“แคท-เสาวนีย์ โพธิ์แก้ว” อายุ 24 ปี ปัจจุบันทำอาชีพเป็นพริตตี้ฟรีแลนซ์ เล่าให้ทีมงาน Tonkit360 ฟังว่า พริตตี้ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สาวๆ หลายคนอยากจะทำ เพราะได้แต่งตัวใส่ชุดสวยๆ แถมรายได้ก็เยอะไม่ใช่น้อย พริตตี้บางคนมีรายได้ต่อเดือน หลักแสนถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า คุณสมบัติข้อแรกของการที่จะมาเป็นพริตตี้ได้นั้น จะต้องมีหน้าตาและบุคลิกที่ดี สามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสนใจได้ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทุกวันนี้พริตตี้จึงจะยืนสวยอย่างเดียวไม่ได้แล้ว…
เริ่มจากสตาฟจนขยับมาเป็นพริตตี้
แคท : ก้าวแรกสู่วงการพริตตี้ของแคท มาจากตอนที่แคทอายุได้ 19 ปีค่ะ ตอนนั้นมีพี่ชักชวนให้มาทำงานอีเว้นท์ด้วย แต่ว่าตัวแคทเองไม่ได้เข้ามาเป็นพริตตี้เลยนะคะ แคทเริ่มจากการเป็นสตาฟก่อน แล้วมันมีอยู่ช่วงจังหวะหนึ่งที่ PC (คนแนะนำและเชียร์ขายสินค้า) คนขาด ซึ่งด้านออแกไนซ์เขาก็ไว้วางใจ ให้แคทเข้ามาทำแทน หลังจากนั้นแคทก็ค่อยสะสมโปรไฟล์และประสบการณ์ บวกกับพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ จนได้มาเป็นพริตตี้อย่างทุกวันนี้ค่ะ
มีความฝันที่อยากจะเป็นพริตตี้อยู่แล้ว
แคท : เพราะว่าการเป็นพริตตี้ได้แต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ ซึ่งแคทก็ชอบและเป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้ว และส่วนใหญ่ที่คนทั่วไปรู้จักอาชีพพริตตี้ ก็เพราะว่าหนึ่งเลยคือความสวย สองคือมีเสน่ห์ ยิ้มเก่ง แต่นอกจากนี้แล้วที่แคทรักและชอบในอาชีพนี้ก็คือ พริตตี้ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียว แต่จะต้องมีสมองและไหวพริบด้วย เพื่อที่จะสามารถนำเสนอขายสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ค่ะ
เป็นพริตตี้มีความสวยอย่างเดียวก็พอ จริงหรือ?
แคท : ไม่จริงเลยค่ะ เพราะว่าปกติอาชีพพริตตี้ต้องมีความคิด และความจำที่ดีมากๆ โดยเฉพาะพริตตี้สินค้าคือต้องจำข้อมูลโปรดักซ์หลายร้อยตัว ซึ่งแน่นอนค่ะว่ามันยากมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ทางออแกไนซ์ หรือเจ้าของโปรดักซ์ เขาจะบรีฟเราเพียง 1 วัน บางเจ้าก็บรีฟแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แล้วก็เริ่มงานเลย และข้อมูลที่เขาบรีฟมาเราต้องจำให้ได้อย่างครบถ้วน เพราะลูกค้าบางรายเขาซีเรียสในเรื่องของข้อมูล ก็คือความสวยมาเป็นอันดับแรกค่ะ แต่อันดับสองที่ต้องมีมาด้วยก็คือสมองและความจำ อีกอย่างคือความสามารถที่เราจะต้องขายของให้ลูกค้าได้นั่นเองค่ะ
พริตตี้สมัยใหม่ต้องพูดเก่งและโฟนได้
แคท : อันนี้จะแล้วแต่งานค่ะ ถ้าบางงานที่เขาต้องการพริตตี้ที่โฟนได้ ก็คือเขาอยากให้ลูกค้าได้ฟังในส่วนข้อมูลโปรดักซ์ไปด้วย โดยความหมายของการเป็นพริตตี้โฟน มันไม่ใช่แค่ถือไมค์แล้วเราจะพูดอะไรก็ได้ แต่การเป็นพริตตี้โฟนมันคือการที่เราต้องพูดให้ลูกค้าฟัง และเข้าใจในสินค้าว่าเราขายอะไร ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นอย่างไร ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ถือว่า คนที่จะมาเป็นพริตตี้ได้จะต้องพูดเก่งร่วมด้วย เพราะถ้ามายืนสวยๆ อย่างเดียวลูกค้าก็ไม่อยากจ้างค่ะ
