อีกไม่กี่อึดใจเท่านั้น เราก็จะก้าวข้ามพ้นผ่านปี 2023 เข้าสู่ปี 2024 หลายคนเริ่มวางแผนแล้วว่าในคืนสิ้นปีนี้จะไปเคานต์ดาวน์กันที่ไหนดี ครั้นจะไปชมคอนเสิร์ตรอนับถอยหลังข้ามปีตามศูนย์การค้าดัง ๆ กลางกรุงก็เบื่อแล้วเพราะไปมาทุกปี หรือบางคนอาจจะบอกว่าปีนี้ไม่อยากจะอยู่บ้านนอนข้ามปีเฉย ๆ อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปข้ามปีที่อื่นบ้าง แต่ก็ติดอยู่ตรงที่เป็นสายรักสงบ ไม่ชอบไปเที่ยวในที่ที่คนเยอะ ๆ พลุกพล่าน แต่ไม่เป็นไร ชีวิตไม่ได้ไร้ทางออกขนาดนั้น ยังมีอีกหลายจังหวัดที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้นิยมไปเที่ยวเท่าไรนัก นี่แหละคือที่สำหรับคุณ!
ถ้าตอนนี้ใครยังไร้แผนอยู่ล่ะก็ Tonkit360 อยากจะขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวเคานต์ดาวน์ตามเมืองรองต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะไม่หนาแน่นเท่ากับเมืองหลัก ๆ เป็นการสนับสนุนที่เที่ยวเมืองรองในเมืองไทย ไปพร้อม ๆ กับการรักษาความสุขสงบทางจิตใจของเราด้วย โดยเราได้เลือกมา 5 จังหวัดจาก 5 ภูมิภาค ให้ลองวางแผนกันคร่าว ๆ ก่อนว่าอยากจะไปที่ไหน จะได้เตรียมเรื่องค่าใช้จ่ายในการออกทริปได้ทันเวลา ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย
เชียงราย
ช่วงเทศกาลปีใหม่ แน่นอนว่าเมืองหลักอย่างเชียงใหม่ต้องคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศอย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้าใครอยากได้บรรยากาศที่ไม่ต่างจากเที่ยวเชียงใหม่เท่าไรนัก แต่ความพลุกพล่านของผู้คนบางเบากว่า ได้ฟีลที่สงบลงมาหน่อย (ย้ำว่าหน่อยเดียว) เชียงรายถือเป็นตัวเลือกเมืองรองที่ไม่เลวเลย เป็นจังหวัดที่อยู่ทิศเหนือที่สุดของประเทศในเชิงภูมิศาสตร์ ส่วนทางทิศตะวันตกก็มีอาณาเขตติดต่อกับเชียงใหม่ด้วย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ มากมาย และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมก็น่าสนใจไม่แพ้เชียงใหม่
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเชียงราย สำหรับสายชอป ต้องไปเดินสามเหลี่ยมทองคำ อันเป็นจุดชมวิว 3 ประเทศริมแม่น้ำโขง มีร้านรวงให้เลือกซื้อของมากมาย หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภูชี้ฟ้า, ดอยแม่สลอง, ดอยตุง, ดอยผาตั้ง, ดอยช้าง, ดอยหลวง, ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน, น้ำพุร้อนโป่งพระบาท ส่วนที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็เช่น วัดร่องขุ่น, พิพิธภัณฑ์บ้านดำ, เชียงของ, เมืองเก่าโบราณเชียงแสน, วัดห้วยปลากั้ง, วัดร่องเสือเต้น, สิงห์ปาร์คเชียงราย, ไร่รื่นรมย์, ไร่ชาฉุยฟง เป็นต้น
อุดรธานี
ปกติแล้ว ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่คนไม่ค่อยนิยมไปเที่ยวอยู่แล้ว เที่ยวแบบตั้งใจไปเที่ยว ไม่ใช่ไปเยี่ยมญาติแล้วหาแวะที่เที่ยว ถ้าไม่ใช่เมืองหลัก ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง หรือไม่ใช่ช่วงเทศกาล ก็แทบไม่มีใครปักหมุดจะไปเที่ยวภาคอีสานกันสักเท่าไร ทั้งที่ความจริงยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ลับอีกมากมายที่น่าไปลองสัมผัส โดยเฉพาะกับสายรักสงบที่ไม่ค่อยชอบที่ที่ผู้คนเยอะ ๆ การไปเที่ยวภาคอีสานถือว่าตอบโจทย์ ซึ่งจังหวัดอุดรธานีก็ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจของภาคอีสาน ด้วยเป็นเมืองที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประวัติศาสตร์และเป็นดินแดนมรดกโลก
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอุดรธานี ใครเป็นสายศึกษาประวัติศาสตร์ ต้องไม่พลาดพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ สายโรแมนติก การไปเที่ยวชมทะเลบัวแดง ช่วงปีใหม่เป็นช่วงที่ดอกบัวออกดอกมากที่สุด งามสะพรั่งเต็มบึงน้ำ สายมู ก็ต้องไปบ้านคำชะโนด อยากเข้าวัดไหว้พระทำบุญ ต้องแวะวัดป่าภูก้อน ที่นี่นับเป็น unseen ของอุดรธานีเลยก็ว่าได้ หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็อย่างเช่น สวนสาธารณะหนองประจักษ์, ภูพระบาท, น้ำตกธารงาม, ภูฝอยลม เป็นต้น
สิงห์บุรี
