ข้อควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ

การซื้อประกันสุขภาพนับเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต เบี้ยประกันที่เราจ่ายไปในแต่ละปีจะช่วยสร้างความคุ้มครองกับสิ่งไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองหรือครอบครัว แน่นอนว่าวงเงินนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากใช้ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดจำเป็นต้องใช้ คุณค่าของประกันจะทำให้คุณอุ่นใจและสบายกระเป๋าขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเดี๋ยวนี้ค่าใช้จ่าย ทั้งค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ค่ารักษา สูงมาก และนับเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่ไม่สามารถประเมินล่วงหน้าได้ ดังนั้น การมีวงเงินประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าในยามที่เรายังมีสุขภาพสมบูรณ์ดีทุกประการ

ประกันสุขภาพ มี 2 รูปแบบ คือ “ประกันสุขภาพแบบเดี่ยว” และ “ประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิต” โดยแบบ “ประกันสุขภาพแบบเดี่ยว” สัญญาจะมีผลบังคับปีต่อปี เบี้ยประกันจะถูกกว่า ส่วน “ประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิต” คือ พ่วงกับสัญญาประกันชีวิต ซึ่งถือเป็นสัญญาหลัก สัญญามีผลบังคับต่อเนื่องตามสัญญาหลัก และสามารถซื้อได้ต่อเนื่องไม่เกินอายุรับประกันของสัญญาหลัก หรือตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนด

นอกจากนี้ประกันสุขภาพนั้นจะมีประเภทความคุ้มครองให้เราเลือกได้หลากหลายและผู้ที่จะซื้อประกันควรพิจารณาคือ

1. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล จากโรคภัยไข้เจ็บหรือประสบอุบัติเหตุต่าง ๆ ทั้งค่ารักษา ค่าผ่าตัด ค่าห้องพัก รวมถึงไปถึงค่าอาหาร หากรูปแบบประกันที่เราเลือกไว้มีวงเงินเพียงพอกับค่ารักษาพยาบาลตามจริง เท่ากับว่าการรักษาพยาบาลครั้งนั้น ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋ามาจ่ายเลยสักบาทเดียว

ปัจจุบันมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่

  • ผู้ป่วยใน (IPD): คุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันมีอาการเจ็บป่วย และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยนอก (OPD): คุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันมีอาการเจ็บป่วย หรือเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เป็นหวัด หรือมีอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

2. ความคุ้มครองโรคร้ายแรง

เมื่อไรก็ตามที่คุณบังเอิญตรวจพบโรคร้ายแรงที่ต้องใช้เวลารักษานาน และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนในการรักษาและมีค่าใช้จ่ายสูง ไม่ว่าจะเป็นระยะเริ่มต้นหรือระยะลุกลาม โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนหรือแบ่งจ่ายเงินเป็นงวดให้กับเรา ขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เลือกไว้

เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการคลายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหากพบโรคร้ายในอนาคต แล้วจะต้องเสียเงินค่ารักษาเพิ่มเติมจากความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่มีอยู่ ควรเลือกความคุ้มครองโรคร้ายเพิ่ม เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษา

3. ความคุ้มครองชดเชยรายได้

หากการเข้ารับการรักษาตัวทำให้รายได้หดหาย คุณจะได้รับเงินชดเชยตามจำนวนวันที่เข้าพักรักษาตัว โดยจำนวนเงินจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่คุณเลือกไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความคุ้มครองจะไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล

เหมาะกับ: ผู้ที่กังวลว่าการเข้ารับการรักษา อาจทำให้ขาดรายได้จากการหยุดงาน และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกประกันสุขภาพรูปแบบใด เบี้ยประกันและความคุ้มครองจะขึ้นกับเพศ อายุ และประวัติสุขภาพของเราด้วย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อควรพิจารณาจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเปรียบเทียบกับสวัสดิการที่มีอยู่และเลือกประกันที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://link.scb/3AwG1Qi 

ที่มา: www.scb.co.th