5 จุดเด่น หนัง DC และ Marvel: ใครจะ “แน่” กว่ากัน?!

หากพูดถึง “หนังฮีโร่” แล้ว ใครๆก็จะนึกถึงค่าย Marvel และ DC ก่อน วันนี้เราจึงจะมาดูกันว่า คนส่วนใหญ่ชอบอะไรในตัว “หนังฮีโร่” ของทั้ง 2 ค่ายนี้ และทำไมแฟนคลับทั้ง 2 ฝ่ายต้องมา “ถกเถียง” กัน เหมือนคนเถียงกันว่าเรื่อง แมนฯยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล วันนี้ทาง Tonkit360 จะมาบอก 5 จุดเด่นของหนังจากทั้งสองค่ายนี้กัน จะมีอะไรกันบ้าง ลองไปดูกันเลย!

5. “สายฮา” ปะทะ “สายเท่”

ภาพจาก Rottentomatoes.com

ในหนังของทาง Marvel นั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปทางฮา หรือมุขที่ทำให้คนดูนั่นฮือฮาสร้างเสียงหัวเราะอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่ว่าฮาแล้วจะไม่เท่นะ แต่กลายเป็นว่าฮาแล้วเป็น “เอกลักษณ์” เฉพาะตัวที่ใครดูต่างก็รู้ว่า “อ๋อ ค่าย Marvel ทำ”

ส่วนทาง DC จะมีสไตล์อีกแบบ เพราะตัวละครเช่น Batman นั้นจะดูมีความเป็นผู้ใหญ่มาก และเบื้องลึก เบื้องหลังตัวละครแต่ละตัวก็ “ดาร์ก ดิบ เถื่อน” ซะเหลือเกิน ตัวหนังจึงออกไปแนวทาง “เท่แบบดิบ” มากกว่าที่จะฮา แต่ถ้าจะเอา“ฮา” จริงๆ ก็คงมีแค่ตัวละครอย่าง The Flash ที่ปูตัวละครมาเป็นสไตล์วัยรุ่น คล้ายๆกับ Spider Man ของ Marvel แต่สุดท้ายแล้ว จุดขาย DC คงไม่เหมาะกับฮาหรอกมั้ง (หรือคุณว่าไม่จริง?)

4. ระยะเวลาที่แตกต่างกัน

ไทม์ไลน์ของหนังจากค่าย Marvel (ภาพจาก Marvel Cinematic Universe)

ถ้าถามว่าทำไมคนถึงชอบ Marvel กันจังเลยมีแต่คนอวย แต่พอหนัง DC กับล้มครืน คะแนนน้อยจัง ถ้าจะบอก “เวลา” มีส่วนทำให้คนชอบมากน้อยจริงเหรอ ขอตอบว่า “ใช่ครับ แน่นอน”

เพราะทาง Marvel ปูทางตัวละครทุกตัวมาอย่างยาวนาน แต่ฝั่ง DC ที่ง่วนอยู่กับ Batman ไม่รู้กี่ภาคต่อกี่ภาค และเพิ่งจะมารีบูทใหม่เมื่อไม่กี่ปีนี้ ทำให้คนดูส่วนใหญ่คงสนใจสิ่งที่เข้าใจง่ายกว่า อย่าง Marvel ที่ปูพื้นฐานตัวละครมานานแล้วนั่นเอง

3. การตลาด

ภาพจาก Twitter:@JusticeLeagueWB

แผนงานการตลาดของทั้งสองค่าย ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อแฟนคลับอย่างมาก เนื่องจาก Marvel วางแผนไว้ตั้งหลายปีว่าหนังเรื่องไหน หรือ ตัวละครใดควรปล่อย ควรได้ไปต่อ และปล่อยข่าวออกมาให้คนได้รอติดตามกันอย่างยาวนาน ซึ่งต่างกับ DC ที่คาแรกเตอร์แต่ละตัวยังไม่ชัดเจน ถามว่า ไม่รู้จัก Batman, Superman, และ The Flash เหรอ “ใช่ครับ รู้!” แต่ไม่เพียงพอเท่ากับ Marvel ที่เขาวางแผนกันมาหลายปี สังเกตจากการสร้างหนังโฟกัสตัวละครแต่ละตัวมาหลายเรื่องก่อนจะสร้าง “The Avengers” ซึ่งผิดกับกับ DC ที่มีหนัง หรือซีรีส์แยกตัวละครเพียงไม่กี่เรื่อง ก็เอามารวมกันซะแล้ว (แต่ไม่นับ Wonder Woman นะจ้ะ)

2. กลุ่มเป้าหมายต่างกัน

ภาพจาก Pixabay.com

ถ้าถามว่ากลุ่มเป้าหมายต่างกันยังไง ต่างสิ! เชื่อผมเถอะ!

