เชื่อหรือไม่? ว่าถ้าคนเรามีไอเดียสร้างสรรค์ในการต่อยอดอะไรสักอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะธรรมดามากแค่ไหนก็ตาม เราก็สามารถที่จะพลิกแพลงให้มันกลายเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ขึ้นมาได้ ยิ่งถ้าใช้ความชอบ ใจที่รัก พรสวรรค์ที่มี บวกกับใจที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ สักวันจะต้องได้เห็นผลลัพธ์ของความพยายาม!
บทสัมภาษณ์คนต้นคิดในวันนี้ เป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ของข้อความข้างต้น ความพยายามในการต่อยอดไอเดียและความสามารถที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ ในที่สุดก็ได้เห็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ก็ใครจะคิดล่ะว่าเมนูอาหารเช้าของชาวตะวันตก อาหารที่ทำจากแป้งธรรมดา ๆ อย่าง “แพนเค้ก” ขนมที่เราหากินได้ตามตลาดราคาไม่กี่สิบบาท จะสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นมาเป็น “แพนเค้กราคาหลักหมื่น” ได้ ที่สำคัญ ยังเป็นแพนเค้กราคาสูงที่มีความวิจิตรมากจนเราไม่กล้ากินอีกต่างหาก คนที่ยอมจ่ายเงินซื้อมาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะนำมากินเหมือนแพนเค้กทั่ว ๆ ไปตั้งแต่แรกด้วย เพราะคนเหล่านี้ตั้งใจซื้อมาใส่กรอบเก็บไว้ ในฐานะของ “ผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง”
ด้านล่างนี้ คือบทสัมภาษณ์ของผู้ที่พลิกแพลงให้แป้งกลม ๆ แบน ๆ ธรรมดา ๆ กลายเป็นผลงานศิลปะที่จะกินก็ได้ แต่มันควรค่าแก่การเก็บใส่กรอบมากกว่า “คุณสิงโต วิวัฒน์ เบญเจริญ” หนึ่งในเจ้าของร้าน Art Yummy ศิลป์ อร่อย ที่ทำให้ขนมแพนเค้กธรรมดา ๆ กลายเป็นผลงานศิลปะราคาหลักหมื่น บทสัมภาษณ์ในวันนี้อาจจะยาวหน่อย แต่เราอยากแชร์เรื่องราวการสร้างสรรค์และเพิ่มมูลค่าให้กับเมนูแพนเค้กของพวกเขาจริง ๆ
จุดเริ่มต้นของร้านแพนเค้ก Art Yummy ทำไมถึงต้องเป็น “แพนเค้ก”
จริง ๆ แล้ว มันเป็นช่วงโควิดรอบสุดท้ายครับ ก่อนหน้านั้นก็คือทำอาชีพเยอะครับ ขายหลายอย่าง ตอนแรกขายอยู่ที่ตลาดเท่งเถิดเทิงครับ ทีนี้ตลาดเขาโดนสั่งปิดยาว เราก็เลยมาขายที่ตลาดนัดรถไฟ ตอนที่ขายที่ตลาดเท่งเถิดเทิงเราเปิดหลายร้านครับ มีไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ เนยกรอบ เฟรนช์ฟรายส์ ก่อนช่วงโควิดนั้นเขาจะสั่งปิดตอนเมษายนครับ
เราเตรียมของเตรียมทุกอย่างเพื่อที่จะขาย มันก็ลงทุนไปค่อนข้างเยอะครับ แล้วสุดท้ายของที่เตรียมไว้คือมันเสียหมดเลย คือเขาปิดนานเป็นปีเลย เราไม่ได้มีแผนว่าเขาจะปิดนานขนาดนั้น อย่างนมผง อายุมันแค่ปีเดียวครับ ทีนี้ทุนเราก็เริ่มน้อยลงละ พอทุนน้อยลง เราก็มองละว่าธุรกิจอะไรที่มันลงทุนไม่เยอะ แล้วก็มีคนสนใจเยอะครับ ก็เลยมองมาที่แพนเค้ก ว่าเราก็สามารถที่จะวาดได้ครับ

ก็เลยมาเริ่มต้นที่แพนเค้กตอนตลาดนัดรถไฟเขาเปิดใหม่อีกรอบหนึ่งครับ ตอนแรกก็คือร้านเราจะเป็นร้านที่ใส่สีเนอะ ลูกค้าสามารถสั่งอะไรก็ได้ ช่วงแรก ๆ ก็จะเป็นพวกตัวอักษร เขียนถึงแฟนบ้าง คำคมบ้าง แล้วก็เป็นรูปการ์ตูนง่าย ๆ พอใส่สีแล้วมันก็ดูว้าวครับ มันสวย แล้วราคามันก็ไม่ได้แพงมาก ก็คือสามารถกินได้ เอามาถ่ายรูป ถ่ายลง Facebook ถ่ายลง TikTok ก็ได้ยอดวิวเยอะ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ดูแปลกใหม่ ก็เลยมีลูกค้าเริ่มตามมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็เริ่มเอารูปที่ยากขึ้น ๆ มาให้วาด ทีนี้ที่ร้านจะเป็นประเภทที่ว่าเราไม่ปฏิเสธงานครับ ก็คือลูกค้าอยากให้วาดอะไรเราก็วาดให้ เราก็ดูตามความยากง่ายในการตีราคาครับ
ที่มาของไอเดียเพิ่มมูลค่าให้กับแพนเค้กธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นศิลปะบนแพนเค้ก
ก็คืออย่างที่บอก ตอนแรกก็เริ่มจากที่เราคิดว่าเราสามารถที่จะวาดรูปได้ครับ เราก็ทำให้แพนเค้กมันดูน่าสนใจมากขึ้นด้วยการเริ่มใส่สี พอทำแล้วผลตอบรับมันดีครับ ลูกค้าดีใจ กระโดดดีใจ ชมว่าดีนะ สวย บางคนบอกว่าไม่กล้ากิน มันก็เลยกลายเป็นไอเดียว่าถ้าไม่กล้ากินเราจะเก็บได้ไหม ก็เริ่มหาวิธีที่มันจะสามารถเก็บรักษาได้ ซึ่งก็มีหลายวิธี มีทั้งวิธีที่ประหยัด วิธีที่แพงขึ้น เริ่มต้นเลยก็คือเก็บรักษาโดยการซีลสุญญากาศ ต้นทุนมันจะไม่เยอะครับ เก็บแล้วก็สามารถแช่ช่องฟรีซไป อยากจะเอามาดูวันไหนก็หยิบออกมาดู มันก็จะแข็งอยู่แบบนั้น แล้วก็สามารถเก็บได้นานเป็นปีเลยครับ