แค่เอ่ยว่าสิงห์บุรี หลายคนอาจทำหน้าเหยเกด้วยความสงสัยว่าสิงห์บุรีมีอะไรให้เที่ยวล่ะนั่น ไม่เห็นจะมีแหล่งท่องเที่ยวอะไรเลย ซึ่งถ้าคุณได้ยินเสียงเล่าลือแบบนี้ล่ะก็ ที่นี่แหละน่าจะเป็นคำตอบของคำถามที่คุณตามหา แปลว่าคุณอาจจะคิดถูกแล้วก็ได้ที่คิดจะไปเที่ยวสิงห์บุรี เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายไปปลีกวิเวกตามลำพัง จริง ๆ แล้วสิงห์บุรีเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ซึ่งเก่าแก่กว่าสมัยสุโขทัยเสียอีก ส่วนในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ที่นี่ก็เคยเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของค่ายบางระจันนั่นเอง
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของสิงห์บุรี หากคุณคิดจะไปหาที่พักค้างคืนในคืนสุดท้ายของปี รอเวลาเคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่นั่น ตื่นเช้ามาคุณสามารถออกเดินทางเดินสายทำบุญไหว้พระขอพรรับศกใหม่ให้เป็นสิริมงคลแบบอิ่มบุญจุก ๆ ที่นี่มีวัดที่เป็นพระอารามหลวงหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร, วัดพิกุลทอง, วัดโบสถ์ มีสถานปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน อนุสาวรีย์วีรชนและอุทยานค่ายบางระจัน, แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย, อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินทร์บุรี, ศูนย์อนุรักษ์ควายไทยเขางาม, ตลาดบ้านระจัน เป็นต้น
ตราด
หากนึกอยากจะไปเที่ยวทะเล ถ้าเป็นฝั่งตะวันออกคนมักจะนึกถึงบางแสน พัทยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง หรือไม่ก็ลงใต้ไปเที่ยวทะเลอันดามันไปเลย แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกจังหวัดที่มีดินแดนแห่งท้องทะเลที่สวยงาม นั่นก็คือ จังหวัดตราด ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งภาคตะวันออก ถ้าไม่อยากไปเจอกับผู้คนมากมายที่ทะเลที่เป็นที่นิยมมาก ๆ ล่ะก็ มาทะเลตราดก็ได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวบนฝั่งของตราดก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอีกเพียบ พร้อมสรรพด้วยร้านอาหารและที่พักดี ๆ ให้เลือกมากมายด้วย
ตราด มีคำขวัญว่าเป็นเมืองเกาะครึ่งร้อย เพราะฉะนั้น ไว้ใจทะเลที่ตราดได้เลย มีเกาะหลายเกาะที่มีฉายาน่าไปเยือน อย่าง “เกาะขาม” ที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกมรกตแห่งทะเลตราด หรือ “เกาะกูด” ที่ได้ฉายาว่าอันดามันแห่งทะเลตะวันออก นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะช้าง, เกาะหมาก, เกาะกระดาด, เกาะหวาย, พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด, พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5, หาดทรายดำ, บ้านน้ำเชี่ยว, จุดชมวิวแหลมงอบ, อนุสรณ์สถานยุทธนาวี, อ่าวตาลคู่, บ้านท่าระแนะ, หาดบานชื่น, ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย, สวนสมโภชน์ เป็นต้น
พัทลุง
ปกติแล้วคนที่ลงไปเที่ยวภาคใต้ ส่วนใหญ่ก็จะลงไปเที่ยวทะเลใต้กันทั้งนั้น ซึ่งถ้าไม่ได้อยากเที่ยวทะเลแต่อยากลงไปเที่ยวภาคใต้ พัทลุง คือตัวเลือกที่ห้ามพลาด หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าพัทลุงเป็นหนึ่งในสองจังหวัดของภาคใต้ที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเลโดยตรง (อีกจังหวัดในภาคใต้ที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเลคือยะลา) แต่ก็มีทะเลสาบน้ำจืดที่คนใต้เรียกว่าทะเลน้อย ที่แม้ว่าจะไม่ใช่ทะเลแต่ก็มีทัศนียภาพที่สวยปัง แถมยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีประวัติศาสตร์เป็นเมืองโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ และมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพัทลุงที่มีชื่อเสียงและห้ามพลาด คือ อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ซึ่งภายในอุทยานมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการด้วย ถูกใจสายเดินป่า สายแคมปิง หรือจะไปเที่ยวที่อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ล่องเรือชมทุ่งดอกบัวแดง สัมผัสธรรมชาติ ชมควายน้ำ นกน้ำ และวิถีชีวิตชาวบ้านหมู่บ้านทะเลน้อย นอกจากนี้ยังมีวัดถ้ำคูหาสวรรค์, วังเจ้าเมืองพัทลุง, พระมหาธาตุเจดีย์บางแก้ว, บ่อน้ำร้อนธารน้ำเย็นเขาชัยสน, ภูเขาอกทะลุ, หาดแสนสุขลำปำ, ตลาดป่าไผ่สร้างสุข, ตลาดใต้โหนด, ล่องแก่งหนามมดแดง เป็นต้น
