การแยกตัวจากค่ายหนังยักษ์ใหญ่ อย่าง GTH มาทำค่ายหนังของตัวเองชื่อ T-Moment แม้จะเริ่มต้นได้ไม่สวยกับหนั งเรื่องแรก Oversize ทลายพุง แต่การกลับมาหนที่สองพร้อมหนั งวัยรุ่นเรื่องใหม่ APP WAR นับว่าเป็นสิ่งน่าชื่นชม เมื่อมันมาพร้อมคุณภาพและทีมนั กแสดงที่โปรยเสน่ห์คนดูได้อย่ างทั่วถึง
“APP WAR” ว่าด้วยเรื่องของ “บอมบ์” กับ “จูน” สองวัยรุ่นหนุ่มสาวที่บังเอิ ญมาเจอกันในงานประกวดธุรกิจ Startup พวกเขาปิ๊งไอเดียสร้างแอปมือถื อที่สามารถนัดเพื่อนที่ ชอบอะไรเหมือนๆกันมาทำกิจกรรมด้ วยกัน โดยแอปของบอมบ์ชื่อ Inviter ส่วนของจูนชื่อว่า Amjoin ซึ่งเหมือนกันแบบทุกกระเบียดนิ้ ว และเมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ว่าผลิ ตแอปมาสู้กันเอง (โดยไม่มีใครยอมรับว่ าใครลอกไอเดียใครกันแน่) นั่นจึงทำให้ทั้งคู่ต้องเปิดศึ กชิงความเป็นหนึ่งในงานประกวด Startup ครั้งใหม่ ซึ่งผู้ชนะเท่านั้นจะได้รับเงิ นทุนจากนักธุรกิจใหญ่เอาไปพั ฒนาแอปของตัวเอง
แต่นอกเหนือจากการพัฒนาแอปแข่ งกัน ทั้งคู่ยังเล่นตุกติกด้วยการส่ งคนของตัวเอง เข้าไปแทรกซึมของแต่ละฝั่ง ก่อนกลายเป็นสถานการณ์ชวนหัวที่ นำมาสู่บทสรุปที่น่ายินดีและเจ็ บปวด เมื่อผู้ชนะมีเพียงแค่ฝ่ายเดี ยวเท่านั้น ส่วนคนแพ้แทบไม่เหลืออะไรเลย
สารภาพตามตรงว่า APP WAR ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกในหัวสั กเท่าไหร่ เพราะเหมือนตนเองจะผ่ านพ้นช่วงเวลาที่อินกับหนังวั ยรุ่นไปแล้วหรือเปล่า (แก่แล้ว ฮา..) แถมตัวอย่างหนังดูจะเน้นไปที่นั กแสดงใหม่อย่าง น้องอร สมาชิกวงไอดอลชื่อดัง BNK48 เป็นพิเศษ แต่เมื่อดูจบกลับกลายเป็ นความประทับใจ โดยเฉพาะประเด็นธุรกิจ Startup ที่แอบสนใจอยู่เล็กๆ
แม้หนังจะเปิดเรื่องด้วยการอธิ บายธุรกิจ Startup ปูพื้นฐานแก่ผู้ชม แต่เอาจริงมันก็ไม่ได้เข้ าใจยากเหมือนที่หลายคนกลัว โดยหนังให้ point สำคัญแก่คนดูว่า “คนที่จะประสบความสำเร็จในสั งเวียนนี้มีแค่ 2% เท่านั้น” และหนังก็ไม่ได้พาไปสำรวจธุรกิ จนี้อย่างเข้มข้น แค่ให้รู้ว่ามีกลุ่มของพระเอก- นางเอก สองฝั่งทำแอปแข่งกันเท่านั้นพอ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่าง บอมบ์-จูน ที่ต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกดี ต่อกัน ถึงอีกด้านต้องเป็นศัตรูกันก็ ตาม
