
หากพูดถึงสำนักข่าวบันเทิงของเกาหลีใต้ คงไม่มีติ่งคนไหนที่ไม่รู้จักสำนักข่าวจอมแฉอย่าง Dispatch ที่โด่งดังมากในเรื่องการเปิดเผยภาพและข้อมูลคู่เดทของคนดังเกาหลี โดยเฉพาะกลุ่มศิลปินไอดอล ความจริงแล้วติ่งรู้ดีว่าบางเรื่องเป็นเพียงข่าวลือ ถ้ายังไม่ได้รับการยืนยันจากต้นสังกัดก็ยังเป็นเพียงข่าวโคมลอยที่เชื่อถือไม่ได้ แต่ในใจลึก ๆ แค่รู้ว่าข่าวลือมาจาก Dispatch ก็ทำให้นอนฝันร้ายได้แล้ว ถ้าไม่ใช่การเต้าข่าวเล่น ๆ ข่าวจาก Dispatch ถือว่ามีเค้าจากข้อเท็จจริงอยู่มากเลยทีเดียว
Dispatch ยังคงทำหน้าที่ขี้แฉได้ดีเช่นเคย แต่ข่าวนี้ถือได้ว่าสะเทือนวงการไอดอล KPOP ไม่น้อย ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา #GOT7FOREVER ทะยานขึ้นเป็นเทรนด์อันดับ 1 ของโลก และเทรนด์อันดับ 1 ในอีกหลาย ๆ ประเทศ โดย Dispatch รายงานว่า เหล่าสมาชิกทั้งหมด 7 คนของวงบอยแบนด์ GOT7 โบกมืออำลาค่ายต้นสังกัดอย่าง JYP Entertainment กันยกวงเนื่องจากหมดสัญญา
ความจริงแล้ว GOT7 เป็นวงบอยแบนด์สัญชาติเกาหลีใต้ที่ดังระดับนานาชาติ ข่าวนี้ขายได้อยู่แล้ว แต่การที่ศิลปิน “เทค่ายยกวง” ไม่มีใครต่อสัญญากับค่ายเลยแม้แต่คนเดียวแบบนี้ ก็ยิ่งเป็นที่จับตามองว่าเกิดอะไรขึ้น อนาคตของพวกเขาทั้ง 7 จะเป็นอย่างไรต่อ และแน่นอนว่าข่าวการแยกย้ายนี้ คนที่เจ็บไม่น้อยคือ อากาเซ่
สำหรับ GOT7 นั้น เป็นศิลปินชายกลุ่มสัญชาติเกาหลีใต้ ประกอบด้วยสมาชิก 7 คน หลายสัญชาติ ได้แก่ เจบี (หัวหน้าวง), จินยอง, ยองแจ และยูกยอม สัญชาติเกาหลีใต้ ส่วนสมาชิกที่เหลืออีก 3 คน มาร์ก สัญชาติอเมริกัน-ไต้หวัน, แจ็กสัน สัญชาติฮ่องกง และแบมแบม สัญชาติไทย เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2014 ก่อนจะเติบโตขึ้นเป็นวงบอยแบนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล

นั่นหมายความว่า ในเดือนมกราคม 2021 นี้ สมาชิก GOT7 ทั้ง 7 คนจะทำงานในนาม GOT7 ครบ 7 ปีพอดี โดยพวกเขาจะยังคงชื่อ GOT7 ภายใต้การดูแลของ JYP Entertainment ถึงวันที่ 19 มกราคมนี้ ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง ทำให้งานประกาศรางวัล Golden Disc Awards ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมกลุ่มร่วมกันครั้งสุดท้ายของพวกเขาทั้ง 7 คนไปโดยปริยาย
แม้ว่าจะมีสมาชิกจากหลายชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมกัน แต่การเดบิวต์เป็นวงเดียวกัน ทำงานด้วยกัน กินนอนด้วยกัน สนุกสนานด้วยกัน และเติบโตมาด้วยกัน ทำให้หนุ่ม ๆ GOT7 รักกันมาก นั่นยิ่งสะเทือนใจแฟนคลับ iGOT7 หรือที่เรียกตัวเองว่าอากาเซ่บ้าง กัซบ้าง หรือแม้แต่คนนอกกลุ่มแฟนคลับกลุ่มนี้ก็อดใจหายไม่ได้ พวกเขาอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ แต่สุดท้ายต้องต่างคนต่างไป พวกเขาก็คงเจ็บไม่แพ้แฟนคลับ
อย่างไรก็ดี ถึงจะใจสลาย ยัง move on ไม่ได้ในตอนนี้ แต่แฟนคลับเคารพในการตัดสินใจครั้งนี้ และร่วมแสดงความยินดีที่พวกเขาเป็นอิสระจากค่ายเสียที เพราะสำหรับแฟนคลับที่ตาม GOT7 มานาน (รวมถึงศิลปินกลุ่มอื่น ๆ) จะรู้ดีว่าค่ายเพลงไม่ได้ต่างอะไรนรกบนดิน ดราม่าระหว่างศิลปินและค่ายเพลงมีให้เห็นอยู่เนือง ๆ จนหลายคนรู้สึกหนักใจมากกว่าที่เห็นศิลปินที่ตัวเองรักต้องก้มหน้าก้มตาทำงานให้กับค่ายที่ไม่ได้สนับสนุนพวกเขาเท่าที่ควร
