GSP หรือ Generalized System of Preference คือ ระบบยกเว้นหรือลดหย่อนอัตราภาษีขาเข้าสินค้าที่ผลิตและส่งออกจากประเทศที่กำลังพัฒนา เพื่อช่วยเหลือให้ประเทศเหล่านี้สามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศอุตสาหกรรมได้มากขึ้นและเพิ่มการแข่งขันทางการค้าให้เทียบเท่าประเทศอื่น ๆ ทำให้สามารถพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก แต่สิทธิดังกล่าวไม่ได้อยู่อย่างถาวรและเป็นการให้อย่างมีเงื่อนไข
สำหรับล่าสุดกรณีไทยถูกสหรัฐตัดสิทธิ GSP เนื่องจากปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวในภาคประมง และอีกหนึ่งทฤษฎีที่มีคนเชื่อว่าเป็นเพราะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปพบ นายเหรินเจิ้นเฟย ประธานบริหารบริษัทหัวเว่ย ซึ่งกำลังเป็นคู่กรณีกับสหรัฐฯ อีกทั้งจีนและสหรัฐฯยังมีสงครามการค้ากันอยู่อีกด้วย
จากข้างต้นที่บอกว่าสิทธิ GSP นั้นเป็นการให้แบบมีเงื่อนไข กล่าวคือประเทศที่ได้รับจะต้องมีคุฯสมบัติตามข้อตกลงต่าง ๆ เช่น สิทธิ GSP ที่สหรัฐจะมอบให้ประเทศต่าง ๆ จะต้องเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว(GNP per capita) ไม่เกิน 12,735 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไทยมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขนี้ในปี 2018 โดยมี GNP per capita ที่ 7,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ อีก เช่น มีการคุ้มครองแรงงานในระดับที่นานาชาติยอมรับ ซึ่งในกรณีของการคุ้มครองสิทธิแรงงาน ทางสหรัฐฯเคยยกเลิกสิทธิ GSP กับบังกลาเทศ ในปี 2556
ไม่ใช่การถูกตัดสิทธิ GSP ครั้งแรก
ไม่ใช่เพียงสหรัฐฯเท่านั้นที่ให้สิทธิ GSP กับไทยแต่ยังมี สหภาพยุโรป ตุรกี แคนาดา ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช อีกทั้งการถูกตัดสิทธิ GSP ของสหรัฐฯในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับไทย ซึ่งประเทศไทยเคยถูกตัดสิทธิ GSP จากหลายประเทศดังนี้
- 1 มกราคม 2558 ไทยถูกตัดสิทธิ GSP จาก สหภาพยุโรป ตุรกี และแคนาดา
- 1 เมษายน 2562 ไทยถูกตัดสิทธิ GSP จาก ญี่ปุ่น
ข้อมูลจาก : กรมการค้าต่างประเทศ
การยกเลิกสิทธิ GSP ของไทยโดยสหรัฐฯนั้นจะมีผลในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือ 25 เมษายน 2563 ที่จะถึงนี้ โดยผลกระทบของการถูกยกเลิกสิทธิ GSP ของไทยนั้น กระทบกับสินค้าทั้งสิ้น 573 รายการ ทั้งส่วนสินค้าอุปโภคและบริโภค และสินค้าประเภทกลุ่มอาหารทะเลที่โดยยกเลิกทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 4 หมื่นล้านบาท
ผลกระทบจากการถูกยกเลิกสิทธิ GSP
โดยผลของการถูกยกเลิกสิทธิ GSP คือ ไม่สามารถลดหย่อนรับสิทธิพิเศษหรือยกเว้นภาษีศุลกากรขาเข้าไปยังประเทศสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ
ผู้ที่จะอ่วมอย่างไม่ต้องคาดคือผู้ประกอบการที่มีธุรกิจหลักเป็นการส่งออกโดยเฉพาะการส่งออกเพื่อนำสินค้าไปขายในสหรัฐฯ ซึ่งโดยปกติการส่งออกสินค้าในประเภทที่อยู่ภายใต้สิทธิ GSP นั้นมีการลดหย่อนภาษี
แต่เนื่องด้วยการถูกยกเลิกสิทธิทำให้ราคาสินค้าต้องเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องเสียภาษีนำเข้าประเทศคู่ค้า ทำให้ราคาสินค้าต้องเพิ่มมากขึ้นเมื่อไปสู่แผง ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นและต้องแข่งกับราคาสินค้าของประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับยกเว้นภาษี จึงทำให้การแข่งขันสูงขึ้นพร้อมต้นทุนการส่งออก นอกจากนี้ผลกระทบที่ผู้ประกอบการจากภาษีการส่งออกทำให้การใช้จ่ายด้านต้นทุนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อธุรกิจไปจนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมส่งออกต่อไปเป็นทอด ๆ
แต่เนื่องด้วยการยกเลิกสิทธิแก่ไทยจากสหรัฐฯจะเกิดขึ้นในอีก 6 เดือน จึงเป็นช่วงของการหาทางออกและแก้ปัญหาแก่ผ้ประกอบธุรกิจและรวมไปถึงแรงงาน โดยเฉพาะภาคการประมงที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาล เพื่อแรงกระทบที่เบาบางลงเมื่อวันนั้นมาถึง