สิ่งที่น่าชื่นชมคือถึงหนังจะสุ่ มเสี่ยงต่อคำครหาที่ว่า “ไปไม่สุด” เพราะเล่นเอาเรื่องของ Startup มาผสมกับ โรแมนติก-คอมมิดี้ แต่เท่าที่ดู ผกก.เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร (คนเดียวกับ ผกก.เรื่อง 2538 อัลเทอร์มาจีบ) ก็จัดการได้กลมกล่อมลงตัว แถมมีเซนส์เรื่องมุกตลกด้วย เข้าเป้าแทบทุกหมัด ถึงตัวบทและพฤติกรรมของตั วละครจะมีหลายจุดที่ดูแล้ วประหลาดๆ โอเวอร์ แฟนตาซี แบบไม่เชื่อว่าจะมีคนบนโลกที่ ไหน “กล้า” ทำอะไรแบบนี้ … แต่ยังพอรับได้
ฝั่งของนักแสดงเน้นหน้าใหม่เกื อบทั้งหมด แต่กลายเป็นว่าเล่นกันเข้าขา รับส่งได้ดี โดยเฉพาะน้อง จิงจิง-วริศรา ยู นางเอก ที่โปรยเสน่ห์ใส่คนดูอยู่หมัดตั้ งแต่วินาทีแรกที่ปรากฏตัว เช่นเดียวกับ ทู-สิราษฎร์ อินทรโชติ ในบทดีไซเนอร์แอปทีมพระเอกซึ่ งถูกส่งไปสปายอีกทีม ปกติเราไม่ค่อยเห็นด้วยที่ ใครบอกว่าเขาเล่นหนังดี แต่มาเรื่องนี้โอเคเลยทั้งสีหน้ า น้ำเสียง และการแสดงอารมณ์ที่ต้องตกอยู่ ในสถานการณ์ตึงเครียดในดงศัตรู น่าเสียดายที่ว่าหนังไม่ได้ปูพื้ นกับทีมเพื่อนนางเอก 2 คนเท่าไหร่นอกจากออกมาเป็นตั วโกงประจำเรื่อง ทำให้บทสรุปช่วงท้ายดูย้อนแย้ งแบบไม่ควรจะเป็น
ส่วนคนที่ถูกจับตามองเป็นพิ เศษคือ น้องอร BNK48 กับบทเด็กฝึกงานสาวที่ถูกส่ งไปสอดแนมทีมพระเอก ซีนที่ขายความน่ารัก อ้อนๆ น้องทำได้ดีสำหรับเรื่องแรก แต่พาร์ทดราม่าที่ต้องใช้อารมณ์ สูง ยังดูประดักประเดิด (ผู้เขียนถึงกับหลุดขำในซี นดราม่าของน้อง) แต่หากฝึกฝนการแสดงเพิ่มเติมก็ ถือว่าน่าจับตา
อีกเรื่องที่อยากยกนิ้วให้คื อไดอะล็อกหนัง เวลาดูหนังวัยรุ่นผู้เขียนจะรู้ สึก “จั๊กกะเดียม” ทุกครั้งได้ยินตัวละครเรียก นายๆเธอๆเราๆ เพราะวัยรุ่นยุคนี้เขาพูดกันดุ เดือดไปไกลแล้ว (ฮา) แต่เรื่องนี้จัดเต็มทั้ง มึง-กู และคำสบถต่างๆที่ฟังแล้วอร่อยหู ทีเดียว ทำให้รู้สึกว่าเออนี่แหละคำพู ดที่วัยรุ่นเขาพูดกันจริงๆ ไม่ใช่พูดกันแบบบทละคร ลิเก ชวนจั๊กจี้หู
ภาพรวม APP WAR ถือเป็นหนังวัยรุ่นทางเลือกใหม่ ที่น่าสนใจ สำหรับคนที่เบื่อหนั งวัยรุ่น+ความรักสูตรเดิมๆ จากค่ ายหนังแถวอโศก รวมถึงคนที่สนใจเรื่องธุรกิจ Startup ซึ่งดูจบสามารถนำไปต่อยอดหาข้ อมูลเพิ่มได้ แม้จะมีจุดบกพร่องในส่ วนของบท และการเล่าเรื่องโผล่ขึ้ นมาเป็นระยะ รวมถึงตอนจบที่ดูเป็นละครทีวี ไปหน่อย แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายถึ งขนาดเสียดายเวลา และมันก็ทำให้เราอยากดูหนังเรื่ องใหม่ของ T-Moment อีกว่าจะมาไม้ไหน