หรือในอนาคต ไทยต้องกลับมาขอ “วีซ่า” เข้าญี่ปุ่นอีกครั้ง?

หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทย มาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ดูเหมือนจะมีคนไทยบางกลุ่ม บางจำพวก คอยก่อเรื่อง “ดิสเครดิต” ประเทศบ้านเกิดตนเองอยู่เป็นระยะ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่มีชื่อเสียง หรือเป็นข้าราชการระดับสูง

กรณีล่าสุดที่เพิ่งเป็นข่าวดังวันนี้ คือ นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ที่เดินทางไปร่วมประชุม ณ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น แต่กลับขโมยภาพวาด 3 ภาพ ในโรงแรมที่พัก รวมมูลค่า 15,000 เยน จนถูกตำรวจจับกุมตัว หลังพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน


ส่วนกรณีที่เคยเป็นข่าวใหญ่ เมื่อปี 2558 คือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นจับกุม ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองขณะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ถูกตรวจพบเสียก่อนที่สนามบินนาริตะ จนเป็นข่าวหน้าหนึ่งรายวัน


ย้อนกลับไปในปี 2557 ก็เคยมีคดีใหญ่ที่นักท่องเที่ยวชาวไทย เมาแล้วขับรถยนต์ชนจักรยาน 2 คัน จนส่งผลให้นักเรียนหญิงญี่ปุ่นเสียชีวิต 1 ราย และหนุ่มญี่ปุ่น อายุ 20 ปี อีกรายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนอกจากคนขับจะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังพบว่าไม่มีใบอนุญาตขับขี่สากลด้วย

นี่ยังไม่นับรวมคนไทยที่ลักลอบพำนักในประเทศเกินกำหนด หรือหนีวีซ่าอยู่ในญี่ปุ่นอีกกว่า 6,000 ราย จากตัวเลขที่เปิดเผยในปี 2559 ด้วย ซึ่งล้วนทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งสิ้น และหากยังมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ใครจะไปรู้ว่า นี่อาจเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้ทางการญี่ปุ่นพิจารณายกเลิกการเว้นวีซ่าให้กับคนไทยก็เป็นได้!
ภาพจาก playadelcarmen