ข่าวลือ “สมเกียรติ” และข่าวจริง F1

“การได้ลงแข่งในคลาสสูงสุดของโมโตจีพี ไม่มีอะไรง่าย” เป็นส่วนหนึ่งที่ สมเกียรติ จันทรา พูดไว้ในภาพยนตร์โฆษณาน้ำมันเครื่องอิเดมิตสึ IRG7 หลังนักบิดรหัส SC35 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดไทยคนแรกที่ได้ลงแข่งในรุ่นพรีเมียร์คลาส ซึ่งหลังผ่านครึ่งทางของโมโตจีพี 2025 ก็เริ่มมีกระแสข่าวลือต่าง ๆ ถึงนักบิดขวัญใจชาวไทยมากขึ้น

หนึ่งในข่าวลือที่กลายเป็นข่าวใหญ่ในบ้านเราในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คือข่าวที่เป็นรายงานและคาดการณ์ที่นำเสนอทางเว็บไซต์ www.motosprint.it ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวรถแข่ง 2 ล้อของอิตาลี ที่บอกว่า HRC กำลังเตรียมขยับ “ก้อง-สมเกียรติ” จากโมโตจีพี ไป เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ (WSBK) ในปี 2026 และประเทศไทยก็อาจกลับมาจัดแข่งรายการนี้อีกครั้งในอนาคต

ส่วนข่าวจริงที่ยืนยันชัดเจนแบบมีที่มาที่ไป คือการให้ข้อมูลของ ลูซิโอ เชคคิเนลโล เจ้าของทีม LCR Honda ที่ไม่ยืนยันอนาคตของสมเกียรติในปี 2026 และบอกว่าเป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันในช่วงการแข่งขัน ซูซูกะ 8 ชั่วโมง ที่ญี่ปุ่นในต้นเดือนสิงหาคมนี้ และบอกว่าจะต้องขึ้นอยู่กับ HRC และสปอนเซอร์หลักอย่างอิเดมิตสึ

ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าการขึ้นมาสู่โมโตจีพีของสมเกียรติ เป็นการขยับขึ้นมาตามเส้นทางของความร่วมมือระหว่าง HRC กับอิเดมิตสึ ที่ต้องการให้มีพื้นที่ของนักบิดเอเชียอยู่ในโมโตจีพี ซึ่งเจ้าของโควตานี้คนเดิมก็คือ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่น ที่ได้รับโอกาสในโมโตจีพีแบบเต็มซีซันมาตั้งแต่ปี 2018 มาจนถึง 2024 ก่อนจะมาถึงสมเกียรติของเรา

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2024 ผมยังหวั่นใจว่า หากหมดเวลาของ นาคากามิ โควตาจะต้องตกไปอยู่กับ ไอ โอกุระ อดีตเพื่อนร่วมทีมโมโตทูของก้องใน อิเดมิตสี ฮอนด้า ทีม เอเชีย แต่เมื่อมีการยืนยันว่าไอ จะย้ายขึ้นโมโตจีพีเพื่อไปขี่รถค่ายอาพริเลีย นั่นทำให้โควตาตรงนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากนักบิดจากชลบุรี ที่พิสูจน์ฝีมือมาแล้วในโมโตทู

แน่นอนครับว่าหากดูจากผลงานของก้องในโมโตจีพี 2025 ที่ผ่านมาแล้วครึ่งทาง ภายใต้รถแข่ง RC213V ที่ไม่รู้เวอร์ชันไหนบ้าง ก้องปลดล็อกเก็บแต้มแรกได้แล้วก็จริง แต่ดันมีอุปสรรคอาการบาดเจ็บเข้ามาถึง 2 ครั้ง ซึ่งผมเชื่อว่ามี 2 สนามในช่วงที่ก้องไม่ได้ลงแข่ง ทั้งที่ฝรั่งเศสและเยอรมนี ถ้าก้องมีโอกาสได้แข่ง เขาก็น่าจะเก็บแต้มได้

ด้วยความโหดของรถแข่งรุ่นนี้ที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และโหดเพิ่มขึ้นด้วยความที่เป็นรถแข่งที่สมรรถนะไม่ได้อยู่หัวแถวในชั่วโมงนี้ บวกกับประสบการณ์ปีแรก และยิ่งโดนซ้ำด้วยการบาดเจ็บ นั่นยิ่งทำให้ความยากในการที่จะทำให้ผลงานติดท็อป 15 มีอุปสรรคเพิ่มขึ้นไปอีก จนมี “ข่าวลือ” ในทำนองที่ว่า WSBK อาจจะเป็นเส้นทางต่อไปในปี 2026

งานนี้ไม่รู้ว่าสายข่าวจากเว็บไซต์อิตาลีมีแหล่งข่าวใกล้ชิดในเมืองไทยหรือไม่ เพราะจากแนวโน้มที่รัฐบาลไทยอาจไม่ต่อสัญญาจัดโมโตจีพีหลังจบปี 2026 ก็ทำให้มีความเป็นไปได้เช่นกันที่สนามช้างฯ อาจหวนกลับไปจัดการแข่งขัน WSBK อีกครั้ง หลังเคยทำหน้าที่มาแล้วในช่วงปี 2015 ถึง 2019

ซึ่งก็สามารถโยงกับ “ข่าวจริง” อีกหนึ่งข่าวได้ นั่นก็คือการที่รัฐบาลไทยพร้อมเดินหน้าเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอฟวัน ซึ่งล่าสุดมีการเรียกประชุมกันจริงจัง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ภายใต้เป้าหมายจัดเอฟวันให้ได้ในปี 2028

แล้วหากรัฐบาลไทยไปเอาจริงเอฟวัน ภาคเอกชนฝั่งสนามช้างฯ บุรีรัมย์ ก็คงคาดว่าโมโตจีพีไม่ได้ไปต่อ อาจมีการดีลกับค่ายรถจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ค่ายให้หันกลับมาเดินหน้าส่งทีมแข่งโปรดักชันไบค์ระดับโลก รวมถึงถ้ามีนักบิดระดับ “สมเกียรติ” ลงแข่งโฮมเรซ ก็น่าจะทำให้ WSBK ที่ใช้ทุนจัดน้อยกว่าโมโตจีพี เดินหน้าไปได้เช่นกัน

งานนี้ในฐานะแฟนมอเตอร์สปอร์ตไทย ยังหวังว่า “ข่าวลือ” จะไม่เป็นจริง ยังอยากให้ “ก้อง” ได้โอกาสต่อในโมโตจีพีอย่างน้อยก็อีกสัก 1 ปี ส่วน “ข่าวจริง” ที่ไทยเตรียมเสนอตัวจัดเอฟวัน ก็ไม่รู้ว่าถึงเวลาแล้วจะล่มแบบคราวที่แล้วอีกหรือไม่ คงต้องติดตามกันครับ