สวัสดีวันจันทร์แรกของปี 2568 ค่ะ เป็นจันทร์แรกที่ทุกคนเข้าสู่เส้นทางชีวิตปกติของตนเองกันแล้ว หลังจากพักผ่อนกันมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ที่เปรียบเสมือนวงรอบของการรีเซตตัวเอง
ปีนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มต้นปีด้วยข่าวคาดการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีอะไรดีขึ้น แถมทิศทางยังเป็นเศรษฐกิจแบบตัว K (K-shaped economy) อันเป็นรูปแบบของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในลักษณะไม่เท่าเทียมกัน โดยบางกลุ่มหรือบางภาคส่วนมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง ในขณะที่หลายกลุ่มหรือภาคส่วนอื่นยังคงประสบปัญหาและอาจถดถอยลงไปอีก
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มที่ฟื้น หรือเป็นเส้นขาขึ้นของตัว K คืออุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง เช่น เทคโนโลยี การเงิน การแพทย์ออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ ผู้ที่มีทักษะสูงและสามารถทำงานแบบไฮบริดได้ รวมทั้งบริษัทหรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปรับตัวได้เร็ว
ส่วนธุรกิจที่ถดถอย หรือเป็นเส้นขาลงของตัว K คือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการโรงแรม การบิน หรือธุรกิจขนาดเล็ก อันมาจากสถานการณ์ของเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะถดถอยและหนี้ครัวเรือนสูง จนทำให้ธนาคารมีกฎเข้มงวดในการปล่อยเงินกู้ และผู้คนไม่ค่อยกล้าที่จะใช้เงิน ขณะเดียวกัน กลุ่มแรงงานที่ไม่ได้พัฒนาทักษะใหม่ ยังมีโอกาสว่างงานอย่างต่อเนื่อง
ดูเหมือนฤดูมรสุมยังคงยาวนานต่อไปค่ะ เวลานี้หนทางที่ดีที่สุดคือทำเฉพาะในหน้าตักที่มีให้ดีที่สุดค่ะ เหมือนกับเรื่องเล่าของชาวประมง เมื่อพวกเขาไม่สามารถออกหาปลาได้ สิ่งที่ทำได้คือซ่อมตาข่ายดักปลาให้สมบูรณ์พร้อมที่สุด
“เมื่อทะเลเต็มไปด้วยคลื่นลมและมรสุมยากที่จะออกเรือไปหาปลา ชาวประมงที่อยู่กับท้องทะเลมาอย่างยาวนานรู้ดีว่าพวกเขาไม่อาจนั่งเฉยเพื่อรอให้ท้องฟ้าสดใสได้ พวกเขาเริ่มซ่อมตาข่ายดักปลา ดูแลลับเครื่องมือทำมาหากินให้คมวาว และรอเวลาให้พายุสงบอย่างใจจดใจจ่อ เปรียบไปก็เหมือนช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค แม้ว่าทุกสิ่งรอบข้างจะหยุดนิ่ง เศรษฐกิจไม่เป็นใจ แต่เราสามารถลับคมหอกคมดาบทางความรู้ของตนเองให้พร้อมที่จะสู้ต่อ เมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง เหมือนกับการเตรียมตัวให้พร้อมและลงมือทำได้ทันทีเมื่อโอกาสมาถึง”
เรื่องเล่าของชาวประมง สามารถนำมาใช้ในช่วงเวลานี้ค่ะ เมื่อสภาพเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยมรสุม การรักษาสิ่งที่มีอยู่และเพิ่มเติมความรู้ให้กับตนเองเพื่อให้พร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
ท้ายที่สุด ต่อให้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เราต่างต้องใช้ชีวิตกันต่อไปค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นขอให้มองว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง” ไม่ต้องอินมาก แต่ขอให้รับรู้และตั้งอยู่ในสติ แล้วคุณจะเป็นผู้รอดจากทุกมรสุมที่เกิดขึ้น
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