พริตตี้ฟรีแลนซ์แคสงานอย่างไรให้ได้งาน
แคท : โดยส่วนมากพริตตี้จะมีกลุ่มที่คอยบอร์ดงานอีเว้นท์มาให้ค่ะ ซึ่งพอมีงานที่เราสนใจเราก็ค่อยส่งโปรโฟล์ไป หลังจากนั้นถ้าออแกไนซ์เขาเลือกเรา เขาก็จะเรียกให้ไปแคสงาน การเตรียมตัวแคสงานก็ง่ายๆ เลยค่ะ คือเตรียมพรีเซนต์ตัวเอง ในสมัยนี้การแคสงานพริตตี้ก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงบอกชื่อ สัดส่วน งานอีเว้นท์ที่เคยทำมา และก็อาจจะเป็นพรีเซนต์สินค้าสัก 1-2 ตัวให้เขาดูค่ะ
อะไรคือคอมการ์ด หน้าตาของมันเป็นแบบไหน
แคท : ในส่วนของคอมการ์ด (เพลทโปรไฟล์) ที่เราต้องมีเลยหนึ่งคือรูปการทำงานอีเว้นท์ที่ผ่านมา สองคือประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ย่อๆ ในการทำงานพริตตี้ของเรา ตรงนี้สำคัญมากเพราะว่าทางออแกไนซ์ เขาก็จะดูประกอบการตัดสินใจในการเลือกด้วย ว่าเราเคยผ่านงานอะไรมาบ้าง แล้วจะทำงานให้กับเขาได้รึเปล่าค่ะ
ถ้าอยากเป็นพริตตี้จะต้องทำยังไงบ้าง
แคท : ง่ายๆ เลยก็คือต้องกล้าแสดงออกก่อน และก็หาตัวเองให้เจอว่าเราจะมาเป็นพริตตี้สายไหน เพราะเวลาที่ออแกไนซ์เขาบอร์ดงานมา เขาจะมีกำหนดบอกไว้อยู่แล้วว่าต้องการพริตตี้แบบไหน เช่น พริตตี้ลุคสวยหรูดูแพง หรือจะเป็นพริตตี้ที่เอ็นเตอร์เทนท์ลูกค้าได้ อันนี้จึงเป็นสิ่งแรกที่ไม่ว่าใครก็ตาม ที่อยากจะมาเป็นพริตตี้จะต้องรู้ตัวเองก่อน ว่าชอบทางไหนก็ให้เน้นไปทางนั้น และก็เป็นตัวของตัวเอง แล้วลูกค้าก็จะรู้สึกแฮปปี้ไปด้วยที่เลือกเรามาทำงานค่ะ
รายได้ต่อเดือนของพริตตี้ บางคนเฉียดหลักแสน
แคท : รายได้ของพริตตี้ฟรีแลนซ์ เรทเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1,500-2,000 บาทต่อวันค่ะ ถ้าเป็นลุคสวยหรูดูแพง พริตตี้มอเตอร์โชว์จะอยู่ที่ 3,000-5,000 บาทต่อวันเหมือนกันค่ะ และถ้ายิ่งเป็นพริตตี้ที่ได้ภาษาต่างประเทศด้วย เรทก็จะเยอะขึ้นไปอีกราว 5,000 ไปจนถึง 10,000 บาทต่อวัน แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่เนื้องาน รวมถึงระยะเวลาที่ทำด้วยค่ะ
หลายคนยังมองอาชีพพริตตี้ในแง่ลบ
แคท : อยากจะฝากถึงคนที่มองว่าพริตตี้เป็นอาชีพที่ดูแย่ เพราะต้องโชว์นมโชว์สัดส่วนนะคะ ความจริงแล้วอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่สุจริตแถมอิสระเสรี แล้วก็ยังเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ได้เยอะ อยากให้มองกันใหม่ค่ะเพราะว่าบางงานที่เรียบร้อยมันก็มี หรือถ้าเป็นงานที่ต้องโป๊มากจริงๆ เราก็มีการ์ดหรือสตาฟที่คอยดูแล อีกอย่างคือพริตตี้ก็รู้ถึงวิธีการเซฟตัวเองเช่นกันค่ะ ว่าถ้ามีลูกค้าที่คิดไม่ดีหรือทำไม่ดีกับเราเกินขอบเขต เราควรจะพูดกับเขายังไงให้มันดูไม่แย่ ทั้งกับตัวเราเอง งาน หรือเจ้าของโปรดักซ์ ก็อยากให้มองอาชีพพริตตี้ในแง่ที่ดีขึ้นค่ะ