ชั่วโมงนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เอ็มมานูเอล มาครง” คือนักการเมืองหนุ่ม วัย 39 ปี ที่ทั่วโลกต่างจับตามอง หลังลงสมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสในฐานะผู้สมัครอิสระสายกลาง แต่กลับมาแรงแซงทางโค้ง ชนิดที่มีลุ้นเป็นผู้นำประเทศคนที่ 25 ต่อจาก ฟรองซัวส์ โอลล็องด์ ที่กำลังจะลงตำแหน่งในปีนี้
โดยผลการเลือกตั้งในรอบแรก มาครงได้รับคะแนนเสียงสูงสุด เหนือ มารีน เลอเปน หัวหน้าพรรคขวาจัด “แนวร่วมแห่งชาติ” อยู่เล็กน้อย จึงต้องไปชิงชัยกันอีกครั้งในการเลือกตั้งรอบ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากไม่มีใครได้คะแนนเกินกว่าร้อยละ 50
อย่างไรก็ตาม กระแสในตอนนี้ค่อนข้างเอนเอียงไปทางมาครงมากกว่า เพราะได้รับเสียงสนับสนุนจากทั่วทุกสารทิศ นอกจากโอลล็องด์จะออกมาหนุนให้ประชาชนเลือกมาครง ซึ่งเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลของเขาแล้ว เหล่าผู้นำจากชาติยุโรปต่างก็หวังให้มาครงได้เป็นผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน แม้ว่าล่าสุด เลอเปนจะประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคแนวร่วมแห่งชาติ เพื่อลดภาพลักษณ์การเป็นตัวแทนฝ่ายขวาจัด ในการเลือกตั้งรอบ 2 ก็ตาม
นอกจาก เอ็มมานูเอล มาครง จะได้รับความนิยมจากเหล่าผู้นำจากชาติต่างๆ แล้ว ดูเหมือนความนิยมในตัวของเขาจะเพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ จนถึงขั้นถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ชุสแต็ง ทรูโด นายกรัฐมนตรีสุดฮอตของแคนาดาเลยทีเดียว เพราะด้วยวัยเพียง 39 ปี บวกกับบุคลิกหน้าตาที่หล่อเหลาระดับที่เป็นพระเอกหนังได้สบาย อีกทั้งยังพูดฝรั่งเศสและอังกฤษได้คล่องเหมือนกันด้วย ทำให้คุณสมบัติเหล่านี้ ไม่ต่างจากทรูโด ที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำแคนาดาในวัย 44 ปี
ขณะที่ เส้นทางการเมืองก่อนเข้ามาชิงชัยตำแหน่งผู้นำประเทศ ก็อาจเรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ด้วยกันทั้งคู่ โดยมาครงมาจากสายของนักการธนาคาร ก่อนจะถูกดึงตัวมาช่วยงานด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลของโอลล็องด์ ขณะที่ทรูโดเป็นอาจารย์มาก่อน แต่ปูทางเข้าสู่แวดวงการเมืองได้ไม่ยาก เพราะ ปิแอร์ ทรูโด บิดาของเขาเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 15 ของแคนาดามาก่อน
นอกจากนี้ ชีวิตส่วนตัวของทั้งคู่ ถือว่ามีสีสันตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่ จนกลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะรายของมาครงที่สื่อต่างประเทศพร้อมใจกันเกาะติดเรื่องชีวิตรักต่างวัยของเขาระหว่างลูกศิษย์หนุ่มวัย 15 ปี กับคุณครูสาว บริจิตต์ โทรนเญอซ์ วัย 40 ปี ที่สอนการแสดงสมัยเรียนมัธยม ซึ่งในชั้นเรียนนั้น มีลูกสาวของบริดจิตต์เป็นเพื่อนร่วมห้องของมาครงด้วย ก่อนที่ในปี 2007 ทั้งคู่จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะมีอายุต่างกันถึง 25 ปีก็ตาม
เรื่องราวความรักราวกับนิยายของทั้งคู่ เรียกว่าหวือหวาเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด จึงทำให้มาครงกลายเป็นไอดอลในเรื่องนี้ให้กับคนหนุ่มสาวไปในทันที และภาพที่เขาบรรจงจุมพิตบริดจิตต์ ภรรยาวัย 64 ปี หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งในรอบแรก ก็ได้ใจชาวเน็ตไปเต็มๆ กับการแสดงออกเรื่องความรักอย่างไม่มีการปิดบัง ไม่ต่างอะไรกับ ทรูโด ที่มักจะแสดงความรักต่อภรรยา โซฟี เกรกัวร์ อย่างเปิดเผย และมีรูปหวานของทั้งคู่โพสต์ลงในอินสตาแกรมส่วนตัวอยู่บ่อยๆ
ส่วนความสำเร็จในทางการเมือง มาครงจะเดินตามรอยทรูโดได้หรือไม่นั้น วันที่ 7 พฤษภาคมนี้คงได้รู้กัน!
