เมื่อเข้าสู่ปี 2020 แล้วคุณอายุเท่าไหร่ และ วางแผนเรื่องการเงินเรื่องอะไรเป็นสำคัญ เพราะนั้นหมายความว่าชีวิตของคุณณก้าวเข้าสู่อีกช่วงของวัยในทุกๆ ปี ความต้องการหรือ การวางแผนการเงินก็จะแตกต่างกันไป ทั้งยังมีความแตกต่างในสถานการณ์การลงทุนของปี 2020 และกฎเกณฑ์ใหม่ๆที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีหน้า
ช่วงเริ่มทำงาน จนถึงวัย 30
เราอาจได้ยินดีข่าวน่าตกใจในปลายปี 2562 ว่ามีหลายบริษัททะยอยปิดตัวลง พร้อมภาวะคนว่างงานเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นใครที่ยังมีงานทำอยู่ ขอให้เตรียมแผนความพร้อมให้ตัวเองมากๆ เพื่อป้องกันภาวะความเสี่ยงในการล้มตั้งแต่วัยเริ่มสร้างตัว ดังนั้นช่วงวัยเริ่มทำงาน อายุ 21 ถึง 30 ปี เป็นช่วงที่ควรเริ่มวางแผนถึงวัยเกษียณตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน เพราะ เรื่องการออมเพื่อเกษียณเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนก่อนอื่นใด แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจการเงินที่เปลี่ยนแปลงมากมายในปีหน้า ทั้ง เรื่อง
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ที่การันตีผลตอบแทนทีมีอยู่ในปัจจุบัน บริษัทประกันส่วนใหญ่เริ่มขายกันน้อยลง เพราะอัตาดอกเบี้ยที่ปรับลด หลายบริษัทเริ่มหันไปขายกรมธรรม์ชนิดมีเงินปันผล หรือประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงก์) หรือ LTF ที่ยกเลิกไปเรื่องการลดหย่อนภาษี
หากคุในปีนี้คือคนที่เพิ่งอยู่ในวัยที่เริ่มทำงานใหม่ๆต้องควรคำนึงคือ
ศึกษาเรื่องประกันควบการลงทุน ถึงความคุ้มค่าและผลตอบแทน
ทำประกันสุขภาพเพื่อรองรับการเจ็บป่วย เพราะวัยนี้เป็นวัยบู๊ทำงานหนัก หากล้มเจ็บป้วยโดยไม่มีประกันรองรับ เงินเก็ยของเราอาจจะหายวับในพริบตา และ ทำฝให้เราท้อแท้ อย่าทำงานหนักเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าหมอ
เรื่องการวางแผนภาษี พร้อม เก็บเงินเกษียณในรูปแบบใหม่
หากคุณในปีหน้านี้อยู่ในช่วงวัย 31 จนถึงวัย 45 ปี
เป็นช่วงที่เริ่มสร้างครอบครัว แผนการเงินจึงตกมาที่การดูแลลูกเป็นหลัก ต้องวางแผนการเงินสำหรับการศึกษาลูก ตั้งแต่อนุบาล จนถึงจบปริญญา โดยวางแผนจากรายได้ของพ่อแม่ ว่าสามารถส่งเรียนโรงเรียนในระดับใด และ ประมาณการค่าเทอมว่าโรงเรียนนั้นๆ ในแต่ละปีมีการขึ้นค่าเทอมกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อที่เราสามารถนำเงินออมสำหรับค่าเทอมลูกไปวางไว้ในผลิตภัณฑ์การเงินที่เติบโตได้ในอัตราที่เท่าๆกัน รวมทั้งใครที่มีบ้าน ต้องอย่าลืม วางแผนในการทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านทุกๆ 3 ปี
ช่วงวัย 46 ปี จนถึงเกษียณอายุ
ตอนนี้ให้เราโฟกัสที่แผนการเงินหลังเกษียณอย่างเดียว คำนวณดูว่าเรามีเงินพอสำหรับเกษียณอายุแล้วหรือยัง ควรนำเงินเกษียณที่มีไปลงทุน หรือ เก็บในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ หรือ ฝากออมทรัพย์แบบฝากประจำระยะสั้น เพราะเป็นก้อนเงินที่เราไม่ควรนำไปลงทุนในความเสี่ยงสูง เช่นลงทุนทำธุรกิจใหม่ด้วยเงินเกษียณเพราะ ถ้าเราพลาดแล้ว คือพลาดเลย เงินหมด คือหมดเลย ไม่มีเวลากลับตัวในการเริ่มต้นเก็บเงินใหม่ เงินที่อยากลงทุนเปิดธุรกิจเล็กๆ หลังเกษียณจากการทำงานประจำก็ควรเป็นก้อนที่เก็บแยกออกมา
ด้วยภาวะการเงินที่ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงมากมายเราเองก็ควรตั้งรับและวางแผนต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อมีความสุขกับปี 2020 ตลอดไป