ที่ลองเก็บมา 2 ปี ก็ยังอยู่ได้ปกติในซีลสุญญากาศ จนกว่าตัวสุญญากาศจะเสื่อมสภาพ ก็ต้องเอามาซีลใหม่ แต่ทีนี้มันก็มีวิธีการราดน้ำยาเรซิน ทำให้ใสแล้วก็แข็งอยู่ในนั้น แล้วก็อีกวิธีหนึ่งก็คือใส่กรอบรูป แล้วก็ซีลกันพวกมดพวกแมลง มันก็จะอยู่ได้นานขึ้นเลย แบบนั้นครับ
พอมันเก็บได้รักษาได้ ลูกค้าก็ยิ่งเยอะขึ้นมากกว่าเดิม เพราะว่าเขารู้สึกว่าบางงานเนี่ย มันเป็นเหมือนคุณค่าทางใจของเขา ไม่ว่าจะเป็นรูปงานศิลปะ ลายไทย หรือแม้กระทั่งตัวเขาเองหรือรูปสัตว์เลี้ยงเขาเอง แล้วก็เริ่มมีเซเลบมาให้วาดรูปตัวเอง วาดรูปสัตว์ของตัวเอง พวกสัตว์ที่เขามีช่องเป็นของเขาเอง มันก็เลยยิ่งมีคนแชร์เยอะขึ้น ๆ มันก็เลยเป็นกระแสตอบรับทำให้คนสนใจที่ร้าน ทีนี้เขาก็จะชอบหางานที่มันยากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็เหมือนได้ฝึกฝีมือไปเรื่อย ๆ ด้วยครับ
จุดเริ่มต้นของการวาดแพนเค้กด้วยลายไทย
เริ่มต้นมาจากชาวต่างชาติครับ เขาบอกว่าอยากได้อะไรที่มันเป็นเอกลักษณ์ของไทย เขามาเดินตลาดนัดรถไฟเนี่ยครับ แล้วเขาก็มีช่องของตัวเขาเอง เขาเห็นว่าแพนเค้กนี่มันว้าว แต่เขาอยากให้ลงรายละเอียดให้มันเยอะขึ้นครับ เขาก็เลยให้วาดแล้วเขาก็มาถ่าย ก็คืออย่างที่บอกเราไม่ปฏิเสธงานครับ งานแรกก็ไม่ใช่ว่าเรามั่นใจว่ามันจะออกมาสวยนะ แต่เราก็วาดให้เต็มที่คือสุดฝีมือของเรา เราก็คิดว่าลิมิตมันได้แค่ไหนก็แค่นั้น แต่เผอิญงานมันออกมาแล้วมันดีครับ งานมันสวย เขาก็ชอบ มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้สึกว่าลายไทยที่มันยากขึ้นอะไรแบบนี้ เราก็สามารถวาดได้ ก็เลยกล้าที่จะรับมากขึ้น

แล้วก็พอมีคนเห็นว่าเราวาดได้ ก็เลยเริ่มมีคนมาให้วาดยากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรก ๆ ก็ด้วยความไม่มั่นใจ ลูกค้าก็จะมาแบบสมมติว่ามีเงิน 1,500 บาท ให้วาดตัวนี้ได้ไหม เราก็รับนะ เพราะว่าตอนนั้นเราก็คิดว่าเรายังไม่ค่อยเก่งเท่าไร เราก็เลยวาด ข้อดีของร้านเราเราวาดให้สุดฝีมือ
ช่วงแรก ๆ ก็ราคาไม่ได้สูงครับ ก็ลูกค้ามีงบเท่าไรก็มานั่งคุยกันว่าอยากได้แบบนี้ เราก็วาดให้ แล้วพอไปลง TikTok อีก มันก็เป็นกระแสขึ้นมาอีก ทีนี้มันก็เริ่มมีลูกค้ามาเยอะขึ้น จนคิวเราเริ่มไม่ค่อยไหว มันเยอะครับ เราก็เลยขอราคาแพงขึ้น เราก็คิดของเราเนอะว่าแพงขึ้นประมาณนี้โอเคไหม แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าก็ตกลงหมดเลย ไม่ค่อยมีใครปฏิเสธครับ ราคามันก็เลยเริ่มโดดขึ้นมา เพราะว่าตัวเราเองเราทำไม่ทันด้วยครับ แต่ละชิ้นมันใช้เวลาหลายชั่วโมง คิวมันก็เริ่มยาวขึ้น เราก็เลยคิดว่าปรับราคาขึ้นไหม ก็เลยเป็นบันไดขึ้นมาเรื่อย ๆ เราก็เก่งขึ้น มั่นใจในฝีมือของเรามากขึ้นว่าลูกค้าน่าจะโอเคแล้วก็ประทับใจครับ นี่แหละครับเป็นจุดเริ่มต้น เรื่อย ๆ มาจนถึงทุกวันนี้ครับ
ขายมานานเท่าไรแล้ว ภาพรวมของร้านเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ใครคือลูกค้าเรา
ขายมาได้ประมาณ 2 ปีกว่าครับ ตั้งแต่โควิดรอบสุดท้ายนั่นแหละครับ ปกติถ้าวาดการ์ตูนทั่วไปหน้าร้าน มันจะเป็นการ์ตูนง่าย ๆ ตัวละ 60 บาท เราสามารถวาดได้วันละหลายร้อยตัวครับ แต่ว่าคิวที่รับเนี่ย ปกตินะจะรับไม่เกิน 200 ครับ เพราะว่ามันค่อนข้างเยอะ แล้วก็ตลาดมีเวลาจำกัด ตั้งแต่เปิดร้านเร็วสุดได้ก็ห้าโมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน เที่ยงคืนครึ่งเริ่มเก็บ แต่ว่าตลาดจะปิดไฟตีหนึ่ง บางทีถ้าคิวยาวเราก็รันให้จนถึงตีหนึ่งเลยครับ จนกว่าตลาดเขาจะปิดไฟ

ส่วนเรื่องรายได้ ตอนแรกเราก็คิดว่ามันก็คงไม่ได้แบบบูมอะไรมากครับ การเตรียมแป้งของเราก็เตรียมมาไม่ได้เยอะ ก็ขายได้ประมาณ 4 หลักครับ แต่ว่าตอนหลัง ๆ รู้สึกมันไม่พอในแต่ละวัน เราก็เลยเพิ่มขึ้นมา ตอนแรกก็เพิ่มขึ้นมาแค่ครึ่งของครึ่งมันก็ยังหมดอีก เราก็เลยเพิ่มอีกเท่าตัวจนมันอยู่ตัว รายได้ต่อวันก็ 4-5 หลักเลยครับ แล้วแต่วัน แล้วแต่เราวาดได้แค่ไหน แต่ว่าถ้างานลายไทยยาก ๆ ที่แพง ๆ ก็คือบางทีต้องสั่งแล้วก็นัดรับอีกทีครับ เพราะว่าวาดให้ตรงนั้นมันไม่ทัน แล้วมันจะวาดอะไรอีกแทบไม่ได้เลย
สำหรับงานตัวที่แพงสุดก็คือหลักหมื่นครับ หมื่นกว่าก็คือรวมกรอบที่เขาใส่ด้วย อันนี้คือชิ้นเดียว แต่ว่าเคยแบบว่าวาดชิ้นละประมาณ 3-4 พัน หลาย ๆ ชิ้น ในเจ้าเดียวก็เคย คือยอดรวมก็อาจจะเกินหมื่น แต่ว่าชิ้นที่แพงที่สุดก็คือชิ้นเดียว ประมาณหนึ่งหมื่นครับ แล้วก็มีค่ากรอบอีก ก็ประมาณหมื่นสองพันกว่า ๆ ครับ

