“มีลูกเพื่อชาติ” ไม่ได้มาเล่นๆ เมื่อไทยติดท็อป 5 ประเทศที่ประชากรลดลงเร็วที่สุดในโลก!

ค่อนข้างเป็นข่าวฮือฮาไม่น้อย เมื่อกระทรวงสาธารณสุขเปิดตัวโครงการ “ส่งเสริมสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ ด้วยวิตามินแสนวิเศษ” เพื่อรณรงค์ให้หญิงไทยในวัยเจริญพันธุ์ (20-34 ปี) ร่วมด้วยช่วยกันตั้งครรภ์ หลังพบว่าสาวไทยครองตัวเป็นโสดมากขึ้น จนทำให้ประชากรลดน้อยลง จากร้อยละ 2.7 ในปี 2513 เหลือร้อยละ 0.4 ในปี 2558

หลายคนอาจมองเป็นเรื่องตลก พร้อมอดสงสัยไม่ได้ เรื่องนี้ถึงขั้นต้องทำเป็นโครงการใหญ่โตเชียวหรือ วันนี้ เรามีข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งน่าจะตอบข้อสงสัยนี้ได้ เมื่อ “ฟอร์บส์” นิตยสารธุรกิจการเงินชื่อดัง เพิ่งจัดอันดับออกมาไม่กี่วันก่อน เกี่ยวกับ “ประเทศใหญ่ (มีประชากรมากกว่า 20 ล้านคน) ที่จำนวนประชากรกำลังลดลงเร็วที่สุดในโลก”

และไม่น่าเชื่อว่าจากทั้งหมด 56 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับ 5 ของโลก! ซึ่งฟอร์บส์คาดการณ์ไว้ว่า ในระหว่างปีค.ศ. 2015-2050 ไทยจะมีจำนวนประชากรลดลงที่ 8.1 เปอร์เซ็นต์ จากประชากรในปี 2015 ราว 67.9 ล้านคน ซึ่งนั่นเป็นผลพวงจากการที่หญิงไทยมีลูกน้อยลง สอดคล้องกับข้อมูลโดยสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ในปี 2016 ที่ระบุว่า หญิงไทยมีลูกเฉลี่ยต่อคนที่ 1.51 คน เท่านั้น

ทั้งนี้ ประเทศที่มีการลดลงของประชากรเร็วที่สุดในโลก คือ ยูเครน (-22 เปอร์เซ็นต์) ตามด้วย ญี่ปุ่น (-15.1 เปอร์เซ็นต์) , โปแลนด์ (-14 เปอร์เซ็นต์), รัสเซีย (-10.4 เปอร์เซ็นต์) และไทย ส่วนอันดับ 6-9 ได้แก่ เยอรมนี (-7.7 เปอร์เซ็นต์), อิตาลี (-5.5 เปอร์เซ็นต์), สเปน (-2.8 เปอร์เซ็นต์) และ จีน (-2.0 เปอร์เซ็นต์) ตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประเทศจากทวีปยุโรปและเอเชีย สวนทางกับประเทศในทวีปแอฟริกา ที่มีอัตราการเกิดของทารกต่อผู้หญิง 1 คน ไม่ต่ำกว่า 3-5 คน

ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงหวังจะเพิ่มจำนวนประชากรให้มากขึ้นที่ 2.1 คน ต่อหญิงไทย 1 คน ในการทดแทนพ่อแม่อย่างละ 1 คน และเผื่อกรณีของการสูญเสียด้วย เพื่อไม่ให้ใน 10 ปีข้างหน้า ต้องเผชิญกับภาวะที่มีอัตราเกิดเท่ากับอัตราตาย แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้ความสำคัญกับการเกิดและเติบโตมาอย่างมีคุณภาพด้วยเช่นกัน