
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดราม่าใหญ่โตข้ามชาติระหว่าง “ไทย จีน ไต้หวัน และฮ่องกง” เกิดขึ้นในทวิตเตอร์ ซึ่งชาวทวิตภพไทยบางส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่อีกส่วนเลือกที่จะตามข่าวอยู่เงียบ ๆ
จุดเริ่มต้นของสงครามคีย์บอร์ดครั้งนี้มาจากซีรีส์วายเรื่องหนึ่งของไทย และนักแสดงนำชายของเรื่องได้เข้าไปคอมเมนต์พูดคุยกับแฟนสาวใน Instagram (ตามอ่านได้จากแฮชแท็ก #China และ #nnevvy ในทวิตเตอร์) จนมีเรื่องของจีน ไต้หวัน และฮ่องกงเต็มไทม์ไลน์ เพราะเกิดการเปิดศึกฝีปากระหว่างแฟนคลับจีนกับคนไทยบางส่วนจนเดือดไปทั้งทวิตเตอร์
จากประเด็นอันเปราะบางเรื่องรัฐและชนชาติของจีน ไต้หวัน และฮ่องกง (เรียงชื่อตามขนาดของพื้นที่) กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่สร้างปัญหาบานปลาย กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวทั้งกับคนไทย คนจีน คนไต้หวัน และคนฮ่องกง จึงเป็นที่มาของบทความนี้ที่ Tonkit360 อาสาเล่าความเป็นมาของ “จีน ไต้หวัน และฮ่องกง” เพื่อจะได้กระจ่างยิ่งขึ้นว่าเหตุใดดราม่าจึงเกิดขึ้นได้ง่ายดายนัก
จีน
มีชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China)” หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ มีประชากรมากที่สุดในโลก และปกครองด้วยระบอบรัฐคอมมิวนิสต์ เผด็จการเบ็ดเสร็จแบบสังคมนิยมนั่นเอง
จีนในปัจจุบัน เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่มาก จากการที่จีนมีศักยภาพก้าวขึ้นมาเป็นอภิมหาอำนาจของโลกตีคู่กับสหรัฐอเมริกาในเวลาอันรวดเร็ว มีฐานเศรษฐกิจขนาดใหญ่และเติบโตแบบก้าวกระโดด ตามเมืองใหญ่ ๆ บ้านเมืองก็ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยจนถึงขีดสุดในทุกด้าน รวมถึงยังมีอาวุธนิวเคลียร์และกองทัพที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมใคร ๆ ก็เกรงใจจีน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจีนต้องการขยับขึ้นมาเป็น “มหาอำนาจ” ผู้ครองโลกให้ได้ ด้วยการทำให้ชาวโลกเห็นว่าต้องพึ่งพาจีน ซึ่งอันที่จริง จีนครองความยิ่งใหญ่มาตั้งนานแล้ว จากการที่อารยธรรมจีนเป็นหนึ่งในอารยธรรมแรก ๆ ของโลก วัฒนธรรมของคนเอเชียส่วนหนึ่งก็มีพื้นฐานมาจากจีน และเห็นได้ชัดที่สุดก็คือ การที่จีนเรียกประเทศตัวเองว่า 中国 (中 แปลว่า ตรงกลาง, 国 แปลว่า ประเทศ) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการมองตัวเองเป็น “ประเทศตรงกลางของโลก” ของจีนมีมานานแล้ว และยังต้องการแผ่ขยายอำนาจไปยังแผ่นดินรอบข้าง เพื่อทำให้ “แผ่นดินจีน” ใหญ่ขึ้น
ไต้หวัน
มีชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐจีน (Republic of China)” แม้จะคล้ายกับชื่อทางการของจีน แต่อย่าจำสับสนกับจีนเด็ดขาด เรื่องนี้คนไต้หวันอ่อนไหวมาก เพราะประวัติศาสตร์ของไต้หวันไม่ค่อยจะสู้ดีกับเพื่อนบ้านอย่างจีน
ประวัติศาสตร์ของเกาะเล็ก ๆ ในทะเลจีนตะวันออกแห่งนี้เต็มไปด้วยการต่อสู้ เดิมเกาะไต้หวันเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมืองและคนจีนแผ่นดินใหญ่บางส่วน ซึ่งปัจจุบันยังมีวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองให้ได้ศึกษาอยู่ แต่ก่อนจีนแผ่นดินใหญ่ก็เฉยเมยกับเกาะนี้มาโดยตลอด กระทั่งนักเดินเรือชาวโปรตุเกสที่แล่นเรือผ่านมาสะดุดตาเกาะนี้เข้า และตั้งชื่อเกาะนี้ว่า “อิลลา ฟอร์โมซ่า (Ilha Formosa)” ที่แปลว่า เกาะอันงดงาม ซึ่งเกาะไต้หวันก็มีธรรมชาติที่สวยงาม และมีที่น่าเที่ยวเยอะมาก ๆ
