ชีวิตและแนวคิดที่ไม่มีวันหมดอายุ

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วม “Workshop การจัดการความเครียด” ที่จัดโดยผู้ใหญ่ที่ผู้เขียนเคารพยิ่ง ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล กรรมการบริหาร บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น ภายใต้แบรนด์ Idemitsu เจ้าของเพจ ลุงตี่ CEO ที่มีคลิปลุงตี่ให้แง่คิดในการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต ออกมาให้ได้รับชมเป็นประจำ พร้อมกับกระแสตอบรับที่ดีในโลกโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม เผลอ ๆ ผู้คนรู้จักบทบาท “ลุงตี่” มากกว่าบทบาทของ ดร.ธนศักดิ์เสียด้วยซ้ำ

ผู้เขียนเองมีโอกาสได้ทำงานให้กับ ดร.ธนศักดิ์ มาได้ไม่นานนัก แต่ก็ไม่น้อยเกินไป เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้เห็นความเป็น “ลุงตี่” ทั้งในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจ และ ดร.ธนศักดิ์ ที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งทั้งสองบทบาท มีสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากพุ่งออกมาจากตัว “ลุงตี่” คือ “ความเป็นผู้นำเทรนด์”

ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสพบกับ ดร.ธนศักดิ์ นั้น ผู้เขียนทราบเพียงว่าท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันเครื่องที่ใหญ่ระดับต้นของประเทศ จนได้เห็นคลิปที่ “ลุงตี่” เปิดให้ดู ไปจนถึงบทสนทนาของการทำหนังสือในรูปแบบ e-book มุมมองของผู้เขียนที่เห็น ดร.ธนศักดิ์ เพียงมิติของผู้บริหาร เริ่มเห็นภาพอื่นมาทับซ้อนมากขึ้น และเมื่อได้ร่วมงานกับ “ลุงตี่” ยิ่งได้เห็น “ความเป็นนักคิด” ของ “ลุงตี่” เพิ่มขึ้นในทุกครั้งที่ได้พบกั

ความสนุกในการทำงานอยู่ตรงนี้แหละค่ะ เมื่อเราได้ทำงานกับผู้ใหญ่ที่ทันสมัย และมีวิสัยทัศน์อันทำให้เราต้องร้องว้าว! ความเชื่อมั่นที่มีต่อ “ลุงตี่” ของผู้เขียนจึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พอ “ลุงตี่” บอกว่าจะจัด Workshop การจัดการความเครียด ผู้เขียนไม่รีรอที่จะขอเข้าร่วมคอร์ส เพราะอยากรู้จักในอีกมุมของ “ลุงตี่” ที่ทำหน้าที่ “โค้ช” ให้กับคนที่กำลังหาทางออก

ต้องบอกว่าเป็นคอร์สที่ได้ข้อคิดในการจัดการกับความเครียดของตนเองได้ดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะ “โค้ชลุงตี่” ใช้วิธีการเปิดมุมมองและแนวคิดแบบใหม่ ในการมองปัญหาชีวิตทั้งหลายที่ถาโถมเข้ามาหาเรา และเป็นวิธีที่เราสามารถฝึกตนเองได้ในทุกวัน

ขณะที่ผู้เข้าร่วมคอร์สซึ่งรับจำนวนจำกัดนั้น ทำให้ผู้เขียนได้พบกับผู้คนที่มีปูมหลังหลากหลาย ทั้งกลุ่มข้าราชการระดับสูง เจ้าของธุรกิจ ครูสอนดำน้ำ คนทำงานรุ่นใหม่ ไปจนถึงนักศึกษาที่กำลังหาคำตอบให้กับชีวิตของตนเอง ทุกคนล้วนแล้วมีปมความเครียดอยู่ในใจ ไม่ใช่ว่าเราจะเป็นคนเดียวที่ประสบปัญหา

ดร.ธนศักดิ์ เคยพูดกับผู้เขียนไว้ในครั้งหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ว่า

“ผมจะไม่ยอมปล่อยให้อายุเป็นอุปสรรคในการส่งต่อแนวคิดและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้หลายคนอาจมีคำถามว่า จะลุกขึ้นมาทำให้เหนื่อยทำไม เกษียณอยู่กับบ้านแล้วไปเที่ยวให้สนุกดีกว่า”

“ผมตอบคนเหล่านั้นว่าไปเที่ยวก็สนุกดีได้ผ่อนคลาย แต่พอเที่ยวจบแล้วยังไงต่อ หากการได้ส่งต่อแนวคิดที่เป็นประโยชน์ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง เหมือนเราได้ทิ้งมรดกให้กับสังคม แม้วันนี้จะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ถ้าจุดเล็ก ๆ ขยายออกไป ก็สามารถกลายเป็นกลุ่มใหญ่ได้”

“คอร์สการจัดการความเครียด” เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ ดร.ธนศักดิ์ ได้ลงมือทำให้เห็น

ถ้าจะถามว่าในชีวิตการทำงานของผู้เขียนมีเรื่องโชคดีอะไรบ้าง ที่นึกได้เร็วที่สุด เห็นจะเป็นการได้ร่วมงานกับผู้ใหญ่หลายท่านที่มีแนวคิดทันสมัย และพร้อมมอบโอกาสให้คนที่ต้องการโอกาสอยู่เสมอ ซึ่งการถูกหล่อหลอมด้วยทัศนคติดังกล่าว ผู้เขียนจึงมีหน้าที่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ส่งมอบสืบต่อกันไป ด้วยความหวังที่ว่าครอบครัวของเรา สังคมของเรา ประเทศของเรา และโลกของเรา จะดีขึ้นในทุกวัน

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