เผลอแป๊บเดียว การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย ที่เริ่มต้นมาพร้อมกับสนามแข่ง BRIC (ช้างฯ เซอร์กิต) ก็เดินทางมาถึงปีที่ 11 แล้ว ปีนี้ใช้ชื่อการแข่งขันตามสปอนเซอร์ใหม่ว่า “เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2025”
ผมเองยังจำวันแรกที่สนามแข่งบุรีรัมย์เปิดตัวการแข่งขันรายการนี้ในชื่อรายการแบบที่ยังไม่มีไตเติลสปอนเซอร์ว่า BRIC Superbike ก่อนที่จะมีการเดินทางอันยาวนานกว่า 10 ปี มี OR เข้ามาเป็นไตเติลสปอนเซอร์ ต่อด้วย PlanB เมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะลงเอยกับผ้าเบรกแบรนด์ดังในปีนี้
โดยฤดูกาล 2025 ที่เปิดฉากสนามแรกกันไปแล้วเมื่อสุดสุปดาห์ที่ผ่านมา มีการแข่งขันแข่งขันทั้งสิ้น 6 คลาสหลัก เริ่มจาก Super Bike 1000cc., Super Stock 1000cc., Super Sport 600cc., Sport Production 400cc. และฤดูกาลนี้ได้มีการเพิ่มคลาสพิเศษ Super Sport 250cc. เป็นครั้งแรก
ยังไม่รวมอีก 3 รายการซัปพอร์ตเรซจากยามาฮ่าและฮอนด้าที่รวมอยู่ในอีเวนต์นี้ด้วย ทั้ง Yamaha Moto Challenge และ Yamaha R7 Cup จากค่ายส้อมเสียง และรายการปั้นนักบิดดาวรุ่ง Idemitsu Honda Thailand Talent Cup จากค่ายปีกนก
ที่น่าสนใจคือ ในแต่ละคลาสก็จะแบ่งเป็นคลาสย่อย ให้นักแข่งได้เลือกลงแข่งขันในคลาสที่เหมาะสมมากที่สุด อาทิ รุ่น Super Bike 1000cc. ก็จะมีรุ่น SB1 Pro เป็นคลาสย่อยสำหรับนักบิดที่เคยผ่านการแข่งขันระดับทวีปขึ้นไป (เอเชีย โรด เรซซิ่ง) สามารถมาร่วมแข่งขันได้
ซึ่งรุ่นใหญ่ SB1 Pro ปีนี้ ต้องบอกว่าคึกคักกว่ากว่าปีก่อน ๆ เพราะมีทั้งมือเก๋าและมือดาวรุ่งลงดวลกันอย่างสนุกสนาน นำโดยพี่ใหญอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี จาก โปร ฮอนด้า บริดจสโตน อันเดรียนี เบนดิกซ์ เอเอ็น เรซซิ่ง ยังมี “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก ไบค์ สตอรี พีทีที ลูบริแคนท์ส ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม
รวมไปถึงนักบิดดาวรุ่งจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส อย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และที่เซอร์ไพรส์สุด ๆ คือการตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันในนาทีสุดท้ายของ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดแชมป์เอเชียคนล่าสุด ที่ คัมแบ็กกลับมาขี่ฮอนด้าอีกครั้งกับ อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม
ซึ่งผลการแข่งขันในสนามแรกบอกเลยว่า “ฟ้าฝน” คือตัวแปรสำคัญอย่างแท้จริง เพราะวันเสาร์ในช่วงควอลิฟาย เป็นการจับเวลาในช่วงที่แทร็กแห้งสนิท ทว่าวันอาทิตย์ฝนตก! โดยตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว ขนาบข้างด้วยจอมเก๋าอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี
ก่อนที่สุดท้าย “ความเก๋า” จะเอาชนะ “ความสด” ไปได้ก่อนในยกแรก โดยเกมเรซนี้เริ่มต้นด้วยแทร็กเปียกก่อนจะค่อย ๆ แห้งในเวลาต่อมา และจากประสบการณ์ส่งผลให้ “ซุป” อนุชา บิดคว้าชัยชนะไปครอง ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ ถึง 26.701 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท ตามหลัง 32.346 วินาที
งานนี้แม้ทีมแข่งโรงงานทั้งฮอนด้าและยามาฮ่า จะไม่ส่งทีมแข่งแบบเต็มตัว เพราะทั้งหมดต่างมุ่งเป้าไปที่การแข่งขันระดับเอเชีย แต่หากมองลงไปในนักแข่งและทีมเซอร์วิส ทั้ง 2 ค่ายก็ถือว่ามีส่วนร่วมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะค่ายปีกนกที่ส่ง 2 นักบิดทีมโรงงานมาเก็บชั่วโมงบิดกับทีมคริสมาส
สุดท้ายใครจะเป็นแชมป์ปีนี้ คงต้องตามลุ้นกันในอีก 3 สนาม 4 เรซ ต่อจากนี้ โดยสนามต่อไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคมนีัครับ