บทสรุปยูโร 2020 ทำไมอังกฤษตกม้าตาย?

แฟน ๆ ลูกหนังอังกฤษหลายคนทั่วโลกคงอยากตะโกนดัง ๆ ว่าทำไม สุดท้ายแล้วทีมรักของพวกเขาโชคชะตาจะต้องมาเกี่ยวข้องพัวพันและโชคร้ายกับการดวลจุดโทษในนัดสำคัญอยู่ร่ำไป เที่ยวนี้ขนาดได้เป็นเจ้าภาพในสังเวียนนัดชิงยูโร แฟนบอลได้กลับมาเชียร์ในสนาม ทำประตูนำคู่ต่อสู้ไปก่อนด้วย เรียกได้ว่าทุกอย่างเป็นใจให้หมด สุดท้ายพวกเขายังทำไม่สำเร็จ การรอคอยยาวนานต้องยืดระยะไปจาก 55 ปี

เกมแห่งแทคติค

ในนัดชิงแชมป์กุนซือทีมชาติอังกฤษวางแผนมาอย่างยอดเยี่ยมด้วยการปรับกลับมาเล่น 3 เซ็นเตอร์แบ็ก ในระบบ 3-4-3 ให้วิงแบ็กทั้งสองด้านโจมตี ทำเอาอิตาลีระส่ำระสายกับหมากที่คาดไม่ถึง แฮร์รี่ เคน กลายเป็นตัวพักบอลจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม “สิงโตคำราม” ออกสตาร์ทได้เหนือกว่าจน “อัซซูรี่” กลายเป็นคนละทีมใน 45 นาทีแรก

ครึ่งหลังกาลกลับตาลปัตรเมื่อ โรเบอร์โต้ มันชินี่แก้เกมด้วยการส่ง ไบรอัน คริสตานเต้ กับโดเมนิโก้ แบร์ราดี้ ลงแทน นิโคโล่ บาเรลล่า ที่เล่นรับไม่ดีนักและชิโร่ อิมโมบิเล่ เท่านั้นเองเกมของอิตาลีกลับมาน่ากลัวทันทีจนกระทั่งได้ประตูตีเสมอ

แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับแทคติคบ้างกลับไปเล่นแบ็ค 4 ด้วยการส่ง ซาก้า กับเฮนโด้ ลงมาแทน ทริปเปียร์และไรซ์ เกมไม่ดีขึ้นเท่าไร แถมยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากว่าจะส่ง แจ็ค กรีลิช ลงมาก็ช่วงต่อเวลาแล้ว

การเลือกมือสังหาร

ไม่น่าเชื่อว่าทีมงานโค้ชของอังกฤษจะเลือกเด็กวัย 19 อย่าง บูกาโย่ ซาก้า ให้ทำหน้าที่มือสังหารหมายเลข 5 ลูกสุดท้ายลูกตัดสิน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด ซ้อมกันมาก่อน กำหนดกันไว้ล่วงหน้าแล้ว หรือจะเป็นการเลือกเฉพาะหน้าเพราะไม่มีใครกล้ายิงก็ตามที

แถมคนที่รับหน้าที่หมายเลข 4 ก่อนหน้านั้นยังเป็นเด็กวัย 20 ปีอีกคนอย่าง จาดอน ซานโช่ ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็พลาด ในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ดนั้นว่ากันไม่ได้ เพราะเป็นเด็กแก่พรรษาพอสมควร แถมทำหน้าที่อยู่บ่อย ๆ ให้ต้นสังกัด แม้จะยิงชนเสาอยู่เป็นประจำก็เหอะ แต่สิ่งที่น่าคิดคือทำไมไม่มีรายชื่ออย่าง แจ็ค กรีลิช, ไคล์ วอล์คเกอร์ หรือ ลุค ชอว์?

ท่ามกลางสภาวะตึงเครียดบนความหวังที่แฟนบอลอังกฤษตั้งไว้ นาทีนั้นย้อนกลับมาเป็นความกดดันมหาศาลบนบ่าผู้รับหน้าที่ยิง ถ้าไม่มั่นใจไม่นิ่งจริง ๆ แล้วโอกาสผิดพลาดเกิดขึ้นได้สูง

อนาคตสดใสที่รออยู่

เช็ดน้ำตาแห่งความผิดหวังแล้วมองไปข้างหน้า อย่างน้อยอังกฤษพิสูจน์ให้เห็นว่านาทีนี้พวกเขาไม่ต้องกริ่งเกรงใคร เยอรมนีก็ปราบมาแล้วอย่างง่ายดาย อิตาลีพวกเขาสู้ได้อย่างสุดสูสี รอเวลาให้ผู้เล่นชุดนี้สั่งสมประสบการณ์อีกนิด สิงโตจะกลับมาคำรามอีกครั้งอย่างแน่นอนด้วยชุดนักเตะอย่าง เมสัน เมาท์, แจ็ค กรีลิช, เดแคลน ไรซ์, คัลวิน ฟิลลิปส์ และ 3 เซ็นเตอร์โคตรเหนียวอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตน และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์

ส่วนเที่ยวนี้ต้องยอมรับว่า อิตาลี นั้นสุดยอดจริง ๆ เพราะโค่นคู่ต่อสู้อย่าง เบลเยี่ยม สเปน มาได้ จึงเหมาะสมที่จะคว้าแชมป์ด้วยประการทั้งปวง

บางทีฟุตบอลโลก 2022 อาจเป็นช่วงเวลาและหมุดหมายที่เหมาะสมของอังกฤษ บทเรียนบวกประสบการณ์จากทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น และมีโอกาสคว้าแชมป์เมเจอร์ได้อีกครั้งชนิดที่ไม่ต้องสงสัยการเป็นเจ้าบ้านให้คนอื่นเขาค่อนขอดด้วย.