
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หากลองสังเกตเทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศ 20 อันดับดู จะพบว่าเกินครึ่งเป็นแฮชแท็กเกี่ยวกับความบันเทิง มีตั้งแต่ละคร ซีรีส์ รายการ นักร้อง นักแสดง ไอดอลเกาหลี คู่จิ้น คู่จริง ติดเทรนด์กันให้พรึ่บ โดยเฉพาะแฮชแท็กที่มีที่มาจาก “ความวาย” มีให้เห็นถึง 1 ใน 3 เพราะอย่างบ้านเราก็มีคู่ชิปสายวายอยู่หลายคู่ ทั้งชาย-ชาย หญิง-หญิง แต่แฮชแท็กก็คือคนคู่เดียวนี่แหละ ที่ครองได้ 2-3 เทรนด์ ต้องยกความดีความชอบให้ติ่งสายวาย ที่เล่นปั่นแท็กทั้งชื่อไทย ชื่ออังกฤษ ชื่อด้อมชิปเปอร์ บลา ๆ
เพราะตอนนี้ซีรีส์วายบ้านเรามันเฟื่องฟูมาก ความวายขายดิบขายดีมีตลาดรองรับ ตลาดส่งออกก็มีทั้งจีน เกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่เปิดพื้นที่ให้เพศทางเลือกมีที่ยืนในสังคม อย่างสังคมเกาหลีนี่แอนตี้กันแรงชนิดเหยียด ถูกแบน ถูกปฏิบัติเหมือนไม่ใช่คนเลยด้วยซ้ำ (จริง ๆ ติ่งเกาหลีก็รู้กันดีว่าสังคมเกาหลีไม่ได้ทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ผู้ชายหล่อ) แต่ ๆๆ ถ้ามันจะมีซีรีส์สักเรื่องที่กล้าแหกกรอบวัฒนธรรมแอนตี้เพศ LGBTQ เชื่อเถอะ มีหนึ่งแล้ว ก็ต้องมีสองสามสี่
Where Your Eyes Linger เป็นซีรีส์วายสัญชาติเกาหลี ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด “ซีรีส์วายสัญชาติเกาหลี” (มาช้าแต่ก็ยังมา) จริง ๆ ซีรีส์เรื่องนี้จะบอกว่าเกาหลีทำขายก็ไม่ได้ซะทีเดียว เพราะเหมือนทำออกมาเพื่อส่งเข้าวิจัยในห้องแลปฯ ว่ามีแนวโน้มจะไปต่อได้ไหมในอนาคตมากกว่า ซีรีส์เรื่องนี้ฉายจบแล้ว เพราะมีจำนวนตอนสั้น ๆ เพียง 8 ตอน ตอนละประมาณ 10 กว่านาที ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็สามารถดูซีรีส์จบได้เรื่องนึง
สำหรับพล็อตเรื่อง ไม่ได้ต่างจากซีรีส์วายส่วนใหญ่ ผู้ชาย 2 คนอยู่ด้วยกันมาจนรักกัน จากนั้นก็มีชะนีน้อยมาแทรกกลาง หลังจากเคลียร์เรื่องผู้หญิงจบก็ถูกครอบครัวกีดกันอีก แต่รายละเอียดมีมากกว่านั้น ต้องไปดูเอง
ซีรีส์เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กผู้ชาย 2 คนที่ถูกเลี้ยงให้อยู่ด้วยกันมาตลอด 15 ปี เป็นเพื่อนกัน แต่สถานะจริง ๆ คือ “เจ้านายกับคนใช้” คนหนึ่งเป็นทายาทตระกูลดัง ส่วนอีกคนเป็นบอดี้การ์ด เหมือน “เงา” ที่ติดตามไปทุกที่ จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะผูกพันกัน และดีตรงที่ชะนีน้อยที่เข้ามาแทรกกลางไม่ได้งี่เง่าจนน่ารำคาญ ก็เลยดูได้เรื่อย ๆ ไม่มีปัญหา

