คุณเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ไหม?
แค่จั่วหัวมาก็สัมผัสได้ถึงเรื่องลี้ลับยากจะอธิบาย เรื่องที่โต้เถียงกันยังไงก็ไม่มีทางหาที่สิ้นสุดได้แน่นอน เพราะก็ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ยังมีสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้
ใช่แล้ว วันนี้เราจะพูดถึงซีรีส์ไทยที่เพิ่งออนแอร์ไปแค่ตอนเดียว “ลองของซีรีส์” ตอนที่ได้เห็นตัวอย่าง 1-2 นาทีก็ตัดสินใจเลยว่าจะดู ต้องดู ยังไงก็ต้องดู ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนเชื่อเรื่องผีสางนางไม้หรือไสยศาสตร์มนต์ดำชนิดปักใจว่ามีแน่ ๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ในเมื่อมันยังมีสิ่งที่ไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์มารองรับ (แต่เชื่อเป็นพิเศษตอนสอบสมัยเรียนกับตอนหางานนั่นแหละ)
“ลองของซีรีส์” ซีรีส์ไสยศาสตร์ที่มีที่มาจากภาพยนตร์ไทยที่นานมากกว่า 10 ปีแล้ว (เกิดทัน เคยได้ยิน แต่ไม่เคยดู) “ลองของ ปี 2548” และ “ลองของ 2 ปี 2551” ที่กลับมามอบความสยองอีกครั้งในปี 2563 อย่างแรกเลย แม้ว่านี่จะเป็นปี 2563 ที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปไกลถึงขนาดที่เขาเตรียมจะสร้างโรงแรมในอวกาศกันอยู่แล้ว แต่เรื่องไสยศาสตร์ก็ยังขายได้และขายดีในสังคมไทย
เรื่องราวอื้อฉาวในชมรมเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยสมมติแห่งหนึ่ง ชนวนสงครามมาจากความต้องการเป็น “เซ็นเตอร์” ประจำทีม ความอิจฉาริษยาชิงชัง ค่อย ๆ เปิดเผยด้านมืดในใจคนทีละนิด ๆ จนในที่สุด มันก็เลยเถิดถึงขั้นทำร้ายกัน ทำคุณไสยใส่กัน เกิดเรื่องราวเร้นลับขึ้นกับสมาชิกในทีม เมื่อมีสมาชิกตายอย่างผิดธรรมชาติ การตายที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะหาหลักฐานที่ระบุว่าใครเป็นคนทำไม่ได้
ไสยศาสตร์ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย
จริง ๆ แล้วไสยศาสตร์ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด มีจริงไหมไม่รู้แต่ความเชื่อนี้ไม่เคยหายไป และอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นตามยุคสมัย (คิดว่าไสยศาสตร์ก็ต้องพึ่งความเร็วของเทคโนโลยีบ้างไม่มากก็น้อย) ถึงเราจะไม่ได้เข้าไปคลุกคลี แต่ความเชื่อนี้มีทั้งในคนเมืองและคนต่างจังหวัด โดยเฉพาะต่างจังหวัดบางพื้นที่นี่คือเชื่อกันรุนแรงมาก ในเมื่อมันยังพิสูจน์ไม่ได้ด้วยหลักการและเหตุผล ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ อย่าริอย่าลอง ต่างคนต่างอยู่เหมือนเคยจะดีกว่า
“คุณไสย…มนต์ดำ…ลองแล้ว ทำแล้ว มันจะติดตัวพวกมึงไปจนกว่าจะตาย!” เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่น วัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ gen ใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่าคนรุ่นใหม่อายุยี่สิบต้น ๆ จะแก้ปัญหาด้วยไสยศาสตร์ (รวมคนที่สวดมนต์บนบานตอนจะสอบด้วย) นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าไสยศาตร์กับสังคมไทยไม่เคยแยกจากกัน ผ่านไปกี่ปีกี่ พ.ศ. ก็แทรกซึมอยู่ในทุกเพศทุกวัย ถึงจะไม่เห็นจากคนรอบข้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี!
