แม้ว่าการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบคัดเลือก โซนเอเชียรอบสุดท้าย สายบีที่ผ่านมา ทีมชาติไทยต้องขาดมือตบคนสำคัญอย่าง “น้องอร” อรอุมา สิทธิรักษ์ ไป แต่ทีมวอลเลย์บอลสาวไทยก็ยังคว้าตั๋วไปแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 20 ตุลาคมปีหน้าได้สำเร็จ
นอกจากการผนึกกำลังของผู้เล่นตัวเก๋ามากประสบการณ์ที่เหลือในทีมแล้ว หนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมไทยคว้าอันดับ 2 ของสายบี และคว้าสิทธิ์ไปแข่งรอบสุดท้าย ที่ญี่ปุ่นได้ คือ “น้องเพียว” อัจฉราพร คงยศ ที่มีความโดดเด่นและเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ทั้งตัวตบหัวเสา บอลหลัก บอลสั้น บอลโค้ง และบอลเร็ว อีกทั้งมีลูกเสิร์ฟที่ไม่ธรรมดา ถึงขั้นได้ตำแหน่ง “เสิร์ฟยอดเยี่ยม” ในศึกวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2016 มาแล้ว
ด้วยอายุเพียง 22 ปี และส่วนสูง 180 เซนติเมตร ทำให้น้องเพียวมีพลังตบที่หนักหน่วง และทำแต้มให้กับทีมได้แทบทุกครั้งที่ขึ้นกระโดดตบ จนกลายเป็นที่มาของฉายา “ตบสนั่นลั่นทุ่ง” ที่รุ่นพี่ในทีมพร้อมใจกันตั้งให้
น้องเพียว เป็นสาวใต้นัยน์ตาคมจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนชุมชนวัดปัณณาราม ก่อนจะเข้ามาศึกษาต่อในระดับมัธยมที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงหเสนี) ด้วยการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียน และก้าวมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน
ฝีมือของเพียว อัจฉราพร ถือว่าครบเครื่องและโดดเด่นจนไปเข้าตาสโมสรในลีกยุโรปหลายทีม แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจเล่นให้สโมสรสุพรีม ชลบุรี-อี.เทค แชมป์เก่าวอลเลย์บอลไทยเเลนด์ลีกต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ฤดูกาล แม้ว่าต้นสังกัดจะเปิดไฟเขียวให้ก็ตาม
ทั้งนี้ เป็นเพราะเจ้าตัวต้องการให้สภาพร่างกายสมบูรณ์เต็มที่กว่านี้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมายังมีอาการเจ็บรบกวนอยู่ จึงได้รับคำแนะนำว่าควรรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน หลังจากได้ปรึกษากับทีมแพทย์ รวมถึงทีมงานผู้ฝึกสอน รุ่นพี่ในทีม และครอบครัวแล้ว
น้องเพียวยอมรับว่า การปฏิเสธข้อเสนอที่เข้ามาจากสโมสรต่างประเทศเป็นการตัดสินใจที่ลำบากมาก เพราะถือเป็นความฝันของตัวเอง แต่เรื่องสภาพร่างกายก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะหากไปเล่นต่างประเทศในสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แล้วเจอเกมที่หนักในลีกยุโรป ก็อาจได้รับบาดเจ็บเพิ่ม และอาจส่งผลให้ไม่สามารถกลับมาเล่นวอลเลย์บอลในระดับสูงได้อีก
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่ได้สานฝันไปสู่การเล่นในลีกต่างประเทศ แต่ศึกลูกยางไทยแลนด์ลีกในฤดูกาลหน้า เชื่อว่าจะมีสีสันให้ติดตามกันอย่างแน่นอน เพราะน้องเพียวจะได้ผนึกกำลังกับรุ่นพี่ร่วมทีมชาติอย่าง มลิกา กันทอง ด้วย หลังจากต้นสังกัดเซ็นสัญญาคว้าตัวมาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทุกวันนี้ เพียวอุทิศตัวเองให้กับกีฬาวอลเลย์บอลอย่างเต็มร้อย เพราะเป็นกีฬาที่ทำให้เธอมีทุกอย่างและประสบความสำเร็จอย่างวันนี้ แม้ต้องซ้อมและฝึกฝนอย่างหนักจนไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่นทั่วไปก็ตาม
แต่ถ้าใครได้เข้าไปดูในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ (@zalengnpure) จะเห็นว่าเพียวมีมุมที่สดใสและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ต่างจากวัยรุ่นคนอื่นๆ และเธอมักจะมีแฮชแทกประจำตัว #เพียวเพียวโคตรแฮปปี้ และ #purepureishappy ให้ได้เห็นกันอยู่เสมอ นอกเหนือไปจากชีวิตการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของสาววัย 22 ปีผู้นี้