ลูกค้าที่ร้านก็มีหลากหลายมากเลยครับ เยอะมาก ตั้งแต่เด็กไปจนถึงพวกบรรดาเซเลบ พวกหมาแมวเซเลบก็เป็นลูกค้าหมด แล้วก็คนที่เขาทำเพจ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้เพจที่เขามีผู้ติดตามเยอะ ๆ ส่วนใหญ่ก็จะมาให้วาด ก็แบบวาดทั้งรูปตัวเองบ้าง โลโก้เพจบ้าง พวกหมาแมวก็เริ่มเป็นไวรัล อย่าง “หมาสนิม” ตอนนั้นยอดวิวก็ไปเกือบ 10 ล้าน “แมว หวานขยะเปียก” ก็เกือบ 10 ล้านเหมือนกัน ก็เลยมีคนเอาสัตว์เลี้ยงมาวาด แล้วก็จะมีแบบเซเลบช่องต่าง ๆ พวกที่เขาเป็นสัตว์ อย่าง “วอแวเป็ดมีผม” ก็มาให้วาด จริง ๆ มีเยอะเลยครับ ก็เริ่มเป็นกระแสว่าสัตว์เลี้ยงก็ได้นะอะไรงี้
ส่วนลูกค้าต่างชาติมีไม่บ่อยมากครับ แต่ว่าเขามีความตั้งใจมาก เขาแบบว่าเห็นจากเพื่อนเขา เขาก็บินมาที่นี่เพื่อที่จะมาซื้อ แต่ว่าไม่ได้บ่อยมากครับ อย่างน้องคนล่าสุดเขาก็เห็นใน TikTok เขาก็มาจากอังกฤษ เขาก็บอกอยู่ว่าเขาตั้งใจบินมาเลยนะ มีแพลนมาเที่ยวเมืองไทยก็เพื่อที่จะอยากมาให้วาด อยากจะได้ผลงานแล้วเอากลับไป คือเขาจะมีความตั้งใจมาก มุ่งมั่นมาก ตั้งใจมาให้ถึงจริง ๆ
การวาดภาพคือจุดขายของเรา เราได้พัฒนาทักษะในการวาดภาพอย่างไรบ้าง
ก็คือเราจะมีเทคนิคของเราครับ ก็คือปกติเนี่ย เวลาคนวาด ไม่ว่าจะเป็นการวาดอะไรนะครับ วาดบนกระดาษก็จะมีมือฝั่งหนึ่งอะครับที่เท้าอยู่บนพื้นเวลาวาด ทีนี้เตาแพนเค้กมันจะร้อนครับ ถ้าจะทำแบบนั้นคือต้องมีอุปกรณ์มาวางพาดบนเตาอีกทีเพื่อที่จะเอามือเราวางได้ เพื่อที่การวาดจะเหมือนกับการวาดด้วยดินสอปากกาให้มากที่สุด ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นก็คือคนอื่นที่เขาพยายามวาด เขาจะเป็นแบบนั้น แต่ลักษณะของผมคือเราสามารถที่จะวาดแบบมือลอยขึ้นมา คนละแบบกับพื้นฐานที่ทุกคนทั่วไปที่เข้าใจอะครับ ว่าการวาดมันต้องเอามือที่จะทาบบนพื้นนะแล้วก็วาด เราสามารถที่จะเอามือวาดลอย แล้วเราสามารถที่จะแก้ไขตรงไหนก็ได้

การวาดที่บอกอันแรกอะครับที่ต้องเอาอะไรมารองที่มือ ก็คือเขาจะวาดจากขวาไปซ้าย หรือซ้ายไปขวา แล้วแต่คนถนัด แต่ว่าถ้าเขาจะมาแก้ไขในส่วนที่วาดไปแล้วมันยากครับ เพราะว่าต้องเอาตัวรองมาวางทับชิ้นงานของเขาอีกที นึกภาพออกไหมครับ นั่นแหละครับ มันก็คืออุปสรรคของคนทั่วไป แต่ของเรา วิธีการวาดมันเหนือชั้นไปกว่านั้นแล้วครับ เราสามารถจะวาดตรงไหนก็ได้ เราสามารถจับเข็มจิ้มไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของเตาก็ได้ เพราะว่าตัวความร้อนมันก็มีขึ้นมา แต่ว่าเราก็อาศัยคความชำนาญแล้วก็ทนเอา แล้วก็วาดตรงจุดไหนก็ได้ มันก็เลยทำให้การวาดผลงานมันสามารถที่จะหลากหลายมากขึ้น พัฒนามากขึ้น ละเอียดได้มากขึ้นครับ
อันที่จริง เรามีสอนวาดด้วยนะครับ มีคนมาเรียนอยู่ ก็มีสอนไปหลายคนอยู่ครับ แต่ว่าบางคนเขาก็เอาไปใช้งานจริง บางคนเขาก็แค่อยากวาดแบบเหมือนให้ลูกเขาได้ลองวาดอะครับ เคยมีเด็กนักเรียนเขามาวาด ตอนแรกเขาจะเอาไปวาดขายในงานโรงเรียน เขาก็มาให้สอน เป็นตัวการ์ตูนที่ไม่ได้ยากมากแล้วก็มาใส่สี ทีนี้พอเขาเอาไปขายในงานโรงเรียนมันก็ขายดีครับ ค่อนข้างว้าวเลย พอน้องเขาเรียนจบชั้นปวช. มา เขาก็เลยออกไปขายแพนเค้กแทน เพราะรายได้เขาค่อนข้างเยอะ แล้วเขาก็คิดว่าเขาได้เงินก้อนมาสักก้อนเขาก็อาจจะกลับไปเรียนต่อ แต่ว่าตอนนี้ก็ดูแลตัวเอง สร้างรายได้ได้แล้วครับ ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ขายได้ก็เยอะเหมือนกัน แต่ว่าจะวาดแค่ตัวการ์ตูนง่าย ๆ ครับ

