คุณรู้หรือไม่ว่า “อาชีพ” ก็มีส่วนเป็นตัวกำหนดสุขภาพในอนาคต ด้วยปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ของอาชีพที่ทำอยู่ ทำให้เราสามารถคาดคะเนได้ว่าอนาคตคุณมีความเสี่ยงของการเกิดโรคใดบ้าง อาทิ ทำงานในโรงงาน เสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ อาชีพดีเจ เสี่ยงต่อการเป็นโรคบกพร่องเกี่ยวกับการได้ยิน อาชีพนักร้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล่องเสียงอักเสบ เป็นต้น
แต่มีโรคอีกประเภทที่ไม่ต้องรอให้ถึงอนาคตก็เข้ามาทักทายเยี่ยมเยือนแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว บางครั้งเข้ามารบกวนชีวิตการทำงาน เป็น ๆ หาย ๆ ไม่เลิก ไม่ว่าจะเป็นการปวดศีรษะ ปวดบ่า ปวดไหล่ ปวดสะบัก ปวดหลัง และอีกหลากหลายสารพัดโรคปวด อาการทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังในบริเวณอวัยวะที่ถูกใช้ในท่าซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือที่เราเรียกว่า อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง พบบ่อยในคนวัยทำงานที่มีพฤติกรรมหรือการทำกิจวัตรประจำวันที่ซ้ำ ๆ กัน เช่น ใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ถือหรือสะพายของหนัก ๆ ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ เป็นต้น
คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจาก คลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ อาชีพที่มีความเสี่ยงต่ออาการปวดเรื้อรังในแต่ละประเภทไว้ ดังนี้
- วิศวกร มีพฤติกรรมก้ม ๆ เงย ๆ และใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ หัวไหล่ รวมไปถึงข้อมืออีกด้วย
- ดีไซน์เนอร์ มีพฤติกรรมการขีด ๆ เขียน ๆ ออกแบบวาดรูปเป็นเวลานาน ๆ เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นข้อ หัวไหล่ ข้อมือ และอาจจะมีอาการของนิ้วล็อกร่วมด้วยได้
- แอร์โฮสเตส มีพฤติกรรมการทำงานที่ต้องยกของหนัก เอื้อมหยิบ-เก็บของบนที่สูง เข็นรถและเสิร์ฟอาหาร เป็นประจำ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบ่า สะบัก หัวไหล่ รวมไปถึงท่อนแขนได้อีกด้วย
- เซลล์แมน มีพฤติกรรมการยกของของหนัก ขับรถเป็นเวลานาน ใช้คอมพิวเตอร์ คุยโทรศัพท์ ใช้สมาร์ตโฟนต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นข้อ หัวไหล่ ข้อมือ และอาจจะมีอาการของนิ้วล็อกร่วมด้วยได้
- นักคอมพิวเตอร์ มีพฤติกรรมก้ม ๆ เงย ๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการเป็นออฟฟิศซินโดรม ปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว อาจรวมไปถึงมึนศีรษะ อาเจียน ซึ่งเป็นอาการของไมเกรนอีกด้วย
- นักบัญชี พฤติกรรมก้ม ๆ เงย ๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานานและใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันกับตัวเลขเอกสารต่าง ๆ มากมาย จึงทำให้นักบัญชีมีความเสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว อาจรวมไปถึงอาเจียน ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของไมเกรน
- สถาปนิก มีพฤติกรรมการขีด ๆ เขียน ๆ ออกแบบ เขียนแบบแปลนเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ หัวไหล่ ข้อมือ มีอาการของนิ้วล็อก และชาที่แขนร่วมด้วยได้
- โฟร์แมน มีพฤติกรรมก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อคอ บ่าอักเสบ ตาพร่า มีโอกาสเสี่ยงเป็นไมเกรนได้
- ทันตแพทย์ มีพฤติกรรมก้มๆ เงยๆ บิดตัว เอี้ยวตัว เกร็งข้อมือและนิ้วมือ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ส่งผลทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคปวดบ่า ต้นคอ สะบัก หลัง รวมไปถึงอาจจะเป็นนิ้วล็อกได้
- ผู้บริหาร มีพฤติกรรมใช้งานคอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ อีกทั้งมีความเครียดสูง มีผลทำให้กล้ามเนื้อต้นคอเกร็ง ส่งผลทำให้เลือดไปเลี้ยงศีรษะไม่เพียงพอ มึนศรีษะ ปวดขมับ ปวดกระบอกตา ตาพร่า นอนไม่หลับ จนส่งผลให้เป็นโรคปวดศีรษะเรื้อรังหรือไมเกรนได้
นอกจากการทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ เดิม ๆ เป็นประจำแล้ว ภาวะความเครียด การออกกำลังกายที่น้อยลง ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาทางร่างกาย จิตใจ คุณภาพชีวิตและสุขภาพอีกด้วย ทางที่ดีควรดูแลตนเอง และหาวิธีป้องกันไว้ตั้งแต่ต้นจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ [email protected]