Marvel จะเน้นคนดูรุ่นเด็กเป็นหลัก ซึ่งหาเราให้เด็กเหล่านี้ลองมาดูหนังค่าย DC ก็จะ “หาว” กันเป็นแถบ โดยเรื่องนี้มีปัจจัยมาจากหลายสิ่ง เช่นจากตัวผู้กำกับ และ พื้นฐานตัวละครครับ เช่น Batman ที่สร้างมาหลายภาคและกลุ่มเป้าหมายก็ไม่ใช่เด็กสักเท่าไหร่ พอมาสร้างใหม่ เด็กส่วนใหญ่จึงยังจำภาพเดิมๆได้อยู่รวมถึงนักแสดงที่ดันเล่นเอาที่เกือบจะเกษียณมาเล่นซะงั้น ซึ่งบางคนอาจจะไม่โดดเด่นเท่ากับ นักแสดงของทาง Marvel ที่ใส่ใจในรายละเอียดของตัวละครทุกตัว ขนาดว่าพนักงานในร้านยังดูมีเสน่ห์เลย

1. Easter Egg

ภาพจาก YouTube:HuckleberryNimbus

ถามว่า “Easter Egg” คืออะไร มันคือสปอยที่ใส่ไว้ในหนังแต่ละเรื่อง ซึ่ง ทาง Marvel เขายัด Easter Egg ใส่ไว้แทบทุกเรื่อง โดยจะช่วยเชื่อมหนังเรื่องนี้ไปถึงเรื่องต่อไป ซึ่งทำให้คนดูอยากติดตาม แถมยังมี End Credit ที่เป็นสไตล์ และลายเซ็นของ Marvel ไปแล้วมาเสริมอีก

แต่ DC ก็ไม่น้อยหน้า มี Easter Egg ใส่มาเหมือนกัน แถมใส่มาในหนังเลย ใส่มาแบบงงๆ แล้วต้องมาลุ้นอีกว่าจะไปโผล่ในไหน เรื่องอะไร เพราะไม่บอก ไม่กล่าวกันเลย เรียกได้ว่า “อินดี้มากกก” แถม DC ยังตัด Easter Egg บางตัวออกจากหนังเวอร์ชั่นที่ฉายในโรงด้วย แล้วเอามายัดใส่แผ่น Blue Ray แผ่นละ 1000-2000 บาท และบอกว่าเป็น “Extended Cut” แทน

แม่เจ้า! เสียตังเป็นพัน เพื่อดูเพิ่มอีก 30 นาที! การตลาดดีเวอร์ แต่ใครเป็นแฟน DC ก็ทำใจช่วยอุดหนุนแผ่น Blue Ray กันหน่อยนะครับ!

สรุปแล้ว ทาง DC ที่มีกระแสติดลบ และคะแนนไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะว่ายังตีโจทก์ไม่แตก และไม่เพียงพอเท่าที่ Marvel ทำ รวมถึงระยะเวลาที่ทำออกมาช้ากว่าคู่แข่งซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าทาง DC จะมี “พระเอกขี่ม้าขาว” ทำหนังมาเบียดสู้กับ Marvel ได้มั้ย แต่ทาง Tonkit360 ก็ยังเอาใจช่วยอยู่นะ เพราะลึกๆ แล้วก็เป็นแฟนคลับ DC แหละ แต่ที่พิมพ์ไปทั้งหมดนี่ เพราะรัก DC นะ ถึงบอก! สุดท้ายนี้ ถ้าใครรัก DC แต่ไม่ชอบในตัวหนัง ก็ลองไปดูซีรีส์ของ DC อย่าง The Flash และ Gotham กันได้ รับรองว่าถูกใจแน่นอน ฝากไว้เท่านี้ แล้วเจอกันใหม่ครับ