พวกผมทำเพราะใจรักแล้วก็ความชอบ เราพยายามหาเทคนิคจากคนรอบตัวด้วย จากสื่อด้วย หรืออะไร แต่ว่าคนที่ให้คำแนะนำในการวาดก็มีครับ ก็เป็นคนที่เขาเรียนทางด้านศิลปะมาโดยตรง ก็จะเป็นน้องโซคูล (พรหมพัฒน์ โชติสิรดานันท์) ที่เขาพิการแขนขาครับ ที่เขาใช้ปากวาดรูป เขาก็จะคอยแนะนำว่าต้องวาดตรงนี้ ตรงนี้ต้องปรับแก้ แรก ๆ เราวาดออกมามันก็ไม่ได้สวยมากหรอกครับ มันก็เหมือนว่าใช้ประสบการณ์ครับวาด
คือแป้งแพนเค้กอะ เราไม่สามารถที่จะเห็นงานวาดเหมือนงานวาดบนกระดาษอะครับ เห็นแล้วเรามานั่งลบ เรามานั่งแก้ แป้งแพนเค้กวาดรวดเดียวจบครับ พลิกมาสวยคือสวย พลิกมาไม่สวยคือไม่สวย มันไม่สามารถที่จะมาดูได้ว่าตรงนี้มันเบี้ยว มันไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ มันต้องวาดให้เสร็จแล้วพลิกครั้งเดียวถึงจะรู้ว่าออกมาแล้วมันสวยไหม มันก็ค่อนข้างใช้ประสบการณ์เยอะอยู่เหมือนกันครับ แรก ๆ มันก็ไม่ได้สวยครับ มันมีพลาดตรงจุดนั้นจุดนี้ แต่ตอนหลังเรารู้ว่าตรงไหนพลาด เราก็พยายามปรับแก้ให้ได้มากที่สุด งานมันก็จะดีขึ้น
ขั้นตอนไหนที่ยากที่สุดในการวาด
จริง ๆ มันยากตั้งแต่ร่างภาพแล้วครับ ร่างเส้นเนี่ยไม่ใช่ธรรมดาเลยครับ ค่อนข้างยากแล้วก็รายละเอียดเยอะ แค่เฉพาะตอนร่างเส้นก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงครับ ปกติที่วาดเนี่ยลายไทยทั่วไปตัวอื่นที่ราคาไม่สูงขนาดนี้ เราร่างแค่ชั่วโมงเดียวบางทีก็เสร็จแล้ว ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่ตัวนี้ไม่ใช่ครับ มันนานครับ กว่าจะเสร็จ เท่าที่ร่างนี่ 2 ชั่วโมงแล้วครับ ยังไม่เสร็จเลย เราก็ค่อย ๆ ร่างไปเรื่อย ๆ

อีกทีคือตอนพลิกชิ้นแป้ง ยิ่งใหญ่มันยิ่งยากครับ ถ้าอันเล็ก เราก็สามารถใช้เกียงอันเล็กประคองแล้วก็พลิก แต่ว่าอันใหญ่เนี่ย ใช้เกียงอันเล็กไม่ได้แน่ ไม่อย่างนั้นขาด เราก็ต้องทำเกียงแบบไซซ์พิเศษขึ้นมาให้มันพลิกได้ครับ ก็คือมันจะใหญ่มากพอสมควรเหมือนกัน แต่ว่าใหญ่มากก็ยังเสี่ยงขาดนะครับ มันต้องคุมไฟให้แป้งมันสุกจริง ๆ เคยมีครับแบบว่าลูกค้าเร่งมางานรีบ เราก็วาดเสร็จแล้ว อยากพลิกขึ้นมาแล้ว สรุปขาดครับ! วาดใหม่! อันนั้นก็เป็นประสบการณ์ที่ต้องจำเลยครับว่าเรารีบไม่ได้ เราเร่งไม่ได้ ราคา 3,500 บาทครับชิ้นนั้น ต้องมาเริ่มวาดใหม่
เราลองผิดลองถูกหลาย ๆ อย่างครับ เราก็พยายามหาอะไรมาใช้ ใช้แบบนี้ ๆ ดีไหม ข้อดี-ข้อเสียของการใช้แบบนี้มันคืออะไร เราก็ลองจนมันมีประสบการณ์ มันชำนาญขึ้น เราก็สรุปกันว่าแบบนี้มันได้นะ แล้วถ้ามันใหญ่กว่านี้เราต้องใช้วิธีไหน ก็คือแบบมันต้องดัดแปลงไปเรื่อย ๆ ครับ แต่ว่ามันก็จะมีพื้นฐานเดิมอยู่ว่าแบบนี้เราเคยทำได้ บางทีพลิกด้วยตัวคนเดียวก็ไม่ได้ อาจต้องช่วยกัน 2 คน แล้วก็ช่วยกันสอดให้มันลึกขึ้น ให้มันได้บาลานซ์แล้วค่อยพลิก อะไรอย่างนี้ครับ อาจจะวุ่นวายนิดนึง แต่ว่าจากประสบการณ์ก็ฝึกไปเรื่อย ๆ ครับ

