3 ปีที่ไร้คำตอบ MH 370 หายไปไหน?
ในที่สุด ความพยายามในการค้นหาเครื่องบินโบอิ้ง เที่ยวบิน MH 370 ของสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไปตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2557 ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ
ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี ทั้งมาเลเซีย ออสเตรเลีย และจีน ที่ต่างมีผู้โดยสารอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ได้ร่วมมือกันค้นหาซากเครื่องบินทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย โดยใช้เงินไปร่วม 160 ล้านเหรียญสหรัฐ (5,600 ล้านบาท) ด้วยความหวังว่าอาจจะพบร่องรอยอะไรใหม่ๆ บ้าง
แม้ใช้ความพยายามอย่างหนัก ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าช่วยค้นหาใต้น้ำ ในรัศมีพื้นที่ 120,000 ตารางกิโลเมตร แต่ไม่พบชิ้นส่วนใดๆ เพิ่มเติม รัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ จึงแถลงยุติการค้นหาเป็นการถาวร ท่ามกลางความเจ็บปวดของครอบครัวผู้โดยสารที่สูญหายรวม 227 ชีวิต และลูกเรืออีก 12 คน
โดยเที่ยวบินดังกล่าวมีชาวจีนมากที่สุดถึง 153 คน รองลงคือมา มาเลเซีย 50 คน เนื่องด้วยเป็นเที่ยวบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่งของจีน
นับจนถึงตอนนี้ มีซากชิ้นส่วนเพียง 7 ชิ้นเท่านั้น ที่พอจะบ่งชี้ได้ว่ามาจากเครื่องบิน MH 370 จริงๆ หลังหายไปจากจอเรดาร์ในเวลา 01.22 น. ของวันที่ 8 มีนาคม 2557 ก่อนพบว่า เครื่องบินมีการเปลี่ยนเส้นทางการบิน ซึ่งสถานีเรดาร์ของกองทัพมาเลเซียสามารถจับสัญญาณได้ในเวลา 02.15 น. ว่าเครื่องบินผ่านเกาะปูเลาที่อยู่ในช่องแคบมะละกา ก่อนหายไปจากจอเรดาร์อย่างไร้ร่องรอยในเวลา 02.40 น.
สำหรับชิ้นส่วนที่พบนั้น ล้วนถูกพัดเข้าชายฝั่งในหลายประเทศที่มีอาณาบริเวณติดทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย คือ มาดากาสการ์, เกาะเรอูนิยง, โมซัมบิก, แทนซาเนีย และมอริเชียส สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่า เครื่องบินไม่ได้มุ่งหน้าไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีคำตอบใดๆ ที่แน่ชัดถึงสาเหตุการสูญหายของ MH 370 โดยมีข้อสันนิษฐานต่างๆ นานาว่าอาจเป็นความจงใจของกัปตันที่เจตนาบังคับเครื่องโหม่งโลก, อาจถูกโจรสลัดปล้น, อาจเป็นฝีมือของพวกก่อการร้าย หรือห้องนักบินอาจเกิดระบบอิเล็กทรอนิคขัดข้อง หรือไฟไหม้
ขณะที่ญาติของผู้สูญหายต่างมองว่า การหยุดค้นหาเป็นการขาดซึ่งความรับผิดชอบ และไม่เคารพต่อความรู้สึกของผู้สูญเสีย พร้อมทั้งชี้ว่า “นี่ไม่ใช่การทำโทรศัพท์มือถือ หรือกระเป๋าตังค์หาย แต่มันคือเครื่องบินที่มีคนโดยสารอยู่ 239ชีวิต! ยังไงชีวิตก็ย่อมมีค่ามากกว่าเงิน”