ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนไทย เมื่อเทคโนโลยีก้าวไกลกู่ไม่กลับ!

ความสะดวกสบายต่างๆ ที่พัฒนาอยู่เรื่อยๆ ในปัจจุบันทำให้พฤติกรรมอันเป็นเสน่ห์ของการใช้ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไปมากทีเดียว บางสิ่งเป็นเรื่องที่ค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันจนกลายเป็นความเคยชิน  แต่ถ้าเราจับแยกออกมาเป็นข้อๆ ให้เห็นกันชัดๆ มันก็เกิดความใจหายต่อสิ่งที่เปลี่ยนไปไม่น้อยเลย

ภาพจาก Tonkit360

เดี๋ยวนี้ใครเขาจำเบอร์มือถือกัน

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า การจะบันทึกเบอร์โทรศัพท์ใหม่ๆ ของเพื่อนหรือคนรู้จักก็เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วแตะ  ผิดจากแต่ก่อนที่บางคนยังไม่มีโทรศัพท์ใช้กันด้วยซ้ำ ทางแก้ก็คือต้องจำเบอร์สำคัญของคนในครอบครัว ของเพื่อนสนิทที่คุยกันบ่อยๆ ให้ได้เผื่อต้องไปหยอดตู้โทรศัพท์  หรืออีกวิธีนึงก็คือใช้สมุดจดเบอร์โทรที่ตอนนี้คงค่อยๆ หายไปแล้ว

SMS นี่ยังจำเป็นอยู่มั้ย

แอปพลิเคชั่นมากมายไม่ว่าจะเป็น Line Facebook Twitter IG ที่ใช้กันโครมๆ อยู่ทุกวันนี้ค่อนข้างเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ SMS หรือการส่งข้อความในมือถือลดน้อยลงไป

ก็ในเมื่อเรามีความสะดวกสบายนั้นรออยู่ แถมเป็นแพคเกจแบบเหมา จ่ายรายเดือน หรือซื้อ 3G ก็สามารถเล่นแอปต่างๆ ได้ไม่อั้นแบบไม่คิดเงินเพิ่ม ทำให้ SMS ครั้งละ 3 บาทที่คุยกันได้แค่ครั้งละไม่กี่ประโยคย่อมโดนโจมตีเป็นธรรมดา

แต่สิ่งที่น่าเสียดายนั่นก็คือความสนุกสนานในวันปีใหม่ หรือเทศกาลต่างๆ ก็คือการนั่งเลือกเบอร์ของคนสนิทที่เราจะส่งข้อความไปอวยพรนั่นก็หายไปด้วย จะพูดไปก็คิดถึงอะไรแบบนั้นเหมือนกัน

เทปคาสเซ็ท สู่ Digital Single 

สมัยก่อนถ้าเห็นใครเหน็บเครื่องเล่นเทปพกพา (Sound About) ไว้ตรงเอวนี่ถือว่าเท่และทันสมัยมาก หรือแม้แต่ตอนที่เปลี่ยนมาเป็นแผ่นซีดีก็ตาม  แต่ในปัจจุบันที่เรามีสมาร์ทโฟนที่มีฟังค์ชั่นการฟังเพลงครบครันไม่ว่าจะในตัวเครื่องหรือแอปพลิเคชั่น ก็ทำให้สิ่งเหล่านั้นมันลดลงไปตามกาลเวลา  คนเริ่มไม่ซื้ออัลบั้ม หรือซีดี เพราะมันฟังยาก ไม่สะดวกสบาย แต่ก็หันมาซื้อ Digital Single ที่ออกขายใน iTune หรือดิจิตอลดาวโหลดต่างๆ

การนับยอดขาย หรือรายได้หลักศิลปินก็เปลี่ยนจากการขายเทป ขายอัลบั้มมาเป็นการนับยอดดาวน์โหลดเช่นกัน

จ้องหน้าสมาร์ทโฟนแทนหน้าจอทีวี 

ความรวดเร็วและสะดวกสบายของโซเชียลมีเดียทำให้ปัจจุบันนี้คนดูโทรทัศน์น้อยลงไปอย่างไม่ต้องสงสัย  จากที่เคยต้องนั่งรอเวลาหน้าจอทีวี ว่าจะมีรายการ หรือรอฟังข่าวตามกำหนดเวลาของช่อง  เมื่อมีอินเตอร์เน็ตอยู่ตรงหน้า จะเลือกทำอะไรในช่องทางไหนก็ได้ เราจะเลือกอ่านข่าวในเวลาที่โทรทัศน์กำลังฉายละครหลังข่าวอยู่ก็ได้  นั่นคงเป็นอีกเหตุผลนึงที่เราไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอทีวีรอตารางออกอากาศของแต่ละช่องอีกแล้ว

และเว็ปไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube หรือ line TV ก็สามารถทำให้เราย้อนดูรายการย้อนหลังได้แบบไม่พลาดสักตอน

คาเฟ่ ร้านกาแฟ แทนที่ สภากาแฟ หน้าร้านโชห่วย

สมัยนี้ร้านกาแฟ คาเฟ่ชิคๆ เก๋ๆ มีให้เห็นกันเกลื่อน ยิ่งเป็นย่านที่อยู่ในเมืองเข้าหน่อย ร้านกาแฟแบรนด์ต่างๆ ตั้งกันแทบจะทุกซอยทุกหัวมุมไม่แพ้ร้านสะดวกซื้อเลยทีเดียว นั่นทำให้เสน่ห์ของการจิบกาแฟ เปิดหนังสือพิมพ์ แลกเปลี่ยนความเห็นด้านสังคม การเมืองหน้าร้านโชห่วยหายไปตามความเปลี่ยนแปลง แต่บรรยากาศแบบนี้ยังคงหาเจอได้อยู่ตามต่างจังหวัด

พกสมาร์ทโฟนเข้าห้องน้ำ ง่ายกว่ากางหนังสือพิมพ์อ่านเยอะ

อาจเป็นพฤติกรรมเฉพาะตัวไปซะหน่อย กับบางคนที่ต้องอ่านอะไรซักอย่างเวลาเข้าห้องน้ำนานๆ  แต่ก่อนเราอาจจะต้องลงทุนพกหนังสือนิยาย วรรณกรรมเล่มโปรด  หรือหนังสือพิมพ์เข้าไปอ่านในห้องน้ำเป็นการฆ่าเวลา  เมื่อโลกพัฒนาไปเป็นการรวมทุกอย่างนั้นไว้ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวได้ เราก็ไม่ต้องลำบากถือหนังสือเหล่านั้นเข้าห้องน้ำอีกต่อไป

โดดยาง เป่ากบ หมากเก็บ ดีดลูกแก้ว การ์ดไพ่ เขาไม่เล่นกันแล้ว!

กิจกรรมยามว่างของเด็กประถมสมัยก่อน จะขาดการโดดยาง เป่ากบ เล่นหมากเก็บ ดีดลูกแก้ว หรือเล่นกินการ์ดไพ่กันไม่ได้เลย! หรือแม่แต่ร้องเพลงปรบมือ คุณแม่ซักผ้า คุณยายสระผมก็ได้ยินกันทุกโรงเรียนทั่วประเทศ  แต่สิ่งที่เห็นกันชินตาสมัยนี้ก็คือ เด็กตัวเล็กๆ รุ่นอนุบาล เด็กประถมเดี๋ยวนี้ถือไอโฟน ไถไอแพดกันหมดแล้ว  จนแอบคิดไม่ได้ว่า “ตอนพี่อายุเท่าน้อง พี่ยังกระโดดยางอยู่เลยน้องเอ้ย!”

บางทีเราอาจจะต้องมานั่งลองคิดกันดูว่า อีกประมาณ 10-20 ปีข้างหน้า โลกจะพัฒนาไปถึงขนาดไหน และทำให้ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเปลี่ยนไปเป็นอย่างไรบ้าง  ไม่แน่ในวันข้างหน้า โทรศัพท์มือถืออาจจะไม่ต้องใช้มือถืออีกแล้ว ใครจะไปรู้…