ข่าวดีคนอยากเปลี่ยนรถ! เอารถคัน “เก่า” ไปแลกรถคัน “ใหม่” สิ

สำหรับคนที่มีรถเก่าใช้มาหลายปี แล้วเริ่มมีความคิดอยากจะเปลี่ยนรถ ซื้อรถคันใหม่ อย่าเพิ่งใจร้อนรีบไปโชว์รูมตอนนี้ Tonkit360 อยากให้มาแวะอ่านบทความนี้ก่อนว่า “เอารถคันเก่าไปแลกรถคันใหม่” ที่ว่านี้ มีหลักเกณฑ์หรือมีเงื่อนไขอะไรอย่างไรบ้าง

รถแลกแจกแถม โครงการดี ๆ ของคนอยากมีรถใหม่

เป็นโครงการที่รัฐบาลมีขึ้นเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศในระยะปานกลางจนถึงระยะยาว โดยรถเก่าที่นำไปแลก คือรถเก่าที่มีอายุการใช้งาน 15 ปีขึ้นไป นำไปแลกเป็นรถใหม่ป้ายแดง แถมยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งเสริมมาตรการอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ประเทศไทยเป็นเมืองสะอาดจากมลพิษ รวมถึงการจัดการกับซากรถ ที่เป็นขยะที่จัดการยาก และมักจะถูกทิ้งไว้ริมถนนจนกลายเป็นทัศนะอุจาด

เงื่อนไขของคนมีรถเก่าแต่อยากได้คันใหม่

สำหรับโครงการ “รถแลกแจกแถม” หรือ “รถเก่าแลกรถใหม่ 100,000 คัน” นี้ มีจุดประสงค์หลัก ๆ คือ เพื่อให้ประชาชนนำรถเก่าที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 15 ปีขึ้นไป มาเปลี่ยนเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์เก่าที่ใช้มานานเกือบทั้งหมดยังใช้เป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ใช้พลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนรถใหม่ที่สามารถนำไปแลกได้นั้นจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศได้มากกว่า

เบื้องต้น เงื่อนไขโครงการมี 4 ข้อ คือ

1. ประชาชนที่นำรถเก่ามาแลกจะได้รับส่วนลดภาษีไม่เกิน 100,000 บาท

2. คูปองส่วนลดในการซื้อรถยนต์ใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ

3. นำรถเก่าที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป นำมาแลกสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล

4. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลได้ 3 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่ารถยนต์ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อคัน

ทั้งนี้อาจมีรายละเอียดเพิ่มเติม Tonkit360 จะอัปเดตให้ทราบต่อไป

ข้อมูลจำนวนรถเก่าในประเทศไทย

จากข้อมูลของกรมขนส่งทางบก จำนวนรถที่จดทะเบียนสะสมในประเทศไทย ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 มีทั้งสิ้น 41,317,123 คัน โดยจำนวนรถเก่ามีดังนี้

  • รถเก่าอายุ 10 ปี มีจำนวน 13.8 ล้านคัน
  • รถเก่าอายุ 16 ปี มีจำนวน 7.1 ล้านคัน
  • รถเก่าอายุ 20 ปี มีจำนวน 4.3 ล้านคัน

จะเห็นว่า จำนวนรถเก่าในประเทศไทยมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ยิ่งมีผลต่อคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะบริเวณชุมชน หรือเมืองใหญ่ ๆ ส่งผลต่อสุขภาพของประชากรด้วย

รถเก่ากับปัญหาสิ่งแวดล้อม

อย่างที่กล่าวไปตอนแรก รถยนต์เก่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัจจุบัน ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัญหาที่ทุกประเทศให้ความสนใจกันมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชากรโลกด้วย อย่างที่ไทยเองก็ได้รับผลกระทบชัดเจนจากภาวะเรือนกระจก ภาวะโลกร้อน หรือ PM2.5 ส่วนหนึ่งมีต้นตอมาจากมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถเก่าทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญที่จะช่วยลดมลภาวะ และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ เพราะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV มีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และลดการปล่อยมลภาวะที่เป็นตัวการสำคัญที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม

หากประเทศไทยใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันแพร่หลาย

แน่นอนว่าการหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีผลดีเรื่องของการลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ แต่สิ่งที่เป็นผลเสีย กลับเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เพราะปัจจุบันบ้านเรายังเป็นฐานการผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปที่สำคัญ การเข้ามาของรถ EV อาจกระทบต่อยอดขายของรถเครื่องยนต์สันดาป เพราะคนเห็นข้อดีของรถ EV มากกว่า

อีกทั้งแรงงานฝ่ายผลิตในอุตสาหกรรมก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดังนั้น แม้ว่ารถ EV จะมีผลบวกเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อม แต่น่าจะเป็นผลลบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจของประเทศมากกว่า หากรัฐบาลเร่งสนับสนุนเร็วเกินไป แทนที่จะใช้วิธีปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ถึงกระนั้น ช่วงนี้ก็ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเริ่มต้นสนับสนุนรถ EV เนื่องจากความต้องการรถยนต์ในช่วงปัจจุบันกำลังลดลง เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 และปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยกันทั่วโลก การกระตุ้นด้วยนโยบายลักษณะนี้จึงน่าจะช่วยให้มีนักลงทุนสนใจลงทุนกับรถ EV มากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเองก็มีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์อยู่แล้ว การปรับตัวอีกเล็กน้อย ก็น่าจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ EV ได้

รถเก่าแลกรถใหม่กับตลาดรถยนต์มือสอง

เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่า โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ของทางรัฐบาลนี้ น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มือสองอย่างแน่นอน เพราะเงื่อนไขการแลกรถ คือการนำรถเก่าไปเป็นส่วนลดภาษีรถที่ลดสูงสุดได้ถึง 100,000 บาท และสิทธิพิเศษอื่น อีกทั้งรถคันใหม่ที่ได้ยังเป็นรถใหม่ป้ายแดง ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน รวมถึงเป็นรถ EV ที่มีข้อดีดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

หากโครงการนี้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ผู้ประกอบการตลาดรถยนต์มือสองจึงต้องหาทางออก เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเตรียมแผนรับมือ หากประเทศไทยจะสนับสนุนการใช้รถ EV ในอนาคต