ต่อมา ชาวดัตช์ก็ถูกใจเกาะนี้เข้า เลยมาตั้งอาณานิคมอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ตามมาด้วยชาวสเปนที่ยึดตอนเหนือของเกาะเป็นอาณานิคม จนถึงช่วงที่ราชวงศ์ของจีนเริ่มสั่นคลอน มีชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่บางส่วนอพยพหนีมาตั้งหลักบนเกาะไต้หวัน และขับไล่พวกตะวันตกออกไป ส่วนชาวพื้นเมืองยังอาศัยอยู่ได้เหมือนเดิม
ไม่นานนัก ไต้หวันก็ตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น ในช่วง 50 ปีนี่เอง ที่ญี่ปุ่นพัฒนาไต้หวันในด้านต่าง ๆ จนกลายเป็นเมืองสมัยใหม่ ส่วนประชากรก็ได้รับการหล่อหลอมด้านวัฒนธรรมและความเป็นอยู่แบบญี่ปุ่นอย่างชัดเจน
ต่อมา เมื่อสงครามแย่งชิงอำนาจในจีนแผ่นดินใหญ่จบลง ด้วยความพ่ายแพ้ของนายพลเจียง ไคเช็ก ผู้นำพรรคชาตินิยมก๊กมินตั๋ง นายพลเจียงและผู้สนับสนุนจึงได้ย้ายฐานอำนาจมาที่ไต้หวัน และปกครองไต้หวันจนเป็นเมืองที่เจริญและทันสมัย มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นหนึ่งใน 4 เสือแห่งเอเชียร่วมกับฮ่องกง สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ และปัจจุบันไต้หวันปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบกึ่งประธานาธิบดี
ฮ่องกง
มีชื่อทางการว่า “เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China)” ปัจจุบัน จีนใช้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ถือสิทธิ์ปกครองเหนือฮ่องกง ฮ่องกงจึงเป็นเขตบริหารพิเศษที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางจีน
เดิมฮ่องกงเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ และเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้า เนื่องจากมีท่าเรือน้ำลึกที่เหมาะแก่การเทียบท่าของเรือสินค้าขนาดใหญ่ จึงทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองท่าสำคัญของโลก
ต่อมา ฮ่องกงตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษหลังจบสงครามฝิ่นที่อังกฤษรบกับจีน จีนพ่ายแพ้สงคราม อังกฤษจึงบีบบังคับทำเรื่อง “เช่าซื้อ” เกาะฮ่องกงจากจีน เมื่ออังกฤษยึดได้ ก็เข้ามาวางรากฐานความเจริญต่าง ๆ ให้กับฮ่องกง
อังกฤษเช่าเกาะฮ่องกงมานานถึง 99 ปี ระหว่างนั้นฮ่องกงก็ถูกญี่ปุ่นยึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2540 อังกฤษทำพิธีส่งคืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีน โดยจีนจะยอมให้ฮ่องกงอยู่ในฐานะ “เขตปกครองตนเอง” ที่สามารถปกครองตนเองได้อย่างอิสระไปอีก 50 ปี หลังจากนั้น ฮ่องกงจะเปลี่ยนไปปกครองแบบเมืองอื่น ๆ ของจีน
จากการวางรากฐานของอังกฤษ ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลางด้านพาณิชย์และการค้า และเจริญก้าวหน้าภายในระยะเวลาอันสั้น จนถึงปัจจุบัน ฮ่องกงก็ยังเป็นเมืองท่าการค้าระหว่างประเทศ ฐานการผลิตที่สำคัญ ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีคาสิโนเป็นที่เที่ยวดังระดับโลก และเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นยอดนิยมของคนไทย
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฮ่องกงในอีก 27 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2590) แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของฮ่องกงก็ล้วนเต็มไปด้วยการนองเลือดและน้ำตา
จากประวัติศาสตร์ของของจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ทำให้รู้ว่าคนไต้หวันและคนฮ่องกงเจ็บปวดจากการต่อสู้มามากโดยเฉพาะกับจีน จึงไม่แปลกที่คนไต้หวันและคนฮ่องกงจะหวั่นไหว หากถูกเหมารวมว่าเป็น “ชาวจีน” ในสายตาต่างชาติ