แล้วการวาดคือทุกอย่างต้องกลับด้านหมดครับ ก็คือการวาดสะท้อนกระจก คือพลิกมาก็จะได้เป็นด้านปกติแบบที่เขาต้องการ แรก ๆ มันก็ยากนะครับ มันก็เป็นปัญหา แม้กระทั่งตัวหนังสือ แต่ถ้าเราวาดไปเรื่อย ๆ วาดไปเยอะขึ้น มันเริ่มมองออกครับ ซ้ายไปขวา เราเริ่มงี้ครับ มันเป็นจุดเล็ก ๆ สมมติเป็นวงกลมก่อนนะครับ เอาแค่ดวงตานะครับ ตาเขามองไปทางซ้าย เราก็วาดกลับมาแค่เป็นทางขวาแค่นั้นเอง แต่ถ้ามันอยู่ตรงกลาง เราก็วาดอยู่ตรงกลางได้ปกติ อันนี้อธิบายแค่ดวงตานะครับ ส่วนอื่น ๆ เราก็ดูเอา แล้วก็ประยุกต์เอาครับว่ามันจะต้องเป็นแบบไหน ควรจะอยู่ยังไง แต่ถ้าวาดเยอะ ๆ วาดเรื่อย ๆ มันก็จะทำได้เองครับ
แต่ก็มีพลาดเหมือนกันนะครับ ช่วงแรก ๆ ยังสับสนอยู่ อย่างตัวหนังสือ บางตัวเราคิดว่าเรากลับแล้ว แต่มันยังไม่ได้กลับ มีเหมือนกันครับ แต่ว่าถ้าเราทำไปเรื่อย ๆ ทำบ่อย ๆ มันก็จะได้
วาดภาพบนกระดาษกับวาดแพนเค้กบนเตา ความยากมันต่างกัน!
สมมติว่าวงกลมเนี่ย การที่วาดแบบเอามือเท้า วาดวงกลม วาดสี่เหลี่ยม มันจะง่ายกว่าครับ แต่ว่าอันนี้ต้องฝึกแล้วก็ใช้ความชำนาญเพิ่มมากขึ้น แรก ๆ มันก็ไม่ค่อยได้ครับ แต่ว่าเราก็ต้องฝึกไปเรื่อย ๆ จนเรารู้สึกว่าชินกับมัน แล้วก็รู้จุดที่วาดต้องวาดแบบนี้
ตัวแพนเค้ก เส้นเนี่ยมันจะไม่เหมือนเส้นดินสอที่เราขีดไปแล้วมันจะเท่ากันตลอด ตัวแพนเค้ก แป้งที่ไหลมามันมีเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลกด้วยนะครับ คือมันหยดแล้วมันแรงกว่าปกติ เราก็ต้องดูครับ สามารถที่จะบีบเป็นบางจังหวะ บางจังหวะก็บีบไม่ได้ คือต้องฝึก แล้วเดี๋ยวถ้าวาดไปเรื่อย ๆ มันจะเริ่มรู้ครับ คือที่ผมบอกแรงโน้มถ่วงของโลก คือบางทีเราคว่ำเข็มไว้เฉย ๆ มันก็ไหลออกมาเลยครับ ยังไม่ทันจะได้บีบเลย เราก็ต้องดูจังหวะให้เส้นบาลานซ์ที่สุดครับ
เวลาวาดงานตัวยาก ๆ ที่ใช้เวลานาน ก็มีพักบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่ก็คือแทบจะต้องต่อเนื่องครับ ต้องตั้งใจวาดไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราแบบมันช่วงที่ว่าเมื่อยแล้ว ต้องหยุดได้สักแป๊บนึงครับแล้วค่อยวาดต่อ เราต้องคุมอุณหภูมิครับ เรื่องการคุมอุณหภูมิก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ แรก ๆ การคุมอุณหภูมิก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะว่าบางทีเราคิดว่างานเราจะวาดเสร็จใน 10 นาทีเนอะ แต่ว่ามันก็ไม่เสร็จ และอีกอย่างเวลาที่วาดมันก็ไม่ได้มีงานเดียว มันลูกค้ามีคนอื่นด้วย ปกติที่ร้านจะมีคนวาด 2 คนอยู่แล้วนะครับ ก็คือมีริน (คุณริน นิรินธนา ทองศร) แล้วก็ผมสิงโตอีกคน

เวลาลูกค้ามานะครับ 1 เตา เตาใหญ่ของเราเนี่ย วาดได้ 6 ตัว บางทีก็คือแบ่งส่วนที่วาด บางตัวรายละเอียดเยอะกว่า มันก็ยังไม่เสร็จ แต่ว่าตัวที่วาดง่าย ๆ มันเสร็จไปแล้ว ก็คือต้องให้สุก ต้องทำไฟให้อยู่ในระดับให้แป้งสุก แต่ว่ามันจะมีผลกับอีกตัวที่เรายังวาดไม่เสร็จด้วย บางทีก็ไหม้ครับ ก็เป็นปัญหาอยู่ แต่ว่าตอนหลัง ๆ เราก็ทำให้มันบาลานซ์กัน ก็คือต้องคุมไฟให้ตัวที่ยังวาดไม่เสร็จให้อยู่ในขั้นตอนที่ไฟยังไม่แรงมาก แต่ว่าเราก็จะเร่งการวาดให้มันใกล้เคียงจะได้เสร็จพร้อม ๆ กัน เพื่อที่จะคุมไฟแล้วก็ทำให้มันเสร็จได้พร้อม ๆ กันอย่างนี้ครับ ต้องพยายามดูหน้างาน ดูงานแล้วก็วิเคราะห์ครับ ก็คือไฟฝั่งหนึ่งของเราเนี่ยสามารถที่จะให้มันไม่ร้อนมาก อีกฝั่งหนึ่งร้อนกว่าก็ได้ครับ
แรก ๆ คือถ้างานเสีย ไหม้ ขาด เวลาพลิกมามีเหมือนกันนะครับ คือเรารีบพลิกแล้วขาด เราก็ต้องวาดให้ลูกค้าใหม่แล้วก็ให้เขาไปทั้ง 2 ชิ้นทั้งหมดเลย คือเราก็ไม่ได้เก็บไว้ ส่วนใหญ่ลูกค้าก็โอเคครับ เขาบอกว่ามันกินได้ มันอาจจะเกรียม คือมันไม่สวย แต่มันกินได้ เราก็จะให้ไปทั้งหมดเลย แรก ๆ ก็จะรับผิดชอบแบบนี้ แล้วมันก็มีอีกเหมือนกันที่ลูกค้าเขาเอาไปลงว่าร้านใจดีเนอะ คือวาดเสีย งานเขาแก้ให้ใหม่แล้วเขาให้หมดเลย ก็เป็นไวรัลอีกครับ ก็มีลูกค้ามาอีกครับ ตามมาเพราะว่าตรงนี้ก็มีเหมือนกัน เพราะเรารับผิดชอบงานไปเลย แรก ๆ มีอุปสรรคเยอะครับ เยอะมาก ๆ เลย แต่ก็สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ จนแบบถึงทุกวันนี้มันก็ดีขึ้น
ผลงานไหนที่ยากที่สุด ใช้เวลาทำนานเท่าไร
ยากที่สุดก็น่าจะเป็นอันที่เป็นไวรัลล่าสุดครับ ตัวทศกัณฐ์ ใช้เวลา 13 ชั่วโมง แล้วก็รายละเอียดค่อนข้างเยอะ ที่ยากก็คือลูกค้าเขาเห็นงานเก่าเราที่มันเป็นแป้งแพนเค้กธรรมดาใช่ไหมครับ ก็มีสีเขียว สีเหลือง สีแดง อะไรอย่างงี้ เขาบอกว่าขอเป็นสีทองที่เป็นทองฟู้ดเกรด ซึ่งการใส่ทองแบบนี้มันต้องใช้พู่กันอะครับ แต้มลงไปที่ตัวหน้างานแพนเค้กก่อน แล้วค่อยลงแป้งทับทีหลัง
ขั้นตอนมันก็เยอะขึ้น แล้วก็ยากขึ้นด้วย เราต้องใช้พู่กันเล็ก ๆ มาจิ้มตรงรายละเอียดที่เขาอยากให้เป็นทอง เพราะว่าตัวเครื่องประดับของลายไทยอะครับ มันก็จะมีทองบางส่วน แล้วก็ไม่ใช่แค่ทอง มันยังต้องแบบไฮไลต์สีอื่น มันไม่ใช่ว่าลงทองแล้วปืดเดียวแล้วเสร็จ ไม่ใช่นะครับ มันต้องไฮไลต์สีอื่น ๆ แล้วก็มาลงมองแล้วก็มาลงแป้ง ซึ่งมันกินเวลาแล้วมันก็ช้าด้วยครับ มันก็เลยทำให้มันแพงขึ้นด้วยครับ เพราะว่ากรรมวิธีมันยากขึ้น

ทศกัณฐ์ตัวนี้ราคาอยู่ที่ 10,000 บาทครับ แล้วก็มีกรอบด้วย ปกติงานวาดชิ้นเดียวยังไม่เคยถึงหมื่น เพราะว่าบางทีตีราคาอยู่ 6,000 7,000 8,000 ราคา 3,500 อันนี้คือบ่อย ก็จะไม่ค่อยถึงหมื่น แต่ทีนี้เขาขอมาว่าอยากได้ที่มันเหนือกว่างานเก่า ๆ ก็คืออยากให้มันเป็นทองเลยจริง ๆ ให้สีมันออกทองเลย แล้วรายละเอียดก็ยังคงเดิม ตอนแรกเราก็คิดนะว่ามันจะได้ไหม แต่ว่าก็อย่างที่ว่าอะครับ เราไม่ค่อยปฏิเสธงาน ก็เลยลองทำดู
แต่ว่าเราก็ขอเขานะ คือถ้าอย่างนี้เราก็ต้องใช้เวลามากขึ้นแล้วมันน่าจะยากขึ้น ก็คือตอนที่ตีราคาเราก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ เราก็ขอหนึ่งหมื่น เขาก็บอกว่าหมื่นนึงก็หมื่นนึงสิ (หัวเราะ) เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เขาก็ตกลงง่ายจนเราคิดราคาแบบไม่มั่นใจอะครับ เพราะปกติชิ้นงานเรายังไม่เคยถึงไงครับ แต่พอตีราคาไปเขาก็ไม่ได้อะไร หมื่นนึงก็หมื่นนึง เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรเรื่องเงิน เราก็เลยโอเค ทำให้เขา
ทำไมถึงมีคนยอมจ่ายเงินซื้อแพนเค้กลายไทยในราคาหลักพันหลักหมื่น
คืออย่างนี้ครับ โดยปกติงานศิลปะเนี่ย มูลค่าถ้าเทียบกันตามผลงานจริง ๆ ของคนที่ยังไม่มีชื่อเสียงกับคนมีชื่อเสียง มันก็มีราคาในเรตของมัน ของผมนี่นะถ้าเทียบกันในระดับที่วาดแค่รูปคน ยังไม่ต้องมาถึงขั้นงานศิลปะนะครับ วาดรูปคนที่มีสี ไม่ว่าจะสีอะไรนะครับ มันต้องมีราคา 1,500-2,000 บาทของคนทั่วไป แต่วาดบนแพนเค้กอะ ราคาเรายังอยู่ที่แค่ 500 หรือ 300 บางที 700 คือเต็มที่เลย เขาก็รู้สึกว่าในราคาแบบนี้ที่ถูกกว่าเกินครึ่ง แล้วยังสามารถเก็บผลงานไว้ได้ มีวิธีเก็บได้ ส่วนที่ผมบอกเรื่องศิลปะข้างต้นที่ใส่กรอบ ซึ่งราคาค่ากรอบมันก็เท่ากันครับ

มันก็เลยกลายเป็นว่างานแพนเค้กเนี่ยมันเป็นงานศิลปะ สำหรับเขามันก็ดูน่าทึ่ง มีคุณค่ามากกว่า แล้วมีความยากมากกว่า แต่ทำไมราคามันยังถูกกว่า เขาก็เลยเริ่มรู้สึกว่าในชิ้นงาน สมมติว่าเป็นงานยาก ๆ อย่างพวกทศกัณฐ์ ถ้าไปสั่งงานวาดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงหรือไม่มีชื่อเสียงนะครับ แต่ว่าถ้าเขาตีราคามาเนี่ย ถ้ารายละเอียดเยอะราคามันเป็นหมื่นอยู่แล้วครับ แต่ว่าเขามาวาดบนแพนเค้กแล้วเขารู้สึกว่ามันว้าวกว่า แล้วก็ยังสามารถเก็บได้เหมือนกัน
แล้วก็อีกอย่างที่เขาคิด อนาคตตัวเรางี้ครับ เขาดูแนวโน้มของเราละว่าถ้าเราวาดได้ขนาดนี้ อนาคตเราอาจจะมีชื่อเสียง แล้วชิ้นงานของเราชิ้นแรก ๆ ที่เขาเก็บไว้ มันก็อาจจะมีราคามากขึ้นในอนาคต ที่เขาคิดกันไว้ แล้วเขาก็ยอมจ่ายและก็กล้าที่จะจ่าย เพราะว่าเขาคิดว่าเราจะอยู่ในวงการนี้อีกนาน แล้วก็จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ครับ อนาคตเขาอาจจะวาดรูปเดียวกันที่เคยวาดให้เขา มันอาจจะแพงขึ้นมากกว่าตอนที่เขาวาดก็ได้ครับ
คือโดยงานศิลปะอะครับ คนวาดในวงการเนี่ย ก็คือถ้าวาดมา ปีต่อไปส่วนใหญ่ผลงานเขาจะขึ้นราคา 5-10 เปอร์เซ็นต์ โดยปกติของศิลปินอยู่แล้ว อันนี้คือเป็นปกติมาตรฐานเลย เพราะราคาเขาจะขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนเขามีประสบการณ์มากขึ้น เขาเก่งมากขึ้น ราคาก็จะอัป ๆ ของที่ร้านก็เหมือนกันครับ ราคาเมื่อปีที่แล้วกับราคาปีนี้ก็ต่างกันนะครับ ปีที่แล้วก็จะถูกกว่า
วิธีเก็บแป้งแพนเค้กในฐานะผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
ตัวแพนเค้กเนี่ย อุปสรรคของแพนเค้กเลย มันก็มีศัตรูโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ก็คือมด หนู แล้วก็ความชื้น ปกติแพนเค้กที่เป็นงานอาร์ต งานศิลปะที่เก็บไว้ เราซีลเรียบร้อยแล้ว ยังไงก็อยากให้หลีกเลี่ยงความชื้นอยู่ดี การอยู่ในห้องแอร์มันก็เสี่ยงครับ มีโอกาสที่จะขึ้นรา แม้ว่าเราจะพยายามกันทุกอย่างแล้วครับ แต่ว่าโดยปกติถ้าอยู่ในห้องที่อุณหภูมิปกติ ไม่ได้แอร์อะไรขนาดนั้น ก็ดูจากชิ้นงานที่วาดแล้วเก็บไว้นานมาก ๆ ก็ยังปกติดีครับ แต่ว่าก็อย่างที่บอก การที่จะกันมด หนู ก็มีวิธีอย่างการใส่กรอบหรือราดน้ำยาเรซินครับ แต่ว่าถ้าคนอยากจะเก็บ ผมก็อยากให้ซีลสุญญากาศไป มันจะช่วยได้เยอะ แต่อันนี้ต้องเก็บรักษาด้วยการแช่ช่องฟรีซเลย ถ้าอยากเอาชิ้นงานออกมาดูก็เอาออกมา
ค่าซีลสุญญากาศมันจะถูกมากครับ ชิ้นนึงประมาณ 10-30 บาท มันไม่ได้แพง แล้วตัวงานก็ยังเก็บได้เหมือนเดิม แต่ว่าถ้าซีลเนี่ย ปกติมันเป็นวิธีการถนอมอาหารที่จะสามารถอยู่แล้วเก็บไว้ทานได้นานขึ้น ปกติครับ ถ้าซีลแล้วจะเก็บไว้ทาน ก็จะให้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่ถ้าเกิน 2 สัปดาห์ก็ไม่แนะนำให้ทานแล้วครับ ให้เก็บไว้ดูอย่างเดียว

เวลาเข้าฟรีซ เท่าที่ดูนะครับ สีก็ยังได้อยู่ปกติ แล้วอีกอย่างนึงก็ไม่เป็นราด้วย เพราะว่ามันอยู่ในสุญญากาศแล้วก็เย็น ก็คือก็ทดลอง จริง ๆ เป็นการลองผิดลองถูกแล้วก็ทดลองหลาย ๆ อย่างครับ ว่าจะทำยังไงได้บ้าง โดยปกติแพนเค้กที่โชว์หน้าร้านเราก็เป็นแพนเค้กจริงเหมือนกันครับ แต่ว่าอันนี้เราจะเก็บในอุณหภูมิปกติเพื่อให้มันแข็ง แล้วก็เอามาโชว์หน้าร้าน ก็คือระวังมดระวังหนู ตัวที่แข็ง เป็นปีก็ยังอยู่ได้แบบนั้นเลยครับ พวกที่เอาไว้โชว์หน้าร้าน มาดูที่หน้าร้านได้ แต่ว่าที่เราต้องเปลี่ยนเพราะว่าลูกค้าบางทีเขาจับเยอะครับ มันเริ่มดำขึ้น เราก็ต้องวาดใหม่เปลี่ยน แต่ว่าตัวแพนเค้กถ้าเก็บไว้ดูเฉย ๆ มันก็ยังอยู่ได้นะครับ
แล้วก็มีลูกค้าหลายคนเขาเก็บรักษาเหมือนตัวโชว์ของเรา เขาก็ยังเก็บแล้วก็อยู่ได้ครับ คือวิธีการมันก็มีเยอะ เราก็ลองผิดลองถูกจากประสบการณ์ครับ ว่าแบบนี้ได้นะแบบนี้ไม่ได้นะแล้วก็แนะนำลูกค้า ลูกค้าสงสัยอะไรเขาก็สามารถที่จะสอบถามเข้ามาในเพจ เราก็จะบอกตามที่เรารู้แล้วก็ประสบการณ์ของเรา ก็บอกเขา ไม่ได้มีแบบว่ากั๊กอะไรครับ
จริง ๆ ก็มีขายแบบพร้อมกรอบด้วยครับ ตัวกรอบตอนแรกเราก็ไปคุยกับที่เขาทำ ส่วนใหญ่แล้วตามร้านทั่วไปจะค่อนข้างบวกราคาสูง ค่อนข้างแพง แพงเลยแหละครับกรอบรูปถ้าจะสั่งทำ เราก็เลยรู้สึกว่าอย่างนี้เราลองคุยกับโรงงานดูไหม แล้วให้โรงงานเขาแนะนำ เพราะเราอยากให้มันถูกลง ตัวโรงงานเขาก็เป็นโรงงานที่เขาขายไม้อย่างเดียว เขาก็แนะนำมาครับว่ามีเครื่องตัวนี้แบบนี้ ใช้แบบนี้ แล้วก็สามารถทำได้ เราก็ด้วยความที่เป็นคนอยากลองหมด เราก็ลองครับ เอาไม้เขามาทำตามที่เขาบอก มันก็สามารถที่จะทำแล้วขึ้นเป็นกรอบได้

ก็น่าจะเป็นร้านเดียวมั้งครับที่สามารถทำกรอบได้ด้วย มันประหยัดไปเยอะ แล้วก็ประหยัดลงไปให้ลูกค้าอีกด้วยครับ มันก็จะทำให้ลูกค้าเขารู้สึกว่าเขาไม่ต้องไปจ่ายเยอะ หรือเขาอะวาดกับเรา แล้วถ้าเขาเอาไปใส่เองมันก็ค่อนข้างแพงครับ เคยมีลูกค้าแบบมาวาดแล้วเขาก็ไปจ้างที่ร้าน โอ้โห! เขาคิดแบบแพงเลย เขาก็เลยกลับมา คือมันแพงกว่าค่าแพนเค้ก เราก็เลยแนนำในส่วนที่ทำได้ แล้วก็ตัวกรอบ เรามาคุยกันจริง ๆ ถ้าเราทำเองมันไม่ถึงราคาที่ไปจ้างเขาทำครับ เราก็เลยทำให้เขาในราคาที่ไม่ได้แพง ถูกกว่าแพนเค้กด้วย ที่เขาไปเช็กมาคือแพง แพงเยอะเลยครับ เราก็เลยทำให้เขา แล้วเขาก็โอเค แฮปปี้ครับ
ภูมิใจในผลงานชิ้นไหนมากที่สุด
จริง ๆ มันมีหลายผลงานครับ ส่วนใหญ่ครับที่ดีใจ ภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่ว่าเวลาที่คนรับเขารู้สึกดีใจ ต่อให้เป็นเด็กน้อย เขาจะดีใจมาก ๆ คือเด็กน้อยเนี่ย ความต้องการอยากได้ตัวการ์ตูนในดวงใจเขา บางทีพ่อแม่ก็อนุญาตบ้างไม่อนุญาตบ้างที่จะให้ซื้อ บางคนเขาก็ให้ลูกได้ซื้อ แต่ว่าพอเราพลิกมา เด็กเขาก็จะดีใจแบบกรี๊ดลั่นร้านเลย มีความสุขมาก กระโดด พอได้ไปก็เอาแต่พูดว่าหนูไม่กล้ากินเลย เราก็ต้องบอกว่ากินได้ครับ กินเถอะ เดี๋ยวถ้าวันหลังอยากจะได้อีก เดี๋ยววาดใหม่อะไรอย่างนี้ครับ

งานที่ภูมิใจ ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ลูกค้าเขาค่อนข้างดีใจ แล้วก็มีงานของคนที่เขาเป็นเซเลบของเกาหลีมั้งครับที่เขามาวาด ก็ลงใน TikTok ก็วิวเยอะครับ 4 ล้านกว่า วาดออกมาแล้วเขาแบบดีใจมาก มาก ๆ เลย อันนั้นก็เป็นงานที่รู้สึกดี มันก็เป็นตัวการ์ตูนตัวหนึ่งครับของ Damon Slayer (ดาบพิฆาตอสูร) ส่วนใหญ่ที่เรารู้สึกดีจากลูกค้ามากกว่า ที่ลูกค้าเขาได้งานเราไปแล้วเขาดีใจมาก คือมันมีหลายชิ้นครับ ก็เลยไม่รู้จะบอกว่าชิ้นไหนเป็นที่สุด แม้กระทั่งเป็นรูปธรรมดาที่แบบเด็ก ๆ มาให้วาด หรือเป็นตัวเซเลบสัตว์
พอเวลาเราได้เห็นว่าเขาเอาไปลงแล้วได้เกือบ 10 ล้านวิว แล้วคนที่เขามาดูมาคอมเมนต์ เขาถูกใจแล้วก็พอใจในชิ้นงานของเราเราก็รู้สึกดีไปด้วย เป็นแบบนั้นมากกว่าครับ เขาก็จะมีรายได้ของเขาด้วยครับ อย่างบางคนเขาเอาไปลงยูทูบ เขาบอกกับเรานะครับว่ามาวาดที่ร้านแล้วเอาไปลงนะ เขาก็มีรายได้เข้ามาหลายหมื่นเลย จากที่มาจ้างเราวาดไม่กี่ร้อยเอง เขาก็พูดเลยนะครับ พูดตรง ๆ ว่าเขาได้ยอดวิวจากยูทูบแล้วเขาก็ได้เงินมา บางทีเขาก็เอาอย่างอื่นมาให้วาด หรือว่าช่องของเพื่อนเขา คนอื่น เขาก็แนะนำ
ช่องทางติดต่อร้าน อยากได้แพนเค้กรูปภาพตามสั่ง ต้องไปที่ไหน
ร้านอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์นะครับ โซนใต้หลังคา โซนที่มีล็อกอาหารเรียงกันหลาย ๆ ช่อง แต่ว่าที่ร้านจะเป็นช่องตรงกลางครับ มันจะเป็นช่องที่คนเดินเข้าแล้วก็เดินผ่านเยอะ ๆ ครับ อาจจะงงนิดนึงถ้าไม่เคยมา แต่ก็สามารถสอบถามจากพ่อค้าแม่ค้าหรือคนในตลาดได้ครับ ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกันหมดว่าร้านไหนอยู่ตรงไหน ร้านเปิดวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ ปกติร้านจะพร้อมวาดคือห้าโมงครึ่ง แต่ถ้าลูกค้ามารอเยอะ มาเร็ว ถ้าเราเร็วได้เราก็จะเร็วให้ แต่ว่าโดยปกติที่บอกไว้ก่อนก็คือห้าโมงครึ่ง-เที่ยงคืน ส่วนเที่ยงคืนบางทีก็ไม่ได้ปิดจริงเที่ยงคืนหรอกครับ มันจะมีคิวแล้วเราก็จะรันไปเรื่อย ๆ จนกว่าไฟตลาดเขาจะปิด
ช่องทางออนไลน์ติดต่อทาง TikTok ก็จะเป็นชื่อ NirinArtYummy ชื่อร้านเลยครับ ชื่อร้านภาษาอังกฤษก็คือ Art Yummy แล้วก็ชื่อภาษาไทยจะเป็นศิลป์อร่อย ก็ความหมายเดียวกัน ศิลปะที่มันอร่อย ก็คือ ศิลป์ อร่อย ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ เป็นช่องทางทาง Facebook ครับ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ 081 5725677 ครับ
ส่วนใครที่อยากให้วาดอะไรนะครับ ก็เอามาให้ดูได้ เราคุยกันได้ครับ เราคุยกันแบบง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ว่าถ้างานที่มันยากจริง ๆ หรือว่ารายละเอียดเยอะ เราก็จะดูตามความยาก เราก็อาจจะตีราคาสูงนิดนึง แต่ว่าค่อนข้างคุ้มแน่นอนครับ เพราะว่าเราพยายามวาดให้เต็มที่แล้วก็ใส่ใจรายละเอียดให้เยอะพอสมควร บางครั้งลูกค้ามาครับ เขาอาจจะคิดว่ามันน่าจะวาดสัก 10-15 นาที แต่วสาดจริง ๆ อะครับขั้นตอนมันเยอะ แล้วมันไม่ใช่ เราก็จะตีตวามความยาก แต่ถ้ามันง่ายจริง ๆ ราคามันก็จะไม่แพงครับ มันก็จะไม่ได้สูงอะไร
อยากฝากอะไรกับผู้อ่านบ้าง

ส่วนเรื่องที่จะฝากถึงคนอ่าน ก็คือแบบว่าถ้าใครที่สนใจอยากจะทำธุรกิจ แนะนำว่าเราต้องค้นหาความชอบของตัวเองก่อนเนอะว่าตัวเราชอบอะไร ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราทำแล้วมันไม่กดดัน มันทำได้ตลอด ทำได้เรื่อย ๆ มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำธุรกิจอะไรก็ตาม
อย่างของเรา คือเราวาดภาพ แล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อกับมัน เรารู้สึกสนุกกับมัน แล้วเราได้เห็นปฎิกิริยาจากลูกค้าเรามีความสุข เรามีความรู้สึกว่าลูกค้าหลาย ๆ คนเขาวิ่งมาหาเราเพื่อที่จะมาขอให้เราช่วยวาดให้ได้ไหม ตอนแรกลูกค้ากลัวครับ กลัวว่าเราจะไม่รับวาด เพราะว่าบางทีมันก็ยาก ยากมาก ๆ แต่ส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยปฏิเสธงานลูกค้านะครับ ก็พยายามวาดให้หมด เขาก็ดีใจ
ตั้งแต่ทำงานมา มันก็ไม่เคยมีนะที่ลูกค้าจะมาขอร้องให้ช่วยทำ คือเวลาเราขายสินค้า เราเป็นพ่อค้าแม่ค้าเราต้องเรียกลูกค้าใช่ไหมครับ เรียกลูกค้าให้มาซื้อ แต่อันนี้ไม่ใช่ ลูกค้าวิ่งมาหาเราแล้วขอให้วาดให้หน่อย วาดให้ได้ไหมจะเอาไปเซอร์ไพรส์เพื่อน จะเอาไปเป็นของขวัญวันเกิด จะเอาไปให้ลูก อะไรอย่างงี้ครับ เยอะมาก ๆ เลย แล้วเราก็ไม่ปฏิเสธเขาอยู่แล้ว ก็อย่างที่บอกครับ ถ้าอยากให้วาดอะไร ลองเข้ามาคุยกันได้ครับ เราจะหาจุดสมดุลสำหรับทั้งคู่ สมมติว่ารูปมันยากเกินไป อาจจะตัดทอนรายละเอียดลงไหม จะโอเคไหมในราคาที่มันลดลงแบบนี้ได้หรือเปล่า ก็คุยกันได้ครับ