“1 นาที 32.957 วินาที” คือเวลาต่อรอบที่ โจนาธาน เรีย แชมป์โลกฝั่งเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ทำสถิติเป็นเวลาต่อรอบที่เร็วที่สุดของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในการขี่รอบซูเปอร์โพลสอง ของศึกเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ที่บุรีรัมย์ เมื่อปีที่แล้ว
เห็นเวลาต่อรอบของ เรีย ที่ตั้งต้นเอาไว้ในฝั่งรถ 2 ล้อทางเรียบ หากใครที่เป็นแฟนความเร็วแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าน่าลุ้นสุดๆครับ ว่าผลการทดสอบรถโมโตจีพี ช่วงวินเตอร์เทสต์ ครั้งที่ 2 ของปีที่สนามบุรีรัมย์ ในช่วง 16-18 มีนาคมนี้ นักบิดจากค่ายใดจะทำเวลาได้เร็วที่สุด และจะเร็วกว่ารถเวิลด์ซูเปอร์ไบค์กี่วินาที
ผมเองมีโอกาสได้พูดคุยกับ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทู ที่ผ่านการขี่แข่งขันมาแล้วทุกสนามทั่วโลก รวมถึงเคยคว้าแชมป์ เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ต (รุ่นรองของเวิลด์ซูเปอร์ไบค์) มาแล้วในการขี่ที่บุรีรัมย์เมื่อปี 2015 ถึงรูปแบบของแทร็กสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กับแทร็คอื่นๆทั่วโลก
ฟิล์ม บอกว่า ถ้าไล่ดูรูปแบบของแทร็กของสนามช้าง กับ แทร็กอื่นๆในปฏิทินแข่งขันโมโตจีพี ที่มีรูปแบบใกล้เคียงที่่สุด น่าจะเป็น แอสเซ่น เซอร์กิต ในเนเธอร์แลนด์ส ผสมกับ โลซัล เซอร์กิต ในกาตาร์ ที่แทร็คเกือบทั้งหมดจะอยู่ในระนาบเดียวกัน ไม่มีขึ้นหรือลงเนิน โดยโค้งของสนามช้างฯมีรูปแบบคล้ายๆที่แอสเซ่น และมีทางตรงยาวเหยียดคล้ายทางตรงด้านหน้าแกรนด์สแตนที่กาตาร์
ซึ่งเมื่อไปไล่ดูเวลาย้อนหลังของรถเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ กับ รถโมโตจีพี ในปี 2017 เวลาต่อรอบรถโมโตจีพีซึ่งเป็นรถโปรโตไทป์ จะเร็วกว่ารถเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ ที่มีพื้นฐานจากสายพานการผลิตราวๆ 2 วินาที ฉะนั้นในการทดสอบครั้งนี้ที่ประเทศไทย คาดกันว่า รถที่เร็วที่สุดน่าทำเวลาต่อรอบเป็นสถิติสนามใหม่ที่ราวๆ 1 นาที 30 วินาทีปลายๆ
อย่างไรก็ดีก็ต้องบอกว่ามีหลายปัจจัยครับ เพราะการมาเทสต์ครั้งนี้ ผมเชื่อว่าทุกทีมไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อทำเวลาให้เร็วที่สุด แต่ต้องการที่จะเก็บข้อมูลในการเซ็ตอัพให้ได้มากที่สุด เพราะอย่าลืมว่า นี่คือสนามใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด และทุกทีมแทบจะไม่มีข้อมูลเลย เว้นแต่ว่าบางทีม จะได้รับความช่วยเหลือจากทีมโรงงานของฝั่งเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ที่มาแข่งที่นี่ตั้งแต่ปี 2015
นอกจากนี้เราก็ต้องไม่ลืมว่า ผลการเทสต์ครั้งแรกที่มาเลเซีย รถดูคาติเบอร์ 99 ของ ฆอร์เก้ ลอเรนโซ่ ทำเวลาทุบสถิติสนามมาแล้ว ฉะนั้น ด้วยความสามารถของนักบิดระดับท็อปของโลก บวกกับสมรรถนะของรถโมโตจีพี ที่มีการพัฒนาให้ไปได้เร็วขึ้นทุกปี ก็ไม่แน่ว่า เราอาจได้เห็นเวลาต่อรอบที่เร็วกว่าที่คาดเอาไว้ได้เช่นกัน
สุดท้ายผมขอเดาเล่นๆ ครับว่า ดูคาติ จะยังคงเร็วที่สุดในการเทสต์โมโตจีพี อิน ไทยแลนด์ ครั้งแรก สุดสัปดาห์นี้ แต่อาจะเปลี่ยนมือเป็นรถเบอร์ 04 ส่วนอันดับที่ 2 ขอเดาเป็นรถเบอร์ 93 จากเรปโซลฮอนด้า
และที่สำคัญเราน่าจะได้เห็นตัวเลขท็อปสปีดของรถโมโตจีพีที่สุดทางตรงโค้ง 3 ทะลุ 310 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงค่อนข้างแน่ แล้วไปลุ้นกันครับ
