ในช่วงที่พลพรรค “หงส์แดง” กำลังมะงุมมะงาหราหาทางทะลวงประตูทีมฟอเรสต์อยู่ที่แอนฟิลด์ สถานการณ์ของ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งแย่งแชมป์ซึ่งตามหลังเบรนต์ฟอร์ดอยู่ 0-1 กลับฟื้นคืนชีพด้วยการหลุดเข้าไปยิงมุมแคบของศูนย์หน้าตัวเก่ง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ สกอร์กลับมาเสมอ 1-1
หลังจากนั้นไม่นาน ไอ้เด็กนรกยังหลุดเดี่ยวไปทะลวงประตูชัยให้กับทีมได้อีก นั่นคือสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในยามสถานการณ์ของทีมกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ผู้เล่นตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ทำให้ผลการแข่งขันของทั้งสองทีมแตกต่างกันลิบลับ
ลิเวอร์พูล ต้องยอมรับความปราชัยในบ้านตัวเอง เพราะไม่มีปัญญาฝ่ารถบัส เอาลูกบอลไปซุกก้นตาข่ายคู่ต่อสู้
ขณะที่แมนฯ ซิตี้ ในวันออกสตาร์ตเกมไม่ได้เรื่อง แต่สุดท้ายยังสามารถพลิกกลับมาเก็บสามคะแนนได้สำเร็จ ชนิดที่ ฮาลันด์ เกือบจะทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำ หากลูกยิงในครึ่งหลังของเขาไม่บังเอิญไปจูบเสาประตูเข้าเสียก่อน
กลับมาที่สนามแอนฟิลด์ สัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าบรรดากองหน้า “หงส์แดง” นัดกันโชว์ฟอร์มไม่ได้เรื่องเลย ไล่ตั้งแต่ตัวจริงอย่าง โม ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า และหลุยส์ ดิอ๊าซ รวมทั้งตัวสำรองอย่าง โคดี้ กัคโป กับดาร์วิน นูนเญซ
เกมหลังทีมชาติมันไม่เคยง่ายแบบนี้เสมอสำหรับทีมใหญ่ที่มีตัวผู้เล่นเดินทางไปทั่วโลก
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ ฮาลันด์ คือความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างทั้งสองทีม ฤดูกาลนี้เล่นไป 4 เกม ศูนย์หน้าจากนอร์เวย์ทำสถิติยิงได้ทุกนัด ซัดไปแล้ว 9 ลูก 2 แฮตทริก ผลงานโดยรวมยิงให้ แมนฯ ซิตี้ ไปทั้งหมด 99 ประตูจาก 103 เกม OMG!!!
ไม่อยากจินตนาการเลยว่าทั้งฤดูกาล เขาจะทำได้ทั้งหมดกี่ประตู ในเมื่อฟอร์มร้อนแรงและดุดันตั้งแต่ต้นซีซั่นแบบนี้
นักเตะอย่าง ฮาลันด์ นั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งในยามที่ทีมเจอเกมอุดจากคู่ต่อสู้แบบใช้รถบัสมาขวาง เพราะเขาสามารถทำประตูได้จากหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเจาะทะลุตามช่อง การโหม่งบอลโยนเข้ากลางจากกราบทั้งสองข้าง การใช้สปีดตามบอลทะลุยาวมาจากด้านหลัง ดั่งประตูที่ 2 ในเกมกับเบรนต์ฟอร์ด ซึ่งผู้รักษาประตู เอแดร์สัน บรรจงออกบอลยาวมาให้อย่างแม่นยำ
เป็นศูนย์หน้าตัวใหญ่ปะทะดี แต่กลับมีสปีดต้นที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ใจมาก ครบเครื่องกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
น่าเสียดายนะครับ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เงินเพียง 52 ล้านปอนด์ดึงตัว ฮาลันด์ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
วินโดว์ เดียวกัน ลิเวอร์พูล กลับลงทุนซื้อ ดาร์วิน นูนเญซ มาจาก เบนฟิก้า 64 ล้านปอนด์ บวกแอดออนที่อาจทะลึ่งพรวดขึ้นไปถึง 85 ล้านปอนด์!! ถึงเวลานี้ศูนย์หน้าอุรุกวัยยังมิอาจโชว์ฟอร์มให้สมราคา ยังเบียดลงตัวจริงอย่างต่อเนื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลกลใด ค.ศ. นั้น คล็อปป์ กับฝ่ายบริหาร ถึงไม่เลือก ฮาลันด์ จากกุฎิเก่าของกุนซือจากเมืองเบียร์เองด้วยซ้ำ อาจด้วยเรื่องค่าเหนื่อยที่ค่อนข้างสูงขึ้นมานิดนึง แต่จริง ๆ แล้ว ผมคิดว่าน่าจะถึงเข้ามาตั้งแต่ ซัมเมอร์ปี 2021 ด้วยซ้ำ ก่อนที่ โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะหมดสภาพ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อ ดิโอโก้ โชต้า กับ มินามิโนะ
เดาเอาว่า คล็อปป์ น่าจะแอบเสียดายสามประสานแดนหน้าชุดเดิม และสไตล์ของ ฮาลันด์ ก็ผิดแผกแตกต่างไปจากกองหน้าเดิมที่ คล็อปป์ มีอยู่
ขณะที่ เป๊ป โนสนโนแคร์ ขอให้ได้นักเตะที่เก่งจริง สามารถยกระดับทีมได้เข้ามาก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับทีมตามตัวหลัก
ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียดาย หมายเลข 9 ระดับโลกในยุคปัจจุบันยิ่งหาได้ยากยิ่งนัก “หงส์แดง” จะแก้ปัญหาในยามคู่ต่อสู้จอดรถบัสอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ปีกกึ่งศูนย์หน้าอย่าง โม ซาลาห์ ซึ่งเป็นตัวหลักในการผลิตสกอร์ให้ทีมเริ่มโรยราลงทุกวัน?