ช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา อากาเซ่ได้เห็น GOT7 คัมแบ็กเพียง 2 ครั้ง และครั้งสุดท้ายก็เป็นการปิดตำนานเสียอย่างนั้น ครั้งแรกในเดือนเมษายน 2020 และครั้งล่าสุด (สุดท้าย) คือเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งระยะเวลาห่างกันถึง 7 เดือน และการคัมแบ็กในช่วงเดือนเมษายน สมาชิกยังเหลือสัญญากับทางบริษัทอยู่เกือบ 1 ปี แต่กลับได้รับการโปรโมทอัลบั้มไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้กระแสแผ่วเกินกว่าที่คาด ทั้งที่พวกเขาไปไกลได้มากกว่านั้น ก็เป็นอีก 1 ปัจจัยที่สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาแฟนคลับเท่าไรนัก

รวมถึงดราม่าต่าง ๆ ในทำนองว่าค่ายไม่ได้ใส่ใจหรือสนับสนุนศิลปินเท่าที่ควร เช่น ก่อนหน้านี้มีสมาชิกคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงในโรงเรียน แต่ทีมกฎหมายของบริษัทกลับไม่ดูแลจัดการในเรื่องนี้ ทั้งที่ค่ายต้นสังกัดควรจะปกป้องศิลปินด้วยการดำเนินตามกฎหมายกับผู้ที่ให้ข้อมูลเท็จหรือการใส่ร้ายศิลปิน
ส่วนอีกประเด็นคือเรื่องของการที่ค่ายหากินจากการขายสินค้าออฟฟิเชียลของวงให้กับเหล่าแฟนคลับ โดยที่ไม่ให้ศิลปินคัมแบ็ก (ปกติของเหล่านี้จะขายในช่วงโปรโมทศิลปินเวลาคัมแบ็ก) ระยะเวลาการโปรโมทก็สั้นและทำเหมือนขอไปที ทั้งละเลยการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก เป็นต้น ก็เป็นดราม่าที่แฟนคลับรับรู้อยู่เรื่อย ๆ
จากเหตุการณ์เหล่านั้น แฟนคลับต่างเป็นห่วงสภาพจิตใจของศิลปินเสมอ เพราะรู้ดีว่าภายใต้หน้ากากหรือหัวโขนที่เขาสวมใส่ขึ้นเวทีนั้นก็แค่สิ่งที่ห่อหุ้มสภาพจิตใจที่ไม่รู้ว่าแย่มากน้อยแค่ไหน มีกรณีตัวอย่างหลายข่าวที่ทำให้เราได้เห็นว่าไอดอลหลายคนต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดทรมานทางจิตใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เช่นเดียวกันกับหนุ่ม ๆ GOT7 บางทีอาจดีกว่าที่พวกเขาเลือกที่จะไม่ต่อสัญญา เพราะหากต่อสัญญาแล้วต้องเผชิญกับปัญหาเดิม ๆ นี่ก็คงไม่ใช่สิ่งที่แฟนคลับอยากจะเห็นกัน
วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา JYP Entertainment ก็ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเรื่องสัญญาของ 7 หนุ่ม GOT7 ว่าพวกเขาทั้ง 7 จะสิ้นสุดการเป็นศิลปินในความดูแลของค่ายในวันที่ 19 มกราคมที่จะถึงนี้ สมาชิกทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่ต่อสัญญา แม้ค่ายจะอ้างว่าเดิมมีสมาชิกจะต่อสัญญา แต่ถ้าไม่ได้เป็นทีมเดียวกันก็ยากที่จะไปต่อ ทั้งสองฝ่าย (ค่ายและศิลปิน) ต่างอวยพรให้กับอนาคตใหม่ของกันและกัน และขอบคุณแฟนคลับที่สนับสนุนพวกเขาตลอดมา นี่จึงเป็นการปิดตำนาน 7 ปีของ GOT7 จากฝั่งของค่ายอย่างเป็นทางการ

