เน้นประหยัด ต้องไปจัด “ยาริส ครอส”

หนึ่งในรถยนต์ไซซ์เล็กที่ผมมีโอกาสได้ขับบ่อยที่สุดก็คือ โตโยต้า ยาริส รุ่นแรกที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย แต่เป็นยาริส เจเนอเรชันที่ 2 ที่ผลิตออกมา หรือหากถ้าไปญี่ปุ่น เขาจะเรียกรถรุ่นนี้ว่าโตโยต้า Vitz จำได้เลยว่ายาริสรุ่นแรกที่เข้าไทย เป็นรถ 5 ประตูไซซ์เล็ก เครื่อง 1.5 ลิตร ที่ขับสนุก คล่องตัว และอึด ถึก ทน มาก ตามสไตล์โตโยต้า

ซึ่งหลังจากนั้น ผมก็มีโอกาสได้ขับยาริสเจน 3 และ 4 อยู่บ้าง แต่น่าเสียดายที่ยาริสรุ่นหลัง ๆ กลายมารถอีโคคาร์ ที่ลดความจุเครื่องยนต์ลงมาเหลือ 1.2 ลิตร ที่บอกได้เลยว่าอืดมาก จวบจนเมื่อปีที่แล้วที่มีการนำยาริสยกสูง ในชื่อ ยาริส ครอส เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเพิ่งจะมีโอกาสได้สัมผัสมันแบบจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรก

เมื่อ 2 ปีที่แล้วตอนที่มีข่าวว่า โตโยต้า จะนำ ยาริส ครอส เข้ามาทำตลาด ผมยังเขียนในคอลัมน์นี้อยู่เลย ว่าหากนำเข้ามาแล้วใส่เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ไฮบริด มีหวังเห็นราคาพุ่งแตะล้านแน่ ๆ แต่สิ่งที่โตโยต้าทำได้คือ การเคาะราคาที่ดึงดูดใจไม่น้อย รุ่นเริ่มต้น 789,000 บาท และรุ่นท็อป 899,000 บาท ไม่ถึง 9 แสนบาท

จุดเด่นของยาริสที่ผมเคยได้สัมผัสมาในทุก ๆ รุ่นก่อนหน้านี้ ยังคงมีอยู่ในยาริส ครอสครับ คือหากเราดูภายนอก จะดูว่าเป็นรถคันเล็ก แต่ว่าภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสองยังคงกว้างขวาง ระดับความสูง 178 ของผม ลองไปนั่งเบาะหลัง บอกเลยว่านั่งได้สบาย ๆ และเข่าไม่ติด รวมถึงฟังก์ชันที่วางแก้วน้ำด้านหน้า ยังคงมีมาให้เหมือนเดิม

ส่วนอีกหนึ่งออปชันที่ผมไม่เคยเห็นในรถรุ่นอื่น ๆ ที่นำมาทดสอบก่อนหน้านี้ แต่มีในยาริส ครอส ก็คือระบบกรองฝุ่น PM2.5 ที่มีหน้าจอแสดงระดับปริมาณฝุ่นในรถ และมีปุ่มกดกรองฝุ่น PM2.5 คือเอาจริง ๆ ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าแท้จริงมันกรองได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยเมื่อสัญลักษณ์ระดับฝุ่นเป็นสีเขียว ในยุคที่ฝุ่นกระจายทั่วเมืองแบบนี้ ก็ทำให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งล่ะครับ (ฮา ๆ)

ส่วนขุมพลังและสมรรถนะในการขับขี่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Dual VVT-i 91 แรงม้า คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า หากดูจากตัวเลข เครื่องยนต์ 1.5 ไฮบริด ผมคิดว่าน่าจะทรงพลังมากกว่านี้ แต่พอขับจริงไม่ได้ทำให้มีพละกำลังปรู๊ดปร๊าดเท่าใดนัก แต่จากที่ได้ขับตลอด 5 วันบอกเลยว่ายาริส ครอส มีดีกว่าที่คิด

จริงอยู่ครับ หากเราจะไปเทียบกับรถเครื่องที่ใหญ่กว่า จังหวะออกตัว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. หรือจังหวะ kick down คงสู้รถที่เครื่องและมอเตอร์ไฟฟ้าใหญ่กว่าไม่ได้ แต่บอกได้เลยว่ามันไม่ได้เป็นรถที่อืดหรือเร่งไม่ขึ้น และคล่องตัวมากทั้งการขับในเมืองและออกทางไกล ที่สำคัญ จากที่ผมได้ขับไปราว ๆ 5 วัน ทั้งทางไกล ไป-กลับสนามพีระฯ ชลบุรี อัตราซดน้ำมันทำได้ถึง 22 กม./ลิตร

ขนาดความจุถังน้ำมันตามสเปกบอกว่า 36 ลิตร ผมขับไป-กลับ จากกทม. ไปสนามพีระเซอร์กิต และใช้งานในเมือง ไป-กลับย่านรามอินทรา-พระราม 9 ได้อีก 4 วัน น้ำมัน 1 ถังยังเหลือ! นี่แหละครับคือจุดเด่นที่สุดของ “ยาริส ครอส” การใส่มอเตอร์ไฟฟ้ามาเป็นรถไฮบริด คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิง ไม่ใช่การเพิ่มพละกำลังเครื่องยนต์ให้แรงขึ้น

บ่อยครั้งที่สัญลักษณ์ EV ทำงานขณะรถวิ่ง รวมถึงยังมีระบบชาร์จไฟกลับทุกครั้งที่เราถอนคันเร่งด้วย นั่นทำให้ ครอสโอเวอร์ คันเล็ก จากโตโยต้ารุ่นนี้ เป็นรถที่คุ้มค่าน้ำมันสุด ๆ กับเครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร ที่ราคารุ่นเริ่มต้นไม่ถึง 8 แสนรุ่นนี้ครับ