การเข้าพักในโรงแรม นั้นมีกฎที่ผู้มาพักควรจะทราบก่อนเข้าพัก เพื่อที่จะไม่เผลอไปละเมิดกฎที่ตั้งไว้ หรือ เผลอมือเบาไปหยิบของในโรงแรมจนกลายเป็นข่าวใหญ่โต ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนไทยบางกลุ่มคุ้นเคยกับการเข้าพักในโรงแรมที่เมืองไทยซึ่ง มีการผ่อนผันความเข้มงวดค่อนข้างมาก แขกบางรายขอเช็คอินก่อนเวลา แขกบางรายเช็คเอาท์ช้า แขกบางรายก็มือเบาชอบหยิบฉวยของในโรงแรมติดมือกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัว ยาสระผม สบู่ ครีมบำรุงผิว หรือแม้กระทั่ง ไดร์เป่าผม ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ได้ยั้งคิดเพราะคิดว่าพนักงานจะไม่รู้ หรือ คิดไปว่าทางโรงแรมน่าจะแถมให้เพราะเสียงเงินค่าที่พักไปแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเป็นประจำในโรงแรมเกือบทุกแห่งบนโลกใบนี้ ทีนี้เรามาดูกันว่า มีกฎการเข้าพักโรงแรมใดบ้างที่คุณควรรู้
– เมื่อเข้าพักต้องแสดงบัตรประชาชน/ใบขับขี่ ของผู้เข้าพักเพื่อให้ทางโรงแรมได้ทำสำเนาไว้และเพื่อยืนยันว่าบุคคลที่เข้าพักนั้นใช่คนๆเดียวกันกับจองมาหรือเปล่าโดยเฉพาะการจองที่มีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตมาแล้ว จะต้องตรวจสอบว่า ชื่อบนบัตรตรงกับชื่อผู้เข้าพักหรือไม่ (ถ้าจองหลายห้อง 1 ในหลายห้องนั้นต้องมีเจ้าของบัตรมาด้วย) ยกเว้นกรณีที่มีการจองห้องให้กันและได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว
– ทั้งนี้โรงแรมในต่างประเทศจะขอพาสปอร์ต เพื่อทำสำเนาของผู้เข้าพักที่เป็นต่างชาติทุกคนเพราะเป็นกฎหมายกำหนดไว้เพื่อส่งข้อมูลให้กับ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Report) เพื่อแจ้งว่าชาวต่างชาติที่เข้าพักนั้นมีจำนวนเท่าไรหากไม่แจ้งจะมีความผิดทางกฎหมาย
– Deposit เงินมัดจำเมื่อเข้าพัก แม้ว่าคุณจะจ่ายเงินค่าห้องมาแล้ว แต่ทางโรงแรมจะขอให้คุณจ่าย Deposit เป็นเงินสดหรือเครดิตการ์ดเอาไว้ (ทำด้วยการกันวงเงิน) ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะแม้ว่าคุณจะจ่ายเงินค่าห้องมาแล้วแต่ ในส่วนให้บริการอื่นทั้งในห้องพัก (มินิบาร์ – โทรศัพท์) ร้านอาหาร หรือ Room Service (ส่งเสื้อเพื่อซักรีด) เหล่านี้ล้วนเป็นค่าใช้จ่าย และ มีผู้เข้าพักนิสัยไม่ดีบางรายชิ่งหนีไม่ยอมจ่ายมาแล้ว ทั้งนี้เงิน Deposit นั้นจะถูกจ่ายคืนเมื่อคุณ เช็กเอาท์ (กรณีเงินสด) หากเป็นการกันวงเงินบัตรเครดิต คุณจะได้รับวงเงินกลับคืนภายใน 7 วันทำการ
– Standard Check-in time โดยทั่วไปแล้วเวลา เช็คอิน หรือ ลงทะเบียนเข้าพักมาตรฐานสากลของโรงแรมจะเป็นเวลา 14.00 น. ถ้าไปก่อนจะต้องฝากกระเป๋าและรอให้มีการทำความสะอาดห้องก่อน แต่ถ้าไปเช็คอินหลังจากบ่ายสอง อาจจะประมาณ 15.00 น. มีโอกาสจะได้ห้องที่ดีกว่า
– ในเว็บไซต์สำหรับนักท่องเที่ยวอย่าง Trip Advisor นั้นมีการระบุถึงการนำคนเข้าพักเกินจำนวนห้องที่จองไว้โดยให้หลบเข้ามาจะถูกคิดเงินเพิ่มหรือไม่ หรือ จะมีความผิดมากน้อยเพียงใด มีพนักงานโรงแรมในญี่ปุ่น มาตอบว่าถ้ามีจำนวนแขกที่เข้าพักเกิน ผู้เข้าพักต้องจ่ายตามหัวที่เกิน โดยมีข้อแม้ว่าห้องนั้นต้องสามารถเพิ่มเตียงเสริมได้ แต่ถ้าคุณไม่ยอมจ่ายจะถูกให้ออกจากที่พัก โดยจะไม่ได้รับการชดเชยเงินค่าห้องแต่อย่างใด และ โรงแรมบางแห่งอาจจะแจ้งความตำรวจให้มาดำเนินการเลยทีเดียว
– ครั้งหนึ่งเว็บไซต์ Tripbarometer ได้ทำการสำรวจว่าร้อยละ 65 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และ ร้อยละ 60 ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ยอมรับว่าได้หยิบฉวยสิ่งของจากห้องพักในโรงแรม โดยอุปกรณ์อาบน้ำเป็นสิ่งยอดนิยมในการหยิบติดมือกลับบ้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอุปกรณ์ในห้องน้ำนั้นสำหรับใช้ในระหว่างเข้าพักเท่านั้น แต่เป็นที่ยอมรับกันได้ทั่วโลกว่า พวกสบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มักจะถูกผู้เข้าพักหยิบติดมือไปด้วยเสมอ ส่วนของที่เป็นที่ประดับตกแต่งในโรงแรมนั้น ถือเป็นสมบัติของโรงแรม ผู้เข้าพักไม่มีสิทธิไปหยิบฉวย และหากทำจริงก็เท่ากับเป็นขโมย ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายอย่างแน่นอน
– นอกจากนี้แล้วข้อห้ามอย่าง ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้เข้าพักท่านอื่น ไม่ทำอาหารหรือจุดไฟ และ เล่นการพนันในห้องพัก รวมไปถึงสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ เหล่านี้ล้วนเป็นข้อห้ามที่รับทราบกันทั่วโลก ห้ามมีผู้เข้าพักฝ่าฝืน และ เมื่อทำการตักเตือนแล้วไม่ฟังทางโรงแรมมีสิทธิที่จะเชิญออกจากที่พักได้เช่นกัน