101 แมนฯยูไนเต็ด (77): ชำแหละ “แท็กติก” สปอนเซอร์ของผีแดง

ในตอนนี้ของเรื่อง “101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับแมนฯยูไนเต็ด นั้น ผมจะพาทุกคนมาดูรายชื่อของสปอนเซอร์ของสโมสรต่างๆ และการแบ่งแยกหมวดของผู้สนับสนุนที่สโมสรทำ และต้องบอกเลยว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นมีสปอนเซอร์เยอะมาก และมีทุกรูปแบบจริงๆครับ และนี่คือต้นตอของจำนวนเงินมหาศาลที่สโมสรได้มา นอกจากค่าถ่ายทอดสดที่ก็เยอะมากอยู่แล้ว โดยสโมสรจะแบ่งชนิดของสปอนเซอร์ออกเป็น 4 แบบครับ มีดังนี้

Global Partners

สปอนเซอร์เหล่านี้คือสปอนเซอร์ที่เป็นพันธมิตรในระดับโลกครับ หมายความว่าพวกเขาจะมีโฆษณาคู่กับสโมสรในสนาม และเวลาไปทัวร์ต่างๆ โดยไม่มีการจำกัดพื้นที่ในการทำการตลาด เช่นบริษัทอย่าง 20th Century Fox ที่เป็นค่ายหนังสปอนเซอร์ก็สามารถทำการตลาดได้สบายๆและที่จะเห็นกันได้ชัดก็จะเป็นป้ายการตลาดรอบๆสนามในช่วงเวลาแข่งหรือแผ่นป้ายโปรโมทสินค้าในพื้นที่ของสนามเช่นตรงด้านหน้าสนามและในพื้นที่ขายอาหารด้วย

นอกจากนี้ก็จะมีหมวด Principle Partners ที่จะมี เชฟโรเล็ต และเอออน (AON) อยู่ในหมวดนี้ เพราะพวกเขาคือผู้สนับสนุนหลัก โดยที่เชฟโรเล็ต หรือเจเนอรอล มอเตอร์ส นั้นเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่ง ส่วนเออนนั้นเป็นสปอนเซอร์ชุดซ้อมและชื่อของสนามซ้อมด้วย เรียกได้ว่าสโมสรนั้นเก็บทุกเม็ดจริงๆ แม้แต่เสื้อผ้าสำหรับลุยในสภาพอากาศแบบเอ็กซ์ตรีม ก็มีสปอนเซอร์เป็น Columbia เช่นกัน (ถ้าเดากันเล่นๆ นี่อาจจะเป็นเสื้อที่มูรินโญ่ชอบใส่เวลาคุมทีมอยู่ข้างสนามบางครั้ง และเราไม่เห็นตราอาดิดาสก็ได้นะ)

ภาพหน้าทางเข้าสนามซ้อมที่มีขื่อของ “เอออน” เป็นสปอนเซอร์ (ภาพจาก Twitter:@Manutd)

การที่สโมสรต้องการมาเป็นสปอนเซอร์นั้นนอกจากจะเป็นการเปิดตลาดไปกับสโมสรฟุตบอลที่มีคนติดตามมากที่สุดด้วยแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทว่า พวกเขาเนี่ยเป็นถึงสปอนเซอร์ของทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จระดับนี้เลยนะ รวมไปถึงโอกาสที่จะทำธุรกิจร่วมกันในอนาคตด้วย

Regional Partners

อันนี้ก็จะแบ่งลงมาจาก Global Partners ซึ่งจะให้บริษัทที่เซ็นแบบนี้ทำการตลาดได้แค่ในพื้นที่ และเป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ในประเทศ หรือโซนต่างๆ ตามแต่ที่สโมสรกำหนด เช่นบางบริษัทก็จะทำการตลาดในแค่ที่ฮ่องกง หรือแค่ในประเทศไนจีเรียเป็นต้น เชื่อว่าบริษัทที่เซ็นเป็นสปอนเซอร์ในหมวดนี้ น่าจะต้องจ่ายน้อยกว่าผู้สนับสนุนในระดับ Global Partners เพราะการตลาดจะเน้นในประเทศของตัวเอง มากกว่าที่สนาม เวลาถ่ายทอดสดก็จะไม่ได้เห็นชื่อบริษัทหรือสินค้าเหล่านี้เหมือนกับพวก Global Partners