เตรียมปูทางเข้าสู่อุตสาหกรรมวาย
ใครจะไปคิดว่าพี่เกาเขาจะกล้าแหกกฎเรื่องเพศในวัฒนธรรมของเขาแล้วหันมาปูตลาดสายวาย แถมยังเป็นเรื่องที่ออกฉายได้ ไม่ต้องแอบดูกันใต้ดิน แล้วก็ฉายจนจบด้วย ถึงแม้ว่าเรื่องจะสั้นไปหน่อยก็เถอะ ติ่งสายวายคงดูแล้วไม่สะใจเท่าไหร่ แต่ก็มีช่วงที่ปิดตา จิกหมอนสนองความฟินเยอะอยู่นะ เป็นก้าวแรกที่ไม่เลวเลย
เราไม่ใช่สายวาย ก็เลยดูแล้วไม่อินเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ดูที่ตัวงาน ถือว่าเขาทำได้ดีมาก บทเอย โปรดักชั่นเอย นักแสดงเอย (หล่อทั้งคู่) เคมีนักแสดงเอย ถ้าดูแบบไม่อคติ ความฟินก็ไม่ได้ต่างจากซีรีส์ชาย-หญิงเท่าไหร่ ถึงจะมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าพี่เกาเขาพัฒนาได้อยู่แล้ว เพราะซีรีส์เนี่ยเป็นอุตสาหกรรมบ้านเขา มีอะไรหลาย ๆ ที่ว้าวกว่าละครไทย เลยไม่แปลกที่จะมีคนเทละครไทย แล้วยกพลขึ้นคาบสมุทรเกาหลีตอนใต้ หันไปเสพซีรีส์เกาหลีกันมากขึ้น หลังจากนี้ซีรีส์วายไทยก็คงต้องระวัง ถ้าพี่เกาเขาไปต่อได้จริง เขาก็เข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดแน่นอน
ไม่ควรเอา “เพศ” มาจำกัดนิยามความรัก
เข้าใจได้อยู่ว่าวัฒนธรรมของเขาเป็นแบบชายเป็นใหญ่ แล้วก็มองคนว่ามีแค่ 2 เพศตามลัทธิขงจื๊อ แต่นี่มันปี 2020 แล้วไง มาครึ่งปีแล้วด้วย (เร็วเนอะ) บริบทของสังคมหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปแล้ว ความต้องการเป็นอิสระทางเพศมีมากขึ้น หลายประเทศก็รณรงค์ มีชุมนุมประท้วงเรียกร้องสิทธิ์ให้คนกลุ่มนี้ ถ้าจะลองเปิดใจดูสักหน่อยจะเห็นว่าคนกลุ่มนี้เขาก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เขาแค่มีรสนิยมแบบนั้น หรือเขาก็แค่รักกัน
อีกอย่าง นิยามความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่รู้กันว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม เมื่อตกอยู่ในภวังค์แห่งรักทำให้คนมีความสุข ดังนั้นใคร ๆ ก็ควรจะรักกันได้ จึงไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ที่ยังมีสังคมที่มีความคิดกีดกันไม่ให้คนเพศเดียวกันรักกัน และยังตราหน้าว่าพวกเขาเป็นพวกผิดปกติ อย่างไรก็ตาม Where Your Eyes Linger ก็พิสูจน์แล้วว่าสังคมเกาหลีกำลังจะเปลี่ยนไป ถ้ามีคนเริ่มแล้วมันก็มีคนสานต่อได้ไม่ยาก
จึงน่าจับตาดูต่อ ว่าถ้าหากเกาหลีใต้เขาสามารถก้าวข้ามกรอบของวัฒนธรรมและความเชื่อเดิมไปได้ เชื่อเถอะ “ซีรีส์วาย” จะกลายเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมทำเงินอย่างงามของเกาหลีใต้แน่นอน @_@