ซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร/เสริมอาหาร ต้องระวัง หากพบ “คำห้ามใช้” ในโฆษณา

ว่ากันด้วยเรื่องของการทำธุรกิจ การโฆษณา เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้า และโน้มน้าวจิตใจให้เห็นคล้อยตาม ดังนั้น การเลือกใช้คำเพื่อใช้ในการโฆษณาจึงมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

แต่หลาย ๆ ครั้ง คำโฆษณาที่ถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ เป็นเพียงคำชักจูงหรือเชิญชวนเพื่อให้หลงเชื่อและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเท่านั้น แต่เมื่อลองใช้จริง ผลกลับไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณา คำโฆษณาในลักษณะนี้ เป็นการโฆษณาเกินจริง ที่มักพบในผลิตภัณฑ์อาหาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่พบว่ามีสัดส่วนของผู้บริโภคที่ตกเป็นเหยื่อค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

ในมุมของธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องระวังเรื่องการใช้คำโฆษณา ไม่ให้อวดอ้างสรรพคุณเกินความเป็นจริง ส่วนในมุมผู้บริโภคก็ควรต้องรู้ไว้เช่นกัน เพื่อนำไปพิจารณาว่าสินค้าที่กำลังจะซื้อนั้น เข้าข่ายโฆษณาเกินจริงไหม โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงทำคนหลงเชื่อ

ในเชิงจิตวิทยา คำอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงมีผลค่อนข้างมากต่อการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้เพราะหวังว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกนั้นจะช่วยแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ได้ เมื่อเจอโฆษณาที่อ้างว่าแก้ปัญหานั้นได้ ก็มีโอกาสที่จะหลงเชื่อโดยไม่ทันได้ใช้วิจารณญาณในการไตร่ตรอง ทั้งที่ความจริง ต้องพิจารณาให้ดีว่าข้อความเหล่านั้นเป็นเพียงคำโฆษณา และต้องมาพิจารณาซ้ำอีกครั้งว่า “เกินจริง” หรือไม่

ซึ่ง “การโฆษณาอาหาร” หมายถึง การกระทำด้วยวิธีการใด ๆ ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเกี่ยวกับอาหาร ส่วนประกอบของอาหาร เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ส่วน “ข้อความ” หมายความรวมถึง ข้อความ ข้อความเสียง เสียง ภาพ รูปภาพ รอยประดิษฐ์ เครื่องหมายสัญลักษณ์ หรือการกระทำอื่นใดที่เข้าใจได้

การใช้คำโฆษณาเกินจริงมีผลอย่างไรกับการตัดสินใจ ยกตัวอย่างที่ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม คำที่ใช้ในโฆษณาจะอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงไปมาก นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างมาตรฐานความงาม (Beauty Standard) ขึ้นมาในสังคม เพราะคำชวนเชื่อเหล่านั้นได้นิยามหรือจำกัดความความสวยของคนด้วยคำและภาพโฆษณา ใช้พรีเซ็นเตอร์ที่ไม่มีความหลากหลาย โดยมีโมเดลเดิม ๆ ที่ย้ำให้เห็นว่าความสวยที่ถูกต้อง ต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น

ยกตัวอย่างง่าย ๆ แค่คำว่า “ปกติ (normal)” แค่คำเดียวก็สร้างปัญหาได้ เพราะสำหรับผู้บริโภคแล้ว คำว่าปกติสามารถสร้างความรู้สึกในด้านลบมากกว่าทางบวก ทำให้รู้สึกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้กลายเป็นคน “ไม่ปกติ” ไป

คำว่า “ปกติ” ที่ถูกใช้เป็นคำโฆษณา แฝงความหมายว่า คนปกติต้องผิวขาว ต้องผิวเนียน คนปกติผมต้องผมตรง นุ่มลื่นเงางาม คำจำกัดความเหล่านี้ทำให้สิ่งที่ตรงกันข้ามกลายเป็นเรื่องผิดปกติ ทั้งที่ในความเป็นจริง ธรรมชาติไม่ได้นิยามว่าสีผิวปกติ สภาพผิวปกติ หรือสภาพผมปกติเป็นอย่างไร ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ หรือกรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ตามสภาพแวดล้อมของถิ่นที่อยู่อาศัยบนโลก ซึ่งเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติได้ด้วยอาหาร

