เหตุระเบิดในแมนเชสเตอร์ อีกครั้งที่ “โลกออนไลน์” ถูกใช้ให้เป็นประโยชน์

เหตุระเบิดในแมนเชสเตอร์ อารีน่า ประเทศอังกฤษ หลังจบคอนเสิร์ตของ อาเรียน่า แกรนเด ศิลปินสาวชื่อดังได้ไม่นาน ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ไม่มีใครคาดคิด และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 59 คน รวมถึงมีผู้สูญหายที่ญาติยังตามหาตัวอีกจำนวนมากด้วย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการก่อการร้าย

ขณะที่ อาเรียน่า แกรนเด ออกมาทวีตข้อความแสดงความเสียใจ และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยข้อความว่า “broken. from the bottom of my heart, i am so so sorry. i don’t have words.”

ทั้งนี้  สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมาก  เพราะนอกจากใช้ติดตามข่าวที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีแล้ว ก็ยังเป็นช่องทางสำคัญในการติดตาม ให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในครั้งนี้ด้วย

โดย “เฟซบุ๊ก” เปิดใช้งานฟีเจอร์  Facebook Safety Check อีกครั้ง ในการตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งอยู่ใกล้เคียงบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อให้กดยืนยันสถานะของตัวเองว่าปลอดภัยดีหรือไม่   ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กคนอื่นๆ ก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้เช็กความปลอดภัยของคนในครอบครัว เพื่อนฝูงได้เช่นกัน

ด้าน “ทวิตเตอร์” แฮชแท็ก # Manchester ติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ของโลกทันที เพราะเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้คนใช้ตามหาญาติ เพื่อนฝูงที่ไปดูคอนเสิร์ตแล้วยังติดต่อไม่ได้ หรือสูญหายหลังเกิดเหตุระเบิด ซึ่งการรีทวีตของชาวเน็ตถือเป็นการช่วยกระจายข่าวตามหาคนหายได้ในวงกว้างมากขึ้น

นอกจากนี้ ก็ยังมีการติดแฮชแท็ก  #roomformanchester  จำนวนมาก เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่พัก รวมถึงน้ำ และอาหาร สำหรับผู้ที่เดินทางมาดูคอนเสิร์ตต่างเมืองหรือต่างประเทศ  แล้วได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย  ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นข้อดีของสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อถูกนำมาใช้ในทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสังคม