6 ยี่ห้อรถในเอฟวัน 2026

ภาพจาก www.formula1.com

ใครที่เป็แฟนเอฟวัน เชื่อว่าสุดสัปดาห์นี้คงจะต้องจับตาไปที่การแข่งขันรายการเก่าแก่อย่าง โมนาโก จีพี นะครับ แต่ข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หนีไม่พ้นการประกาศจับมือกันระหว่าง ฮอนด้า กับทีม แอสตัน มาร์ติน ในปี 2026 ครับ

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี ฟอร์ด ค่ายรถจากฝั่งสหรัฐฯ ก็สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศจับมือกับเรดบูลล์ เรซซิ่ง เพื่อเตรียมป้อนเครื่องยนต์เอฟวัน เจเนอเรชันใหม่ในปี 2026 และก่อนหน้านั้นไม่น่าน อาวดี้ ก็เพิ่งยืนยันจับมือกับทีมเซาเวอร์ (อัลฟา โรมิโอ) ลงแข่งเอฟวัน 2026 เช่นกัน

ทำไม่ต้องเป็น 2026? และทำไมในยุคที่ส่วนใหญ่มุ่งจะไปสู่ EV ค่ายรถชั้นนำของโลกยังคงให้ความสนใจกับฟอร์มูล่า วัน กีฬาที่ก่อนหน้านี้ว่ากันว่าเป็นกีฬาที่เผาผลาญเชื้อเพลิงและก่อมลพิษมากที่สุดในโลก นั่นเป็นเพราะในปี 2026 จะมีการยกเครื่องกติกาเครื่องยนต์ใหม่นั่นเองครับ

ที่สรุปได้ตอนนี้ คือเอฟวันปี 2026 ซึ่งจะเป็นปีที่มีการปรับเปลี่ยนกติกาเครื่องยนต์ครั้งใหญ่ จะมีค่ายผู้ผลิตเครื่องยนต์ถึง 6 ยี่ห้อเป็นอย่างน้อยตบเท้าเข้าร่วมแข่งขัน ประกอบไปด้วยเมอร์เซเดส เฟอร์รารี่ ฮอนด้า อัลปีน (เรโนลต์) อาวดี้ และฟอร์ด (พัฒนาร่วมกับเรดบูลล์)

โดยกติกาเครื่องยนต์ใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้า แม้จะยังคงยืนยันขนาดเครื่องยนต์เดิมคือ 1.6 ลิตร วี 6 เทอร์โบ ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า หรือพูดง่าย ๆ ก็คือยังเป็นเครื่องเทอร์โบ ไฮบริดเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือ สเปกภายในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นครับ

เป้าหมายของเอฟวัน คือต้องการให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์สูงขึ้น ให้กำลังเท่าเดิมเป็นอย่างน้อย แต่ก่อมลพิษต่ำลง และที่สำคัญต้องใช้งบประมาณลดลงด้วย โอโห้! ฟังดูแล้วต้องบอกว่าไม่ง่ายใช่ไหมครับ แต่ในเมื่อค่ายรถทั้ง 6 ยี่ห้อยืนยันแล้วว่าจะเข้าร่วม ยังไงก็ต้องทำได้ครับ

โดยสเปกในเครื่องยนต์สันดาป 1.6 ลิตร วี 6 เทอร์โบ ที่จะต้องรักษ์โลกมากขึ้น จะต้องปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ประเด็นหลักคือ น้ำมันเชื้อเพลิงครับ งวดนี้บังคับเลยว่าทุกทีมจะต้องเติมเชื้อเพลิงสังเคราะห์เพื่อความยั่งยืน ฉะนั้น เชื้อเพลิงที่สร้างจากฟอสซิลแบบเดิมจะไม่ได้ไปต่

นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพของชุดมอเตอร์ไฟฟ้า หรือที่เรียกให้ง่าย ๆ ว่าระบบไฮบริด จากเดิมที่สามารถเพิ่มแรงม้าได้รวม 160 ตัว ในปี 2026 กติกาบังคับให้ใช้ประสิทธิภาพจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้มากขึ้น ซึ่งระบบไฮบริดใหม่จะแรงกว่าเดิม 3 เท่า เท่ากับว่าเฉพาะมอเตอร์ไฟฟ้าจะรีดแรงม้าได้เพิ่มเกือบ 500 ตัวเลยทีเดียว

ซึ่งระบบไฮบริดใหม่จะมาช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้น้อยลงนั่นเองครับ จากเดิมที่อนุญาตให้ใช้เชื้อเพลิงได้สนามละ 100 กิโลกรัม ในปี 2026 ก็จะให้แต่ละคันมีเชื้อเพลิงให้บริหารจัดการได้ไม่เกิน 70 กิโลกรัม ต่อการแข่ง 1 สนาม

ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดค่ายรถดัง ๆ ถึงยังไปต่อกับเอฟวัน เพราะนี่คือจุดเริ่มของเทคโนโลยีที่จะต่อยอดสู่การพัฒนารถเครื่องสันดาปแบบไม่ก่อให้เกิดมลพิษได้ และก็เป็นคำตอบที่ว่า ฟอร์มูล่า อี จะไม่มีทางมาแทนที่ ฟอร์มูล่า วัน ได้นั่นเองครับ