การใช้ชีวิตคู่ระหว่างคนสองคน ย่อมต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา โดยเฉพาะคู่รักที่พัฒนาความสัมพันธ์ไปจนถึงขั้นใช้ชีวิตแต่งงานด้วยกัน ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะอารมณ์หงุดหงิดใส่กันได้ง่ายขึ้น เพราะได้เห็นพฤติกรรมหรือนิสัยในแง่มุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนสมัยที่เป็นแค่แฟนกัน
ถ้าใครยังไม่อยากให้ชีวิตคู่ต้องลงเอยด้วยการเลิกราหรือหย่าขาดจากกันทั้งที่ยังรักกันอยู่ ก็ต้องพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างกันเอาไว้ เพราะทุกคนล้วนมีข้อเสียกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่ที่ว่าสามารถรับข้อเสียนั้น หรือปรับปรุงตัวเองเพื่อคนที่เรารักมากน้อยเพียงใด
วันนี้ Tonkit360 มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกัน เกี่ยวกับ 7 ขั้นตอนที่จะช่วยให้ชีวิตแต่งงานดีขึ้นได้ภายใน 7 วัน
ให้สัญญาว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น
ลองยืนหน้ากระจกและถามตัวเองดูว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือเป็นสิ่งที่คู่ของเราต้องการกันแน่ และถ้าอยากจะรักษาชีวิตคู่เอาไว้ ก็ต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น
เลือกเปลี่ยนตัวเอง 1 อย่างเพื่อคนรัก
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เลือกมาหนึ่งอย่างว่าจะเปลี่ยนอะไรเพื่อทำให้คนรักมีความสุขมากขึ้น และในทางกลับกัน ก็ควรจะคุยกับคู่ของเราด้วยว่า อยากให้เขาเปลี่ยนอะไร 1 อย่างเพื่อเราบ้าง
ให้ความสำคัญในการพูดคุยกับอีกฝ่าย
บางครั้งการที่เห็นหน้ากันทุกวัน ก็อาจทำให้ต่างฝ่ายต่างละเลยการพูดคุยทักทายหรือแสดงความรู้สึกต่อกันไป แต่ถ้าปรับเปลี่ยนท่าทีเสียใหม่ และให้ความสำคัญในการพูดคุยกับอีกฝ่าย ทั้งการทักทายและการสนทนาเหมือนเวลาที่อยู่กับเพื่อนสนิท ก็จะทำให้ความรู้สึกของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้
เปิดใจพูดถึงสิ่งที่ไม่พอใจในครั้งหลังสุด
การจับเข่าคุยกันแบบเปิดอกถึงปัญหาที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกัน เมื่ออารมณ์ของทั้งสองฝ่ายดีขึ้นแล้ว จะทำให้มองเห็นถึงสาเหตุของปัญหาได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น โดยไม่มีเรื่องของความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง
หาเวลามองตากันสักวันละ 15-20 นาที
แม้ว่าแรก ๆ อาจจะรู้สึกขัดเขินกันอยู่บ้าง แต่ “ดวงตา” ถือเป็นหน้าต่างของหัวใจ การมองตากันโดยไม่จำเป็นต้องพูดคุยหรือสัมผัสร่างกายใด ๆ สามารถสื่อถึงความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กันได้มากยิ่งกว่าคำพูดใด ๆ
เอ่ยปากชมคนรักให้มากขึ้น
การเอ่ยปากชื่มชมคนรักให้เขาได้รับรู้ในสิ่งที่เราคิด ย่อมดีกว่าการมองหาแต่ข้อเสียหรือข้อบกพร่องในกันและกัน เพราะนอกจากจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเราชื่นชอบอะไรแล้ว ก็ยังเป็นกำลังใจดี ๆ ที่หล่อเลี้ยงจิตใจของคนรักได้เป็นอย่างดีด้วย
พูดคุยกันมากให้ขึ้นเหมือนเพิ่งเดทกัน
แทนที่จะคุยกันแต่เรื่องหน้าที่ในบ้านที่ต้องรับผิดชอบว่าใครจะเป็นคนทำกับข้าว หรือใครจะพาสุนัขไปอาบน้ำตัดขน ก็ให้หาบทสนทนาที่น่าสนใจมาพูดคุยกันบ้าง โดยให้ทำเหมือนเพิ่งจีบกันใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกันมากขึ้น
ที่มา : prevention.com