ความรุนแรงในสถานศึกษาก็ไม่เคยหายไปเหมือนกัน
สิ่งที่น่ากลัวสำหรับความรุนแรงในสถานศึกษาในซีรีส์เรื่องนี้ คือ “สังคมมหาวิทยาลัย” ตอนเด็ก ๆ เคยคิดมาตลอดว่าสังคมมหาวิทยาลัยมันเป็นช่วงที่อายุอานามเราเป็นผู้ใหญ่ บรรลุนิติภาวะกันแล้ว ต้องต่างจากสังคมโรงเรียนที่มีแต่เด็ก ๆ โดยที่บางคนยังมีความคิดไม่รู้จักโตด้วยซ้ำ แต่ไม่! ไม่ใช่เลย
สังคมมหาวิทยาลัยเป็นสังคมใหญ่ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างมาใช้ชีวิตรวมกันที่นี่ ในขณะที่โรงเรียนยังเป็นสังคมของคนที่บ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงเดินทางไม่ไกลมาก ความร้อยพ่อพันแม่มันยิ่งทำให้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดปัญหาง่ายขึ้น โดยเฉพาะการบุลลี่ ซึ่งมันต่างจากการแกล้งกันสมัยเรียนประถมหรือม.ต้น (สมัยที่เราเรียน) มันรุนแรงกว่า แล้วมันก็แทบจะมองไม่ออกเลยว่าใครคือเพื่อน แล้วใครคือศัตรูที่แฝงมาเป็นเพื่อน
ยังไม่นับรวมประเพณี (?) การรับน้องใหม่ที่รุนแรง ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องแบบโซตัสที่ไร้ตรรกะและเหตุผล ชีวิตนักศึกษาไม่ได้ใส ๆ เหมือนในละครสมัยเด็ก ที่เปิดเทอม นักศึกษาจะกอดสมุดหนึ่งเล่ม สะพายกระเป๋าที่ไหล่สักข้าง เดินสวย ๆ เข้าคณะ แต่ชีวิตจริงคือหอบเป้ หัวฟู วิ่งเข้าคณะ เพราะมีรุ่นพี่มาคอยตะโกนอยู่ตลอดทางว่า “เร็ว ๆ”
อย่าพยายามเป็นคนอื่นเลย มันเหนื่อย
ตัวละครเอกในเรื่องชื่นชมเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เป็นตัวท็อปของชมรมเชียร์ขนาดยกให้เป็นไอดอล เธอใฝ่ฝันจะไปยืนตรงจุดนั้นบ้าง แต่ความจริงเป็นได้เพียง staff ยกน้ำ เอาชุดไปซัก ถูพื้นโรงยิม เธอเลยพยายามที่จะเป็นแบบไอดอลที่เธอชื่นชม เปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนสีผม แต่งหน้า แต่งตัว เลียนแบบทุกอย่างอย่างกับฝาแฝด แน่นอนว่าการทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองมันฝืนธรรมชาติของคนที่ธรรมชาติออกแบบมาให้ไม่เหมือนกัน ขนาดฝาแฝดยังไม่เหมือนกันไปทุกอย่างเลย ไม่คิดว่าโลกนี้จะวายป่วงบ้างเหรอถ้าทุกคนบนโลกเหมือนกันไปหมด
คนที่ถูกเลียนแบบก็คงไม่พอใจเหมือนกัน “ความเป็นฉัน” ถูกเลียนแบบโดยใครก็ไม่รู้ เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากที่จะมีแค่คนเดียวบนโลกทั้งน้้น ฉะนั้น อย่าพยายามจะเป็นแบบใคร มองเขาเป็นตัวอย่างได้ แต่ไม่ใช่ copy paste จงสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาโดยมีแบบอย่างที่เราชื่นชอบจะดีกว่า มันยากกว่าการ copy แต่การ copy มันเหนื่อยกว่าในแง่การใช้ชีวิตที่เราจะไม่เป็นตัวเองอีกต่อไป
เอาเข้าจริงนักแสดงเรื่องนี้ เป็นหน้าใหม่เกือบยกชุด ถึงจะพอมีผลงานกันมาบ้างแต่ก็ยังรู้จักแค่ในกลุ่มแฟนคลับที่ติดตาม แต่พวกเขาสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ดีเกินคาด เกินคาดไปมาก แม้ว่าจะยังมีเล่นแข็ง ๆ ไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดตาจนถึงขั้นต้องวิพากษ์วิจารณ์
สำหรับ “ลองของซีรีส์” เป็นลิขสิทธิ์ของ Five Star Production ที่มาลงออนแอร์ทางช่อง 3HD ดูเหมือนว่าทีแรก ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นซีรีส์ออริจินัลที่เป็นโปรเจกต์ของแพลตฟอร์ม OTT เจ้าหนึ่ง แต่ตอนนี้ลาวงการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ค่ายเลยมาเช่าเวลาของช่อง 3 ออนแอร์
จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้อีกอย่างที่บอกเลยว่าถ้าพลาดชีวิตจะยากทันที เพราะ “ไม่มีรีรันหรือย้อนหลังใด ๆ ทั้งสิ้น” เท่ากับว่าต้องดูสดผ่านจอทีวีเท่านั้น ย้ำว่าทีวีเท่านั้น! เราลองเปิดดูออนไลน์ผ่านมือถือแล้ว นางไล่ให้ไปเปิดทีวีดูจ้า เอาเป็นว่าถ้าพลาดแล้วก็คือพลาดเลย แน่นอนว่าถ้าคนจะดูก็ต้องเสาะแสวงหาดูจนได้ แต่เราไม่สนับสนุนให้ดูแบบผิดลิขสิทธิ์นะ ฉะนั้น ไปเปิดทีวีเหอะ ซีรีส์สั้น ๆ 8 ตอน ตอนละไม่ถึงชั่วโมง มีแค่อาทิตย์ละตอน ไม่เสียเวลามากนักหรอก
ซีรีส์ออนแอร์ทุกคืนวันอาทิตย์ ประมาณสี่ทุ่มครึ่งก็เปิดทีวีรอดูข่าวไปพลาง ๆ ก่อน รับประกันความลุ้นจิกหมอน (ไม่ได้ฟิน แต่หลอนสยองน่ากลัว) ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นซีรีส์ไทยอีกเรื่องที่น่าติดตาม แบบที่นาน ๆ ทีจะมีมาให้เห็น (สำหรับตัวเรา) ซีรีส์ที่ทำได้เกินคาดแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยในวงการละครบ้านเราปัจจุบัน ^o^