ว่าด้วยเรื่องคนชื่อ “พี”
ก่อนอื่นคงต้องทักทายท่านผู้อ่านทุกท่านทางเว็บไซต์ tonkit360.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกๆวันพฤหัสบดี กระผม “เด็กปั๊ม” จะมาพบเจอกับทุกท่านผ่านทางตัวอักษรบนโลกออนไลน์แบบนี้ กับทุกเรื่องราวในมุมของกีฬาที่พอจะหยิบยกมาคุยกันได้
สัปดาห์แรกนี้ ว่าด้วยเรื่องของคนชื่อ “พี” เมื่อพูดถึงชื่อนี้ คุณๆนึกถึงใครกันบ้าง ผมเชื่อเลยว่า แต่ละท่านต้องมีเพื่อน หรือบุคคลที่รู้จักที่เกี่ยวข้องกับชื่อนี้อยู่ไม่มากก็น้อยล่ะครับ
พี แรก ถ้าให้ผมนึกตอนนี้ หนีไม่พ้นเพื่อนซี้ อดีตนักข่าวสำนักดัง ที่ปัจจุบันผันตัวไปเป็นครีเอทีฟโฆษณา หมอนี่ไม่รู้เป็นอะไรชอบโทรหาตอนดึกๆ
พี สอง นึกถึงหน้า พี่มอส ปฏิภาณ ขึ้นมาเลย กับบท “พีรพล” ในละครซิดคอมสมัยผมยังเด็กกับเรื่อง 3 หนุ่ม 3 มุม
พี สาม นึกไปถึงนักฟุตบอลคนหนึ่งไว้ผมสีทอง เคยเล่นให้แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ลูกฟรีคิก แม่นอย่างจับวาง แฟนบอลอังกฤษน่าจะพอคุ้นชื่อบ้าง มอร์เทน-กัมสท์ พีเดอร์เซ่น
ก่อนจะเตลิดไปอีกหลายๆพี ขอข้ามไป “พี” สุดท้ายเลยแล้วกัน กับกระแส “พี ฟีเวอร์” ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กับหนุ่มน้อยชื่อพี วัย 7 ขวบ กลายเป็นประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ หลังออกรายการทางช่องเวิร์คพอยท์ พร้อมงัดทักษะยิงฟุตบอลชนคาน หรือที่เรียกกันว่า cross bar challenge ได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกันจนเป็นที่ฮือฮากันทั่วบ้านทั่วเมือง
จากวันนั้น นอกจากยอดวิวในคลิปที่ทะลุกว่า 8 ล้านวิว ยังมีข่าวมาสโมสรดังมากมายเตรียมดึงตัวเข้าอคาเดมีบ้าง สื่อมวลชนแห่ไปทำข่าวน้องเขาบ้าง จนมีคำหนึ่งที่ผมคิดอยู่ในหัว แต่ไม่กล้าพูดออกมานั่นคือคำว่า “หากินกับเด็ก”
ผมชอบคำพูดของ อ.สมบัติ ลีกำเนิดไทย เจ้าของอะคาเดมี่ “Inter Thailand Academy” ที่น้องพีสังกัดอยู่มากๆ ซึ่งตรงใจสุดๆ นั่นคือ อย่าไปอวยเด็กมาก เพราะเห็นกันมาเยอะกับ เด็กไม่ว่าจะระดับใดที่ดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่สุดท้ายเสียคนไม่ได้แจ้งเกิด
ผมไม่ได้บอกว่า “น้องพี” ไม่มีโอกาสจะก้าวไปถึงจุดนั้นนะครับ เพียงแค่คิดว่า ทุกอย่างมันมีระยะเวลาและจังหวะของมัน อย่าไปเร่งเร้า ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับมะม่วงบ่มแก๊สที่สุกแต่รสชาติไม่ได้เรื่อง
สุดท้าย หากจะให้ครบสูตรประเทศไทยยุคนี้ น้องพี ควรจะได้เข้าพบท่าน พี (P- Prayuth) เพื่อดวลเตะชนคานกันสักตั้งน่ะครับ มันคงจะดีมิใช่น้อย (ฮา)