แม้จะต้องแยกย้าย แต่สมาชิกไม่คิดว่านี่เป็นจุดจบ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพวกเขาเติบโตมาด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นให้พวกเขาทั้ง 7 ได้เดินหน้าต่อไปเพื่อคนที่สนับสนุนพวกเขา ส่วนอนาคตของหนุ่ม ๆ ทั้ง 7 คนต่อจากนี้ ตามข่าวของเกาหลีได้สรุปออกมาว่า
- เจบี – ศิลปินเดี่ยว
- มาร์ก – เดินทางกลับสหรัฐอเมริกาไปอยู่กับครอบครัว พร้อมกับเตรียมเปิด YouTube Chanel และวางแผนการเป็นศิลปินเดี่ยว
- แจ็กสัน – ทำงานกับ Team Wang ของเขาเองและทำตารางงานในเกาหลีผ่านทางเอเจนซี่
- จินยอง – เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงค่าย BH Entertainment
- ยองแจ – เตรียมย้ายไปค่าย Sublime Artist
- แบมแบม – ทำงานที่ไทยและเกาหลีใต้ แต่เตรียมย้ายสังกัดไปที่ Makeus Entertainment
- ยูกยอม – เซ็นสัญากับค่ายเพลงฮิปฮอป AOMG
ถึงจะรู้ดีว่าพวกเขาแค่แยกย้ายกันไปเติบโต แต่พอคิดว่า GOT7 จะเป็นเพียงชื่อที่เหลืออยู่ก็อดใจหายไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร พวกเขาก็ยังเป็น GOT7 ของเหล่าอากาเซ่เสมอ
ในเมืองไทย GOT7 ถือเป็นวงศิลปินเกาหลีใต้ที่ดังมากวงหนึ่ง จากการมีงานต่าง ๆ ครบทั้ง 4 ภาคของไทย ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเสิร์ตวง แฟนมีตติ้ง พรีเซ็นเตอร์ งานถ่ายเดินแบบ งานถ่ายแบบ GOT7 ล้วนทำในไทยมาหมดแล้ว ทั้งงานเดี่ยว งานวง โดยครั้งล่าสุด GOT7 มีตารางขึ้นคอนเสิร์ตที่ราชมังคลากีฬาสถาน แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเพราะพิษ COVID-19 โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเลื่อนแล้วเลื่อนเลย อาจไม่มีการทำงานในฐานะ GOT7 อีกแล้ว
คำว่า “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” ไม่มีใครชอบ แต่นี่เป็นสัจธรรมที่ต้องยอมรับให้ได้ แม้ว่าหลังจากนี้พวกเขาจะไม่ได้โปรโมทผลงานในชื่อของ GOT7 แต่อากาเซ่ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของพวกเขา เฝ้าดูพวกเขาเติบโตในทางของตัวเอง และเราก็จะจดจำพวกเขาในฐานะ GOT7 เสมอ

สำหรับกิจกรรมกลุ่มครั้งสุดท้าย พวกเขาปรากฏตัวพร้อมกันทั้ง 7 คนในงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 35 ได้ขึ้นโชว์ร่วมกัน ในเพลง Not By The Moon และเพลง BREATH เพลงจากอัลบั้มล่าสุดที่ปล่อยออกมาก่อนหมดสัญญา และที่สำคัญ GOT7 ยังรับรางวัล Best Album (Bonsang) จากงานนี้ด้วย (เป็นงานแรกที่ GOT7 ได้รางวัล Best Rookie และเป็นรางวัลสุดท้ายในฐานะวง)
นี่จึงเป็นการเดินทางตลอด 7 ปี ของสมาชิก GOT7 ทั้ง 7 คนที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาคือความภาคภูมิใจของอากาเซ่ทั่วโลก หลังจากนี้ทั้ง 7 คน จะเดินในเส้นทางของตัวเอง ต่อให้ไม่มีชื่อ GOT7 หรือไม่ว่าพวกเขาจะกลับมาเจอกันด้วยชื่ออะไรก็ไม่สำคัญ แค่พวกเขาเป็นพวกเขาก็พอแล้ว
ตราบใดที่อากาเซ่ยังอยู่กับ GOT7 พวกเขา GOT7 ก็จะอยู่กับอากาเซ่ตลอดไป อย่างน้อยที่สุดอากาเซ่เมืองไทยก็จะคอยสนับสนุนผลงานของพวกเขาอยู่ตลอดไม่ว่าจะผลงานใดก็ตาม ให้เห็นว่าอากาเซ่ของไทยก็แข็งแกร่งไม่แพ้อากาเซ่ชาติไหนในโลก