สเตอร์ลิ่ง+เคน คุณค่าที่คู่ควร

ทีมชาติอังกฤษกรีฑาทัพเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2020 แบบประทับใจคอลูกหนัง ด้วยความฮึกเหิม ในขณะนี้ทั้งแฟนบอลและนักเตะ พวกเขาจะสามารถไปถึงแชมป์ได้จริงหรือไม่ หลังจากว่างเว้นความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาตั้งแต่ ค.ศ.1966 หรือ 55 ปีมาแล้ว

มองในด้านบวก ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? ในเมื่อ “สิงโตคำราม” จะได้โอกาสลงแข่งต่อหน้าแฟน ๆ ในบ้านตัวเองที่สนามเวมบลีย์ทั้งรอบตัดเชือกและไฟนัล ได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์และความคุ้นเคยมหาศาล

แถมฟอร์มของผู้เล่นก็กำลังโดดเด่นไปทั่วทุกขุมกำลัง ไม่ว่าจะเป็นแดนหลังแฮร์รี่ แม็คไกวร์ มิดฟิลด์อย่าง เดแคลน ไรซ์ ที่กำลังร้อนแรงสุด ๆ คือ กองหน้าอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ แฮร์รี่ เคน ซึ่งผลัดกันยิงไปแล้วคนละ 3 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ การประสานงานของทั้งสองคนอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการประสบความสำเร็จหนนี้

น่าแปลกใจที่ปีกจากแมนฯ ซิตี้ปีนี้ฟอร์มกับต้นสังกัดไม่เด่นเหมือนเคย แต่พอมาถึงศึกยูโรกลับร้อนแรง เหมือนสะสมพลังความสดมาปลดปล่อยถูกจังหวะพอดี ทัวร์นาเมนต์นี้ สเตอร์ลิ่ง แสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้มีความกริ่งเกรงกองหลังรายใดจากชาติไหน ๆ ทั้งสิ้น

ส่วน แฮร์รี่ เคน หลังจากปืนฝืดในรอบแรก พอเข้าสู่เกมน็อคเอาท์เริ่มระเบิดฟอร์มยิงประตูได้จากเกมกับเยอรมนี และล่าสุดกับยูเครน อีกสองเม็ด พาลให้นึกถึง แกรี่ ลินิเกอร์ ในฟุตบอลโลก 1986 ซึ่งกว่าจะยิงได้ก็นัดสุดท้ายรอบแรก แล้วมาบวกเพิ่มในรอบ 16 และ 8 ทีมจนถึง 6 ประตู และได้รองเท้าทองคำไปในที่สุด

ศูนย์หน้า “ไก่เดือยทอง” ยังมีลุ้นตำแหน่งดาวยิงเช่นกันเพราะตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แพ็ตทริค ชิค อยู่ 2 ลูกเท่านั้น ถ้าได้เล่นอีกสองเกมจริง ๆ ก็น่าจะมีโอกาสเร่งแซงสองคนนั้นซึ่งกลับบ้านไปเรียบร้อยได้เช่นกัน

ตอนนี้ถือว่า เคน เรียกความมั่นใจกลับมาได้หมดแล้ว ในเกมกับ ยูเครน เขาเกือบทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำ หากลูกยิงไกลด้วยเท้าซ้ายสุดสวยไม่ถูกผู้รักษาประตูคู่ต่อสู้ปัดทิ้งด้วยปลายนิ้ว แถมตอนนี้การประสานงานกับปีกจากแมนฯ ซิตี้ ก็ทำได้รู้ใจกันยิ่งนัก โดยเฉพาะจังหวะออกตัวเข้าไปจิ้มลูกแทงทะลุของ ราฮีม จนทำให้อังกฤษยิงลูกแรกได้ในเกมกับยูเครน

ดูแล้วอดลุ้นไม่ได้ว่า หากแมนฯ ซิตี้ ทุ่มซื้อเคน ไปเล่นกับสเตอร์ลิ่ง ในพรีเมียร์ลีกได้จริง ๆ กองหลังคู่ต่อสู้คงต้องเจองานหนักพิลึก เพราะหน้าขวาของ “เรือใบ” ยังมี ริยาร์ด มาเรซ คอยลากเลื้อย และแดนกลางตัวเปิดบอลอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ คอยแทงทะลุให้

ยกแชมป์ให้ไปเลยดีกว่ามั้ย?

สรุปแล้ว สเตอร์ลิ่ง+เคน คือคุณค่าที่คู่ควร และควรจะไปเล่นคู่กันต่อด้วยในระดับสโมสร แต่กับทีมชาติหนนี้ยังมี เดนมาร์ก ทีมม้ามืดเป็นด่านขวางกั้นที่ แกเร็ธ เซาธ์เกตต์ จะประมาทไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าผ่านไปได้นัดชิงยังมี อิตาลี หรือ สเปน เป็นคู่ต่อสู้ชนิดกระดูกขัดมันรออยู่

ลองดูกันครับว่าด้วยฟอร์มของคู่ขามหากาฬอย่าง สเตอร์ลิ่ง กับ เคน จะสามารถพาอังกฤษ กลับมาคำราม สร้างประวัติศาสตร์ลูกหนังได้สำเร็จอีกหนหรือไม่?