ภาพของ “ก้อง-สมเกียรติ จันทรา” ลงเทสต์รถแข่งโมโตจีพีที่สนามคาตาลุนญา ถือเป็นภาพที่แฟนกีฬาชาวไทยรอคอย โดยเฉพาะแฟนมอเตอร์สปอร์ตที่ได้เห็นนักบิดไทยบิดรถโมโตจีพีเป็นครั้งแรก ขณะที่อีกซีกโลก แฟนความเร็วชาวไทยกำลังจะมีโอกาสได้ลุ้นนักบิดไทยผงาดคว้าชัยศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์เอเชียในช่วงเดือนธันวาคมนี้
ศึกสองล้อชิงแชมป์แห่งเอเชียรายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 หรือ ARRC เตรียมระเบิดความมันสนามสุดท้าย ชิงดำตำแหน่งแชมป์ประจำฤดูกาลในทุกรุ่น “แสตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” จากค่ายยามาฮ่า นำทัพนักบิดไทยลงชิงชัย ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ถือเป็นงานใหญ่ส่งท้ายปี ก่อนรองรับศึกโมโตจีพีในฤดูกาลหน้า
พูดถึงนักบิดไทยกับแชมป์บิดเอเชีย หากย้อนไปก็คงต้องยกให้กับค่ายยามาฮ่า ที่ผลงานในรายการนี้โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุค 2000 ของ พี่ตั้น เดชา ไกรศาสตร์ และพี่เบียร์ เฉลิมพล ผลไม้ มาจนถึงล่าสุด โฟลท รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ในปี 2018 ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นการคว้าแชมป์เอเชียในรุ่น 600 ซีซี มาจนถึงปีนี้ 2024 แสตมป์ อภิวัฒน์ มีคะแนนสะสมนำคู่แข่ง 14 แต้ม ก่อนถึงสนามสุดท้าย
สนามสุดท้ายจะมีการแข่งขันอีก 2 เรซ และมีคะแนนเต็ม 50 แต้ม แต่ด้วยความที่เป็นสนามโฮมเรซ บวกกับประสบการณ์ระดับเวิลด์ซูเปอร์สปอร์ต ผมเชื่อว่า อภิวัฒน์ นักบิดสังกัด ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ซึ่งเป็นทีมที่มีความร่วมมือกับ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รู้ดีว่าจะวางแผนอย่างไรในการขี่ 2 เรซส่งท้าย เพื่อตำแหน่งแชมป์เอเชีย
หากใครได้ติดตามผลงานของดาวบิดเจ้าของฉายา “ฉลามร้ายชลบุรี” มาโดยตลอด จะรู้ดีว่าการขี่แบบประคองเพื่อเข้าเส้นชัยไม่น่าใช่สไตล์ที่แสตมป์ถนัดนัก เหมือนกับฟุตบอล ที่ต้องการแค่ผลเสมอก็เข้ารอบ เห็นมาเยอะแล้วว่าเล่นจริง ๆ ไม่ง่าย ฉะนั้น แผนของแสตมป์ในสนามนี้จากที่ผมได้พูดคุยมา เขาบอกเลยว่าจะขี่เพื่อชัยชนะทั้ง 2 เรซ
ในรุ่น 600 ซีซี นักบิดยามาฮ่าจากประเทศไทย มีทั้งสิ้น 155 คะแนน เหนือคู่แข่งในอันดับ 2 อย่างโมฮัมหมัด อะเดนันตา พูตร้า นักบิดอินโดนีเซีย 14 คะแนน ส่วน อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ นักแข่งมาเลเซียรั้งอันดับ 3 ตามหลัง 33 คะแนน หากมองในทางทฤษฏีทุกอย่างยังเป็นไปได้ แต่หากดูสถิติผลงานของแสตมป์ที่สนามบุรีรัมย์ เขาชนะที่นี่มาแล้วทั้ง 2 เรซ เมื่อช่วงต้นฤดูกาล
ที่สำคัญในสนามนี้ แสตมป์จะได้ทีมเมทดีกรีอดีตแชมป์เอเชียอย่าง โฟลท รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จากยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คัมแบ็กกลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังบาดเจ็บยาวมาทั้งฤดูกาล นั่นเท่ากับว่าจากที่ขี่แบบโดดเดี่ยว โดนคู่แข่งต่างชาติรุมมาโดยตลอด สนามนี้ โฟลทอาจเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการมีส่วนช่วยเพื่อนคว้าแชมป์เอเชีย 2024 ก็เป็นได้ครับ
ส่วนไฮไลต์ในรุ่นใหญ่ 1,000 ซีซี ก็น่าจับตามองเช่นกันครับ เพราะเรากำลังจะมีนักบิดจาก ARRC ก้าวสู่การแข่งขัน Moto2 ในฤดูกาลหน้า เมื่อยูกิ คูนิ นักบิดชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะเข้าไปเป็นตัวแทนของสมเกียรติ จันทรา ในฤดูกาลหน้า กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ กับ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์ นักบิดอินโดนีเซีย โดยมีระยะห่างเพียง 2 คะแนนเท่านั้นก่อนการแข่งขันที่บุรีรัมย์
งานนี้เชื่อว่าศึกเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้ายที่บุรีรัมย์ จะเป็นอีเวนต์ที่แฟนความเร็ว 2 ล้อให้ความสนใจไม่น้อยครับ โดยเฉพาะการลุ้นผลงานของ “แสตมป์” อภิวัฒน์ ให้กระชากโทรฟี่แชมป์เอเชียกลับสู่เมืองไทยอีกครั้งในรอบ 6 ปี แล้วไปเจอกันครับ 6-8 ธันวาคมนี้ ที่บุรีรัมย์