และที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่าโฆษณาทุกตัวล้วนผ่านการตัดต่อ ตกแต่งรูป ก่อนปล่อยออกมา รวมถึงตัวพรีเซ็นเตอร์เองก็ยังใช้ระดับนักแสดง ดารา นางเอก พระเอก ซึ่งมีพื้นฐานหน้าตาและรูปร่างอยู่แล้ว และก่อนจะถ่ายแบบยังต้องมีการแต่งหน้าทำผม ดังนั้น ทั้งหมดนั่นเป็นเพียงภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น ไม่ใช่ภาพที่เป็นจริง

การใช้คำโฆษณาเกินจริง ทำให้ผู้บริโภคคาดหวังในการใช้ผลิตภัณฑ์ ว่าจะเปลี่ยนปัญหาของผู้บริโภคได้ ปัญหาที่ถูกแฝงว่าเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ

เข้มงวดจริงจังเพื่อผู้บริโภค ผู้บริโภคก็ต้องระวังตนเองด้วย

เนื่องจากทุกวันนี้ มีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกันเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เราจะเห็นว่าข้อความที่ใช้ในการโฆษณาผลิตภัณฑ์นั้นส่วนใหญ่จะโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคจำเป็นต้องมีแนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เช่นกัน เนื่องจากสรรพคุณของอาหารนั้น จะไม่สามารถอ้างว่ากินเพื่อรักษา ป้องกันโรค ลดน้ำหนัก หรือเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้

สำหรับการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย. เข้มงวดเรื่องการห้ามใช้คำและข้อความสำหรับใช้โฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งในฝั่งของผู้ประกอบการจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะถ้าใช้คำหรือข้อความที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง จะมีความผิดตามกฎหมาย อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้ากระทำผิดซ้ำอาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ อีกด้วย

ดังนั้น อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่กล่าวอ้างเกินจริง เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักลักลอบใส่ยาหรือสารที่เป็นอันตรายลงไป โดยเฉพาะการซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งตาม ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564 คำที่ไม่อนุญาตในการโฆษณาคุณภาพ คุณประโยชน์ หรือสรรพคุณของอาหาร เช่น

  • ศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ ปาฏิหาริย์ วิเศษ
  • เลิศที่สุด ดีเลิศ ชนะเลิศ ชั้นเลิศ เลิศเลอ ล้ำเลิศ เลิศล้ำ
  • ยอด ยอดเยี่ยม ยอดไปเลย เยี่ยมยอด เยี่ยมไปเลย สุดยอด
  • ที่หนึ่ง หนึ่งเดียว ที่หนึ่งเลย
  • ที่สุด ดีที่สุด ดีเด็ด สูงสุด
  • เด็ดขาด หายห่วง หายขาด หมดกังวล
  • สุดเหวี่ยง
  • ไม่มีผลข้างเคียง ไร้ผลข้างเคียง
  • อย. รับรอง ปลอดภัย
  • เห็นผลเร็ว

จะเห็นได้ ในประกาศพยายามจะใช้คำที่หลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมที่สุด เพื่อป้องกันคนหัวหมอนำมาอ้างแก้ตัวว่าไม่ได้ใช้คำนั้น แต่เป็นคำอื่น (ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน) โดยข้อความที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในการโฆษณาอาหาร รวมถึงการใช้ภาพที่สื่อให้เข้าใจได้ในความหมายเดียวกัน แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ

1. ข้อความที่สื่อแสดงสรรพคุณอันทำให้เข้าใจว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษา ป้องกันโรค หรืออาการของโรค เช่น

  • ลดโคเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • ป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน หลอดเลือดแข็งตัว ภูมิแพ้หอบหืด
  • บรรเทาอาการปวดหัว ไมเกรน อาการชา บวมและเส้นเลือดขอด
  • แก้ปัญหาปวดประจําเดือน ประจําเดือนมาไม่ปกติ อาการตกขาว
  • ป้องกันหรือต่อต้านเชื้อโรค เช่น เชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ไข้หวัด แบคทีเรีย เป็นต้น
  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  • รักษาโรคติดเชื้อ
  • เพิ่มความจํา แก้อาการหลงลืม ความจําเสื่อม รักษาโรคอัลไซเมอร์
  • รักษาอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ
  • รักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ไขมันพอกตับ
  • รักษาโรคไตเสื่อม นิ่วในไต
  • รักษาโรคเกาต์รูมาตอยด์เอสแอลอี
  • บรรเทาอาการข้ออักเสบ ข้อเข่าเสื่อม ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออักเสบ
  • รักษาโรคต้อ วุ้นในตาเสื่อม กระจกตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม ตาแห้ง เคืองตา แสบตา
  • บรรเทาอาการหูอื้อ ฟื้นฟูการได้ยิน
  • รักษาโรคริดสีดวงทวาร กรดไหลย้อน
  • รักษาโรคปอดอักเสบ วัณโรค หลอดลมอักเสบ ไอเรื้อรัง
  • รักษาโรคผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงิน

2. ข้อความที่สื่อแสดงให้เข้าใจว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกาย หน้าที่อวัยวะ หรือระบบการทำงานของร่างกาย เช่น

  • ปรับสมดุลให้ร่างกาย ฟื้นฟูร่างกายหรืออวัยวะ
  • เพิ่มน้ำนม กระตุ้นน้ำนม
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
  • บํารุงสมอง บํารุงประสาท หรือบํารุงอวัยวะของร่างกาย
  • เสริมสร้างหรือกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกัน เพิ่มภูมิต้านทาน
  • Detox/ ล้างสารพิษ ล้างลำไส้
  • ปรับสายตาสั้น-ยาว ให้เป็นปกติ
  • ขับน้ำคาวปลา ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ลดอาการวัยทอง ร้อนวูบวาบ
  • กรอบหน้าชัดเหนียงหาย หน้ายก หน้าเรียว หนังตาตกเป็นตาสองชั้น รอยขมวดคิ้วหาย ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป

3. ข้อความที่สื่อแสดงให้เข้าใจว่ามีสรรพคุณบำรุงกาม บำรุงเพศ หรือเกี่ยวกับมีเพศสัมพันธ์ เช่น

  • ช่วยบํารุงและเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ เสริมสร้างศักยภาพทางเพศ
  • เพิ่มสมรรถภาพท่านชาย/ หญิง เพิ่มความต้องการทางเพศชาย/ หญิง
  • อาหารเสริมสําหรับชาย/ หญิง
  • เพิ่มฮอร์โมนเพศ
  • เพิ่มประสิทธิภาพน้ำอสุจิให้แข็งแรง
  • เพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นาน
  • ลดอาการหลั่งเร็ว
  • เพิ่มขนาดหน้าอก อัปไซซ์
  • กระชับช่องคลอด
  • ปลุกความเป็นชาย ปลุกเซ็กซ์อึด ถึก ทน ปลุกไวฟื้นง่าย
  • กระตุ้นความเป็นหญิง
  • คืนความเป็นหนุ่ม คืนความสาว

4. ข้อความที่สื่อแสดงให้เข้าใจว่ามีสรรพคุณเพื่อบำรุงผิวพรรณและความสวยงาม เช่น

  • ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดํา
  • ผิวขาว กระจ่าง ใส นุ่ม เด้ง เปล่งปลั่ง ออร่า
  • กระชับรูขุมขน/ ฟื้นฟูผิว
  • ลดริ้วรอย/ ลดความมันบนใบหน้า
  • ยกกระชับผิวหน้า
  • ชะลอความแก่ ดูอ่อนกว่าวัย
  • แก้ผมร่วง ผมหงอก
  • ช่วยให้ผมและเล็บแข็งแรง
  • กันแดด ท้าแดด
  • ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก

5. ข้อความที่สื่อแสดงให้เข้าใจว่ามีสรรพคุณในการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน หรือข้อความอื่นใดในทำนองเดียวกัน เช่น

  • ลดความอ้วน
  • ช่วยให้ระบายท้อง
  • สลายไขมันที่สะสมในร่างกาย ดักจับไขมัน ลดไขมันส่วนเกิน
  • ลดน้ำหนัก
  • Block/ Burn/ Build /Break/ Firm
  • การใช้ภาพสายวัด/ เครื่องชั่งน้ำหนัก/ กางเกง Over Size
  • ภาพ Before/ After
  • Weight Loss
  • เพรียว สลิม Slim Slen
  • ไม่โยโย่
  • กระชับสัดส่วน ลดต้นแขน ลดต้นขา ลดหน้าท้อง พุงหาย ช่วยให้แขนขาเรียว
  • หุ่นดี หุ่นสวย หุ่นเป๊ะ
  • ผอม ผอมเร่งด่วน ลดน้ําหนักถาวร
  • ลดยาก/ ดื้อยา/ ลดความอยากอาหาร

เพราะฉะนั้น หากใครใคร่จะโฆษณาอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะต้องดูและศึกษารายละเอียดให้ดีว่าจะโฆษณาอย่างไร คำไหนใช้ได้ คำไหนใช้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นผิดกฎหมายแน่นอน