมนี และแม้ว่าโลกยานยนต์กำลังจะก้าวสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า ที่อาจไม่จำเป็นต้องมีกระจังหน้าไว้ระบายความร้อนอีกต่อไป แต่ “ไตคู่” จะอยู่คู่กับรถยี่ห้อนี้ไปตลอดกาล
ข้อมูลจาก Car Advice, BMW