“ซูบารุ” กลับสู่เวอร์ชัน เมด อิน เจแเปน

สมัยเด็ก ๆ ผมสงสัยมาตลอดว่ารถยนต์โลโกดาวลูกไก่ “ซูบารุ” ซึ่งเป็นรถญี่ปุ่นเหมือนกับโตโยต้าหรือฮอนด้า แต่ทำไม “ราคา” ถึงแพงกว่าชาวบ้านเขาตลอด จนมารู้ในเวลาต่อมาว่าที่แพงกว่ารถญี่ปุ่นค่ายอื่น ๆ ก็เพราะเป็นรถที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น จวบจนตลาดราคาของซูบารุเปลี่ยนไปสมัยที่มีการเปิดตัว XV ที่ถือว่าราคาจับต้องได้ในบ้านเรา

แต่อย่างที่เราทราบกันครับ ด้วยสงครามราคาจากค่ายรถจีน คือหนึ่งในเหตุผลที่ซูบารุต้องประกาศยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซียน และกลับไปนำเข้ารถยนต์ CBU (นำเข้าทั้งคัน) จากญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยโมเดลแรกที่ประเดิมโมเดลนำเข้ามาบ้านเรา คือ All NEW Subaru Forester เคาะราคาออกมา 2.59 ล้านบาท!

แว่บแรกที่ผมได้เห็นข่าวนี้ เชื่อว่าไม่ต่างจากท่านผู้อ่านหลาย ๆ คนครับ ว่าทำไมราคาแรงขนาดนี้ เพราะเมื่อปีที่แล้ว ผมยังจำได้ว่ายังมีโอกาสได้ทดสอบ Forester i-L EyeSight 4.0 ที่โปรโมชันในช่วงหนึ่ง ราคารุ่นเริ่มต้นลงมาอยู่ที่ 1.17 ล้านบาทเท่านั้นเอง พอมาเป็นโฉมใหม่ (นำเข้า CBU ญี่ปุ่น) ราคาถึงโดดขึ้นมากว่าเท่าตัวเลยทีเดียว

นั่นเท่ากับว่า ซูบารุ ในเมืองไทยยังไม่หายไปไหน แม้จะปิดโรงงาน แต่ตัวแทนจำหน่ายยังคงทำตลาดในไทยต่อไป ไม่ได้ถอนตัวจากประเทศไทย ศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ ยังคงเปิดให้บริการและดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันบริการหลังการขายและการรับประกันตัวรถต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดเท่านั้น

งานนี้พอได้เห็นราคาเปิดตัว Forester ใหม่ ผมแอบนึกในใจทันทีว่า “2.59 ล้าน นี่มันราคาไปเทียบรถยุโรปรุ่นเริ่มต้นเลยนะเนี่ย” อย่างไรก็ดี หากมองกันให้ดี นี่คือแนวทางที่ซูบารุเคยทำอยู่แล้วในเมืองไทยตั้งแต่ยุคอดีต คือการขายคุณภาพของรถที่เป็นสเปกจากโรงงานประเทศญี่ปุ่นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีตัดออปชันเป็นสเปกรถผลิตเมืองไทย

All NEW Subaru Forester 2.5 i-S EyeSight (SL) เป็นรถ SUV เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร BOXER 185 แรงม้า ขับเคลื่อนสีล้อ AWD แบบฟูลไทม์ พร้อมระบบความปลอดภัย EyeSight 4.0 จัดเต็มระบบความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทว่าด้วยความที่เป็นรถนำเข้าทั้งคัน ก็ทำให้ราคารวมภาษีต่าง ๆ แล้วเป็นอย่างที่เห็นครับ

ซึ่งราคา 2 ล้านกลาง ๆ ในตลาดบ้านเรา ก็มีทั้ง BMW X1, X2 มี Audi Q3, มี Volvo XC40, XC60 มีรถไฟฟ้าค่าย Tesla อย่าง Model Y และมีรถไฟฟ้าค่ายจีนรุ่นพรีเมียมอีกหลายยี่ห้อ ยังมี MPV เกาหลีใต้อย่าง KIA Carnival HEV แต่เชื่อว่าซูบารุเลือกแล้ว ว่าจะขายคุณภาพความเป็น Japan Quality ให้กับแฟนประจำอีกครั้งในบ้านเรา

หากเทียบเฉพาะราคากับยี่ห้อ ดูผิวเผินก็อาจทำให้หลายคนคิดเหมือนผมในแว่บแรกครับว่า “นี่มันราคาระดับรถยุโรปเลยนะ” แต่หากลงลึกในรายละเอียด เซ็กเมนต์ ขนาด สมรรถนะ และมิติของตัวรถแล้ว ก็ต้องบอกว่าหากเป็นรถยุโรปที่ระดับเทียบเท่า Forester อาทิ BMW X3 ราคาทะลุไปมากกว่านี้เกิน 1 ล้านบาทแน่ ๆ ครับ

ฉะนั้น นี่คือการกลับมาวางกลยุทธ์ให้เป็น “พรีเมียม เพอร์ฟอร์มานซ์” สำหรับคนหลงใหลในเสน่ห์ของรถยนต์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD (แบบฟูลไทม์) ซึ่งมีไม่มียี่ห้อในเมืองไทย หรือจะเป็นฟิลลิ่งการขับเครื่องยนต์สูบนอน อย่าง Forester ที่แม้จะเป็นรถ C-SUV ยกสูง แต่ตำแหน่งวางเครื่องอยู่ต่ำ ทำให้รู้สึกได้ถึงความมั่นใจในโค้งช่วงความเร็วสูง

สุดท้ายอยากจะบอกว่ามีหลายอย่างในบ้านเราที่ “คนซื้อไม่ได้บ่น คนบ่นไม่ได้ซื้อ” อย่างในเคสนี้ก็เช่นกันครับ “ซูบารุ” ชัดเจนกับตลาดในบ้านเรา ที่จะไม่ได้มาเป็นคู่แข่งกับรถตลาดทั่วไปอีกต่อไป และกลุ่มลูกค้าของพวกเขา คือคนที่เชื่อมั่นใน Japan Quality นั่นเองครับ