แผงกลางในฝัน

ใครที่ได้เห็นผลงานของ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ยอดกองกลางชาวอาร์เจนไตน์ของลิเวอร์พูล เกมพบกับไบรท์ตัน คงอดทึ่งไม่ได้กับความเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ในการบงการเกมให้กับต้นสังกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานในครึ่งหลัง แม้แต่ รอย คีน นักวิจารณ์ฝีปากกล้าที่ปกติไม่ค่อยชมใครยังออกมายกย่อง

การพัฒนาฟอร์ม “ซิสแม็ค” นั้นส่งสัญญาณว่า ตัวเขาเองได้ปรับตัวเข้ากับทีมใหม่เนียนเป็นเนื้อเดียวกันเรียบร้อยแล้วโดยสิ่งที่เขาโชว์ให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานกับเพื่อนในแดนกลางด้วยกัน หรือการใส่พานให้ โม ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ สวย ๆ หลายครั้ง

นักเตะเบอร์ 10 ผู้นี้ต้องเสียเวลากับการเล่นในตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์อยู่นานเกือบครึ่งฤดูกาล จนมาขึ้นปีใหม่ 2024 แม็คอัลลิสเตอร์ จึงได้ปรับขึ้นมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์หมายเลข 8 ทรงคลาสสิกที่สมบูรณ์แบบและครบเครื่องทั้งรับและรุก 

บางครั้งลงมาช่วยตัดเกมในบทบาทหมายเลข 6 บางหนกลับไปสวมบทเป็นจอมทัพหมายเลข 10 ด้วยการจับบอลที่นิ่มนวล อ่านเกม และเลือกจ่ายบอลไปยังที่ว่างให้เพื่อนหลุดเข้าไปยิงประตู

ผู้เล่นอีกคนที่มีส่วนในการสนับสนุนฟอร์มของดาวเตะฟ้า-ขาว นั่นก็คือ วาตารุ เอ็นโด ห้องเครื่องชาวญี่ปุ่นที่ลงมายืนเป็นตัวต่ำในแดนกลางแทน แม็คอัลลิสเตอร์ ทำหน้าที่รับผิดชอบ Dirty Job คอยปัดกวาดไม่ให้คู่ต่อสู้เข้าไปแผ้วพานกองหลังเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง ถือเป็นงานที่ต้องเสียสละและมีวินัย แต่ก็เหมาะกับกองกลางเกมรับขนานแท้อย่างเอ็นโด ยิ่งนัก

เมื่อมีคนเล่นกับลูกฟุตบอลได้ดี กับคนสกัดที่หนักหน่วงแล้ว ก็จำเป็นจะต้องมีฟันเฟืองสุดท้าย นั่นก็คือตัวขยันที่คอยวิ่งไม่มีหยุด แผงกลางนั้นจึงจะสมบูรณ์แบบได้

และนั่นคือบทบาทที่ โดมินิค โซบอสไล เข้ามาเติมเต็มได้อย่างไร้รอยต่อ!

แม้มิดฟิลด์ฮังกาเรียนเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บและช่วงแรกดูจะยังไม่เข้าฟอร์มนัก แต่พอครึ่งหลังแล้ว การวิ่งเติมเกมและโคเวอร์ที่ว่างต่าง ๆ ของสนามนั้น ทำให้ทีมได้ประโยชน์มาก

เมื่อ 3 ยอดมิดฟิลด์ที่มีข้อดีคนละแบบมารวมตัวกันแบบนี้ จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จนทำให้เกจิต้องออกมาชื่นชม ลิเวอร์พูล ยิ่งนัก จากฟอร์มที่โชว์ในเกมกับไบรท์ตัน ซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะชนะมากกว่า 2-1 ด้วยซ้ำ แต่กองหน้าเล่นยิงทิ้งยิงขว้าง โยนโอกาสทิ้งไปเสียเยอะ

ที่สำคัญโปรดอย่าลืมว่า อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ + วาตารุ เอ็นโด + โดมินิค โซบอสไล สามประสานเพิ่งจะเล่นด้วยกันเป็นซีซันแรกนะครัช ยังไม่เต็มฤดูกาลด้วยซ้ำ แต่ผลักดันเกมกันได้เยี่ยมขนาดนี้ ปีหน้าไม่อยากจะจินตนาการว่าจะร้อนแรงขนาดไหน

จำช่วงก่อนเปิดฤดูกาลได้มั้ยครับว่ากองกลางคือจุดอ่อนของทีม เพราะต้องขาย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และปล่อย นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ออกไป ขณะเดียวกัน ติอาโก้ อัลคันทาร่า กับ สเตฟาน บายเซติช บาดเจ็บ แถมเป้าหมายอย่าง มอยเซส ไคเซโด้ กับ โรเมโอ ลาเวีย ยังถูกปฏิเสธ

ถึงเวลานี้ไม่น่าเชื่อนะครับว่าทีมงานของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ปั้นแผงกลางชุดใหม่ขึ้นมาได้ลงตัวขนาดนี้

ตอน คล็อปป์ ลงจากตำแหน่งก็คงไปอย่างหมดห่วงแน่นอนล่ะครับ.