Media and Telecommunications Partners

ภาพจาก manutd.com

ส่วนนี้จะเป็นส่วนสำหรับบริษัทที่เป็นสื่อ หรือบริษัทโทรคมนาคม โดยจะแบ่งออกเป็นตามประเทศด้วย เช่น Sina Sports ซึ่งเป็นบริษัทจางประเทศจีน ซึ่งจะมารับหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนเรื่องสื่อ และโทรคมนาคมของสโมสร

การทำแบบนี้ ในแง่ของการตลาดนั้น จะช่วยให้แมนฯยูไนเต็ด สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศต่างๆได้จากบริษัทเหล่านี้ เพราะแน่นอนว่าการใช้เครื่องมือสื่อสารในโลกนั้นเป็นเรื่องจำเป็น และทางสโมสรก็สามารถนำข้อมูลจากบริษัทเหล่านี้มาปรับใช้ในเรื่องของการตลาดในแต่ละพื้นที่เพื่อให้เข้าถึงต่อลูกค้า หรือแฟนฟุตบอลได้ตรงขึ้น

Financial Partners

ในส่วนของผู้สนับสนุนด้านการเงินเองก็จะใช้หลักการเดียวกับผู้สนับสนุนของบริษัทสื่อ เพราะจะแบ่งไปตามประเทศเช่นกัน เพราะหากลองคิดกันง่ายๆแล้ว ธนาคารส่วนใหญ่ก็จะทำธุรกิจในประเทศของตัวเอง ทำให้มีความเป็นท้องถิ่นและเมื่อแมนฯยูไนเต็ดจัดสปอนเซอร์ตามประเทศ พวกเขาก็สามารถเจาะแต่ละประเทศที่มีผู้สนับสนุนได้ง่ายขึ้นไปด้วย เช่นว่าตอนนี้ธนาคารกรุงศรีนั้น รับหน้าที่เป็นสปอนเซอร์ด้านการเงินของสโมสรในประเทศไทย หากแมนฯยูไนเต็ดจะต้องการมาเปิดตลาดด้านการเงินในเมืองไทย พวกเขาก็สามารถขอคำแนะนำจากธนาคารกรุงศรีได้

ก่อนหน้านี้ เคยมีการตั้งขอสังเกตแบบคร่าวๆกันในบทเรียนเรื่องการตลาด และธุรกิจกีฬาที่ผมเรียน ว่าธนาคารบางส่วนนั้น (ในอังกฤษเป็นต้น) ต้องการเข้ามาทำธุรกิจหรือเป็นผู้สนับสนุนในวงการฟุตบอลเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อบริษัท เช่นเราจะเห็นได้ว่าบริษัทอย่างบาร์เคลยส์ นั้นสามารถสร้างภาพลักษณ์ในระดับโลกได้ดีขึ้นมาก จากการเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ชื่อการแข่งขันของพรีเมียร์ลีกอยู่หลายปี ธนาคารหลายๆที่เลยอาจจะใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือ (ก็ไม่ขนาดนั้นนะ) ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวบริษัทของเขา ส่วนตอนนี้ บาร์เคลย์สก็ลดตัวมาเป็นแค่สปอนเซอร์ธนาคารของพรีเมียร์ลีกแทนแล้วครับ

แต่เอาจริงๆนะ ใครจะไม่อยากมาเป็นสปอนเซอร์กับแมนฯ ยูไนเต็ดล่ะ แม้ว่าทีมจะผลงานไม่ดีก็เถอะ แต่มูลค่าการตลาดนอกสนามก็ชนะขาดอยู่ดีนะ

“101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับแมนฯยูไนเต็ด คือ เรื่องที่เจาะลึกของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยร่วมงานกับสโมสรแห่งนี้เป็นเวลากว่าปีครึ่ง โดยนำเสนอเป็นประจำทุกวันจันทร์ศุกร์ ไปจนกว่าจะครบ 101 เรื่อง

ส่วนใครที่พลาดตอนอื่นๆของ “101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับแมนฯยูไนเต็ดไป สามารถเข้าไปย้อนอ่านกันได้ที่ https://tonkit360.com/tag/101-เรื่องลึกไม่ลับ