ในยุคที่ Esports ถูกยกระดับเป็น “กีฬา” วงการ Esports ไทยต้องเผชิญกับรอยด่างพร้อยครั้งใหญ่ จากกรณีนักกีฬาหญิงรายหนึ่ง “โกง” ในกีฬาซีเกมส์ที่เราเป็นเจ้าภาพ นั่นทำให้เราได้รู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีในการแข่งขัน หรือตัดสินด้วยฝีมือของมนุษย์ ถ้านักกีฬาตั้งใจจะโกง ก็ทำกันได้ทั้งนั้นครับ
พื้นที่คอลัมน์รถเราไม่เก่าเลยสัปดาห์นี้ ผมเลยขอย้อนกลับไปถึงเคสการโกงที่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขัน Esports แบบ Sim Racing ในอดีตมาเล่าสู่กันฟัง ที่สำคัญเป็นการกระทำโดยนักขับอาชีพในศึก Formula E เสียด้วย ซึ่งผลที่ตามมาจากการโกงในเกม ส่งผลให้นักขับคนนั้นตกงาน สูญเสียอาชีพที่เขารักในชั่วข้ามคืน
ย้อนไปในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดหนัก การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ไม่สามารถลงสนามแข่งขันได้ ผู้จัดรายการ Formula E จึงจัดทัวร์นาเมนต์ Race at Home Challenge ให้นักขับอาชีพที่แต่ละคนอยู่ที่บ้านมาลงแข่งขันในรูปแบบซิมูเลเตอร์ เพื่อเป็นการซ้อมมือในยามที่ออกไปแข่งไม่ได้
ทว่า Daniel Abt นักแข่งรถอาชีพอานาคตไกลจากทีม Audi Sport Formula E ตัดสินใจใช้ทางลัด เขาจ้าง Lorenz Hoerzing นักแข่ง Sim Racer มืออาชีพ มานั่งขับแทนเขาในการแข่งขัน โดยพยายามอำพรางตัวตนผ่านเว็บแคมด้วยการปิดกล้อง แทนที่จะเปิดกล้องเห็นหน้าเห็นตาเหมือนครั้งก่อน ๆ
ซึ่งผลลัพธ์ที่ผิดปกติ คือ Abt ที่สนามก่อนหน้าเขาทำผลงานได้ไม่ดี ในสนามดังกล่าวกลับเข้าเส้นชัยอันดับที่ 3 ได้อย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้คู่แข่งอย่าง Stoffel Vandoorne และ Jean-Eric Vergne เกิดความสงสัยทันที และนำไปสู่การตรวจสอบผ่าน IP Address ที่ยืนยันว่า Abt ไม่ได้อยู่หลังพวงมาลัย!
แม้จะเป็นเพียงรายการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อคั่นเวลาในช่วง COVID-19 แต่ผลลัพธ์และบทลงโทษในฐานะนักขับอาชีพถือว่าเด็ดขาดพอสมควรครับ Abt ถูกปรับเงิน €10,000 (1 หมื่นยูโร) หรือราว 3.6 แสนบาท และถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทั้งหมด แต่ที่หนักหน่วงที่สุดคือ Audi Sport ได้ประกาศ ยกเลิกสัญญากับ Abt ทันที
โดยทีมแข่งสัญชาติเยอรมันให้เหตุผลว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดหลักการ “ความซื่อสัตย์และความโปร่งใส” ซึ่งเป็นค่านิยมสูงสุดขององค์กร ซึ่งบทเรียนของ Abt คือการตอกย้ำว่า เมื่อ Esports ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร การโกงในเกมจึงไม่ใช่แค่เรื่องตลกหรือเรื่องเล่น ๆ อีกต่อไป
นอกจากนี้ในฝั่งของ NASCAR ก็ยังเคยมีกรณีของ Bubba Wallace ที่เคยแสดงพฤติกรรมไม่เป็นมืออาชีพด้วยการ กดออกจากเกมกลางคัน! ขณะถ่ายทอดสด ซึ่งผลที่ตามมาก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นกัน เพราะแม้จะไม่หมดอนาคตในอาชีพนักขับ แต่ Bubba ก็สูญเสียสปอนเซอร์ Blue-Emu ในทันที
สุดท้าย ต้องบอกว่ากีฬาทุกประเภทที่ตัดสินด้วยผลแพ้ชนะ หรือใช้สายตากรรมการให้คะแนน “ความซื่อสัตย์” คือหลักสากลที่ไม่สามารถต่อรองได้ครับ ขณะที่ตัวนักกีฬาก็ต้องยอมรับในผลการกระทำของตัวเอง เพราะทุกวันนี้ Esports ได้ก้าวผ่านจุดที่เป็นเพียง “เกม” ไปสู่การเป็น “อาชีพ” เต็มตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว