เห็นยักษ์นนทก ในพาเหรดล้อการเมืองของฟุตบอลประเพณี จุฬา – ธรรมศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แล้วให้คิดถึงแบบเรียนภาษาไทยตอนเด็กๆค่ะและเชือว่ารุ่นเดียวกับผู้เขียนหรือรุ่นน้องๆน่าจะต้องได้เรียนเหมือนกัน กับรามเกียรติ์บทละคร ตอน พระนารายณ์ปราบยักษ์นนทก ที่ปีนี้ผู้จัดขบวนพาเหรดล้อการเมือง สื่อความหมายของยักษ์นนทก กับการใช้อำนาจ ออกมาได้อย่างแยบคายยิ่ง
เรื่องของยักษ์นนทก ที่มีนิ้วเพชรชี้ไปที่ใครก็ตายหมดนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์รามเกียรติ์ และ นับเป็นกุศโลบาย ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1ที่ทรงประพันธ์บทละครตอนนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการ เตือนสติผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือ ถ้าหลงในอำนาจของตนเอง สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตด้วยอำนาจนั้น
ยักษ์นนทก นั้นเป็นยักษ์ทวารบาล คอยล้างเท้าให้เหล่าเทวดาอยู่เชิงเขาไกรลาส ความที่เป็นยักษ์เฝ้าประตู ทำให้เหล่าเทวดา นางฟ้า ที่จะมาเฝ้าพระอิศวรหาได้มีความเกรงใจ ยักษ์นนทก ถูกข่มเหงรังแกจากเหล่าเทวดา นางฟ้า ตลอดเวลาบ้างก็ตบหัวบ้าง ลูบหัวบ้าง จนท้ายที่สุดยักษ์นนทก กลายเป็นยักษ์หัวล้านสร้างความเก็บกดเป็นอย่างยิ่ง
แล้วก็ถึงวันที่ ยักษ์นนทก หมดความอดทน ไปขอความช่วยเหลือจากพระอิศวร เมื่อพระอิศวร ได้ฟังปัญหาของ ยักษ์นนทก ก็รู้สึกสงสารเลยให้พรยักษ์นนทก ว่าต้องการมีอิทธิฤทธิอันใด จะดลบันดาลให้ตามที่ต้องการ ยักษ์นนทก จึงขอพร พระอิศวร ให้ตนเองมีนิ้วเพชร เมื่อชี้ไปที่ใครผู้นั้นก็ถึงแก่ความตาย
เมื่อได้พรสมปรารถนา ยักษ์นนทก ที่เก็บกดมานานรอจังหวะที่เหล่าเทวดา จะเข้าเฝ้าพระอิศวร พอเทวดาองค์ไหนคิดจะข่มเหงแบบเดิม ยักษ์นนทก ก็ใช้นิ้วเพชรของตนเอง ชี้ไปที่เทวดาองค์นั้นและทำให้ถึงแก่ความตาย
การมีฤทธิ์ที่สามารถชี้ตายผู้อื่นได้ ทำให้ยักษ์นนทก หลงใหลในอำนาจนั้น และก็เหมือนกับยักษ์เก็บกด เพราะหลังจากนั้นยักษ์นนทกไม่ได้ใช้นิ้วเพชรกำจัดเทวดาที่ข่มเหงตนเองอย่างเดียว แต่กลายเป็นยักษ์ที่กร่างไปทั่วพาลไปเรื่อย แบบคนที่เพิ่งเคยมีอำนาจ แล้ว บริหารอำนาจที่ตนมีไม่เป็น
เมื่อเกิดความวุ่นวายจาก พรที่ให้แก่ยักษ์นนทก พระอิศวรเห็นว่าไม่ได้การเลยไปขอความช่วยเหลือจากพระนารายณ์ ให้มาปราบเจ้ายักษ์นนทก นิ้วเพชร พระนารายณ์จึงแปลงร่างเป็นนางฟ้า มาร่ายรำยั่วยวนยักษ์นนทก ซึ่งตามบทละครพระนารายณ์ ปราบยักษ์นนทก ตามที่เราเรียนกันนั้นยักษ์นนทก มาเสียท่าตามบทกลอนด้านล่างนี้
“ฝ่ายนนทกก็รำตาม ด้วยความพิสมัยใหลหลง
ถึงท่านาคาม้วนหางวง ชี้ตรงถูกเพลาทันใด ฯ”
นิ้วเพชรของยักษ์นนทก ก็ชี้ไปที่ขาของตนเองจนล้มลง พระนารายณ์จึงคืนร่างแล้วเหยียบ ยักษ์นนทก เอาไว้แต่ก่อนที่พระนารายณ์จะลงโทษยักษ์ผู้หลงในอำนาจของตนเอง ยักษ์นนทก ได้ร้องขอชีวิตเอาไว้แถมอุธรณ์ว่าพระนารายณ์มีสี่กร ตนจะสู้อะไรได้
พระนารายณ์เลย บอกกับยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ว่า จะไปพบกันในโลกมนุษย์ให้ยักษ์นนทก มีสิบเศียร สิบกร ขณะที่องค์พระนารายณ์ จะขอเป็นมนุษย์ธรรมดาที่จะมาปราบ ยักษ์นนทก บนโลกมนุษย์เอง และนั่นก็คือบทเริ่มต้นของมหากาพย์รามเกียรติ์
เรื่องราวของยักษ์นนทก กับนิ้วเพชร นั้นเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับ การดูผลลัพธ์ว่า การให้อำนาจกับคนที่ไม่รู้วิธีใช้อำนาจที่ถูกต้องนั้น ได้สร้างปัญหาตามมามากมายเพียงใด
แต่เหนืออื่นใด เรื่องราวของยักษ์นนทก ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ต่อให้มีอำนาจมากแค่ไหนและคิดว่าอำนาจนั้นทำให้ตนเองเหนือคนทั่วไป สุดท้ายก็ต้องตายด้วยความคิดดังกล่าว ดังเช่นยักษ์นนทก ลงมาเกิดเป็นทศกัณฐ์มีสิบเศียร สิบกร ท้ายที่สุดก็ต้องตายด้วยน้ำมือของมนุษย์ธรรมดาที่ชือว่าพระราม ร่างอวตารของ พระนารายณ์บนโลกมนุษย์ นั่นเอง