ใครยังจำวลี “น้ำมัน 1 ถัง ยังเหลือ!” กันได้บ้างครับ คำพูดนี้ผมจำได้แม่น เพราะได้ยินข่าวมาเป็นระยะกับโครงการของอีซูซุ ที่มักจะจัดทริปพานักข่าวและนักทดสอบรถขับทางไกลยาว ๆ ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงแค่ 1 ถัง มีทั้งขับจากกรุงเทพฯ เข้ามาเลเซีย รวมถึงขับจากเชียงใหม่ลงไปถึงมาเลเซียในระยะทางร่วม 1,700 กิโลเมตร
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมและทีมงาน World of Speed PPTV มีโอกาสได้นำรถเจ้าตำรับ “น้ำมัน 1 ถัง ยังเหลือ!” มาทดสอบบนเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-น่าน ด้วยรถกระบะ อีซูซุ D-MAX X-Series Hi-Lander 2024 หรือพูดง่าย ๆ ก็คือรุ่นท็อปของกระบะอีซูซุรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ แบบยกสูงนั่นเองครับ
ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้กลับมาขับรถกระบะอีซูซุในยุคใหม่ หลังสมัยวัยรุ่นพอจะได้ขับอีซูซุ สเตชันแวกอน ตัวที่ทำร่วมกับไทยรุ่งฯ มาบ้าง พูดถึงอีซูซุ ไม่รู้ว่าท่านผู้อ่านวัยเข้าหลักสี่แบบผม เคยรู้สึกเหมือนกันบ้างไหมครับ ว่าสมัยก่อนเราสามารถแยกเสียงเครื่องยนต์กระบะอีซูซุ (เสียงจะออกแหลม) กับกระบะโตโยต้า (เสียงทุ้มกว่า) ได้ แต่ยุคนี้เสียงเครื่องดีเซลทุกยี่ห้อแทบจะแยกกันไม่ออก
อีซูซุ D-MAX X-Series Hi-Lander 2024 ที่ผมและทีมงานได้ขับมันอยู่ราว 5 วัน เราขับกันไประยะทางแตะ 2,000 กิโลเมตร รุ่นนี้เป็นรุ่นปรับโฉมย่อยปี 2024 เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.9 ลิตร 4 สูบแถวเรียง กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที สีขาวมุก ราคา 1,024,000 บาท ซึ่งหากจะว่ากันตามตรง ขนาดเครื่องยนต์และพละกำลัง ถือว่าเป็นรองรถกระบะขับ 4 อยู่พอสมควร
เชื่อว่าคำถามที่ทุกคนสนใจก่อนขึ้นไปขับมันคือ “เครื่อง 1.9 จะขับอืดไหม” ในฐานะที่ได้ขับมาในทุกเส้นทาง ทั้งทางราบ ทางขึ้น-ลงเขา ทางลูกรัง ขอตอบก่อนเลยว่าหากเทียบกับรถเก๋งเบนซิน หากเทียบกับรถดีเซลที่มีเครื่องใหญ่กว่า แรงม้าสูงกว่า เจ้า D-MAX X-Series คันนี้ย่อมเป็นรองอยู่แล้ว แต่ครับแต่! มันไม่เป็นปัญหาอะไรเลย จากที่ผมได้ขับมาตลอด 5 วัน
“ความอืด” ที่ว่านี้ ผมรู้สึกได้แค่ในช่วงออกตัวหลังจากติดไฟแดง ที่เมื่อออกตัวไปแล้ว จากจังหวะเกียร์ 1 ไปเกียร์ 2 และต่อไปถึงเกียร์ 3 มันอาจจะตอบสนองไม่ทันใจ หากเราเคยขับรถที่แรงกว่านี้มาก่อน แต่หลังจากนั้น ในการขับทางไกล รวมถึงขับขึ้นเขาเส้นทางจากอุตรดิตถ์-แพร่-น่าน เกือบ 200 กิโลเมตร เครื่องดีเซล 1.9 ไม่ได้เป็นจุดอ่อนเลยครับ
ในช่วงขึ้นเขา หากขับโหมดเกียร์ออโต้ฯ ปกติก็ไปตามรอบของมันได้เลย สมองกลจะสั่งให้เชนเกียร์ลงแบบอัตโนมัติ ส่วนหากจะเข้าเกียร์เองก็ทำได้ ปรับเลือกโหมดเกียร์ธรรดา และเลือกเชนเกียร์ลงเองได้ตามที่ต้องการ ซี่งไม่ได้รู้สึกเลยว่ารถอืด รวมถึงจังหวะคิกดาวน์ เวลาแซงในช่วงเลนสวน กดคันเร่งเข้าไป จาก 80 ไปถึง 120 ใช้เวลาราว 8 วินาที ก็แซงได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องลุ้นเหนื่อย
ที่สำคัญคือ น้ำมัน 1 ถัง ยังเหลือ! และเหลืออีกเพียบ ผมจับระยะทางจากรับรถที่ บ.ตรีเพชรฯ น้ำมันเต็มถึง 76 ลิตร และขับในกทม.ราว 50 กิโลเมตร ก่อนจะไปเติมที่อำเภอท่าวังผา จ.น่าน (เติมเข้าไป 56 ลิตร ราคา 1,890 บาท) รวมระยะทางที่วิ่งมาก่อนเติม 884 กิโลเมตร ซึ่งตอนที่จอดเติม ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงยังไม่โชว์ด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าหากยังไม่เติม จะขับไปได้ต่ออีกราว 200 กิโลเมตรเลยทีเดียว ฉะนั้น น้ำมัน 1 ถัง วิ่งทางไกลได้ทะลุ 1,000 กม. แน่ ๆ ครับ
ส่วนอัตราการซดเชื้อเพลิงในทริปนี้ ที่ขับทางไกลเป็นหลัก มีคิกดาวน์ช่วงขึ้นเขาเป็นระยะ D-MAX X-Series Hi-Lander 2024 ทำตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดมาก ๆ หากเทียบกับกระบะยกสูงด้วยกันเอง ซึ่งก็ไม่แปลกใจเลยครับว่า ทำไม “อีซูซุ” ถึงยังเป็นเจ้าตลาดกระบะเมืองไทยอยู่จนทุกวันนี้