“แดงเดือด” มีล้างป่าช้าอีกหรือไม่?

ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (17 ธันวาคม) แล้วนะครับ ที่ศึกแดงเดือดระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะโรมรันพันตูกันอีกครั้งที่สนามแอนฟิลด์ในเวลา 23.30 น. มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ไปติดตามกันครับ

ฟอร์มฟัดทีมใหญ่ด้วยกัน

การเปิดรังแอนฟิลด์ของ “หงส์แดง” เที่ยวนี้ถือว่ามาในฐานะจ่าฝูงหลังจาก 16 เกมผ่านไป เจ้าถิ่นฟอร์มกำลังร้อนแรง 5 นัดล่าสุดในลีกเก็บได้ถึง 13 คะแนนจากชัยชนะ 4 เสมอ 1 ส่วน “ปีศาจแดง” นั้นชนะ 3 แพ้ 2 อยู่อันดับที่ 6 ในตาราง

สิ่งที่น่าจับตาคือสถิติการเจอกับทีมใหญ่ด้วยกันนั้นลูกทีมของ เอริค เทน ฮาก ปีนี้ทำได้ไม่ดีเอาเสียเลยพวกเขาไปเยือนแพ้ สเปอร์ส 0-2 พ่ายอาร์เซนอล 1-3 เปิดบ้านโดน แมนฯ ซิตี้อัดอีก 0-3 เจอ นิวคาสเซิล ก็บุกไปโดนเช่นกัน 0-1 มีชนะ เชลซี (ซึ่งฤดูกาลนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกทีมระดับท็อปได้หรือไม่?) 2-1 ได้ทีมเดียวเท่านั้น  

เรียกได้ว่า พอเจอทีมใหญ่แล้วใจดูจะไม่สู้เสียอย่างนั้น สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้

ส่วน ลิเวอร์พูล นั้นเคยเสมอกับ เชลซี 1-1 บุกไปเอาชนะนิวคาสเซิล 2-1 แล้วไปเยือนแพ้ สเปอร์ส 1-2 สุดท้ายเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 1-1 เป็นการออกนอกบ้านทุกนัด แต่เที่ยวนี้ “เดอะ เรดส์” จะได้เล่นในสนามเก่งของตัวเอง น่าจะได้เปรียบมหาศาล 

จุดเด่นของทั้งสองทีม

“หงส์แดง” ฤดูกาลนี้ทีเด็ดต้องบอกว่าอยู่ที่การแก้เกมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะทำให้ทีมกลับมามีแต้มหลังจากตามคู่ต่อสู้ได้ถึง 8 นัดเข้าไปแล้วในฤดูกาลนี้ (ชนะ 5) รวมทั้งแมตช์ล่าสุดที่คัมแบ็กกลับมาเฉือน คริสตัล พาเลซ ทีมปราสาทเรือนแก้ว 2-1

บวกกับฟอร์มของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่กลับมาร้อนแรง ทั้งยิงทั้งจ่าย สนุกเท้า น่าจะอันตรายต่อแผงกองหลังของ “ปีศาจแดง” ยิ่งนัก โดยเฉพาะดาวยิงอียิปต์ผู้นี้นั้นชอบเหลือเกินในการซอยเท้ายิงทีมคู่ปรับสำคัญทีมนี้ เกมมรณะ 7-0 เมื่อซีซันที่แล้ว “บังโม” ก็อัดคนเดียวเสียสองประตู 

ส่วนทีมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ฟอร์มขึ้น ๆ ลง ๆ ราวกับตลาดหุ้นบ้านเรา กองหน้านัดกันเท้าบอดไม่ว่าจะส่งใครลงมาทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล, ราสมุส ฮอยลุนด์ 

แถมในเกม “แดงเดือด” เที่ยวนี้ พวกเขาจะไม่มี บรูโน แฟร์นานเดซ กัปตันจอมดราม่าเนื่องจากสะสมใบเหลืองเกินโควตา ต้องชวดลงเกมสำคัญไปอย่างช่วยไม่ได้ แดนกลางน่าจะยวบลงไปไม่ใช่น้อย เอริค เทน ฮาก จะแก้ปัญหาจุดนี้อย่างไรในเมื่อทั้ง คาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น และเมสัน เมาท์ ยังเจ็บอยู่ทั้งหมด 

ยำใหญ่อีกครั้ง? 

แม้สถิติต่าง ๆ โดยเฉพาะเฮดทูเฮดล่าสุด จะเป็นใจให้ ลิเวอร์พูล เพราะผลงานในบ้านเจอกับคู่ปรับนั้นไม่แพ้เลยในพรีเมียร์ลีก 4 ปีล่าสุด (ชนะ 3 เสมอ 1) โดยเฉพาะฤดูกาลที่แล้วซึ่งล้างป่าช้า “ผีแดง” ไปถึง 7-0 แต่ถ้ามองถึงฟอร์มการเล่นจริง ๆ แล้วพวกเขาก็ยังมีจุดอ่อนอยู่เยอะพอสมควรทั้งเกมรับ และนักเตะคนสำคัญเจ็บบาน โฌแอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, สเตฟาน บายเซติช, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ และดิโอโก้ โชต้า 

คล็อปป์ คงไม่แคล้วต้องทำงานหนักอีกครั้ง

ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นบุกมายิงในแอนฟิลด์ครั้งล่าสุดในลีกต้องย้อนกลับไปถึงปี 2018 (16 ธ.ค.) เอ๊ะ เอ๊ะ วันที่มันใกล้ ๆ กับเกมล่าสุดนี่เลยนะ ในสภาพเลือดเข้าตา ต้องเล่นเพื่อเซฟเก้าอี้ให้ เทน ฮาก ไม่แน่เหมือนกันว่าพวกเขาอาจจะมีลูกฮึดขึ้นมาต่อกรกับบรรดาหงส์ (ยกเว้นจะแอบไม่ต้องการเซฟ เทน ฮาก อันนี้ก็ตัวใครตัวมัน 555)

สุดท้ายเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในเกม “แดงเดือด” โดยเฉพาะอุบัติเหตุต่าง ๆ ทั้งการตัดสิน และการควบคุมอารมณ์ของบรรดานักเตะคนสำคัญของทั้งสองทีม ทั้งหมดทั้งมวลไปลุ้นกันในวันอาทิตย์นี้ครับ ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร.