“อลอนโซ่ 007” ขับให้เด็กมันดู! 

ภาพจาก FB : Aston Martin Bangkok

หากเอ่ยถึงรถยนต์แบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษอย่าง แอสตัน มาร์ติน คนส่วนใหญ่น่าจะต้องนึกถึงสายลับรหัส 007 ที่ใช้รถยี่ห้อนี้ฝ่าฟันภารกิจมาในภาพยนตร์ทุก ๆ ภาค แต่หากถามไปยังคอความเร็วชั่วโมงนี้ คงต้องนึกถึง เฟร์นานโด อลอนโซ่ นักขับวัย 41 ปี แห่งทีมแอสตัน มาร์ติน ที่สร้างเซอร์ไพรส์ประเดิมเอฟวัน 2023 ด้วยการขึ้นโพเดียมที่บาห์เรนครับ

ไม่น่าเชื่อว่านักขับที่เคยแข่งในยุคเดียวกับ ยอส เวอร์สเต็พเพ่น (พ่อของแม็กซ์ เวอร์สเต็พเพ่น) จะยังคงยืนหยัดอยู่บนเวทีทางเรียบระดับสูงสุดของโลกชนิดที่นักขับรุ่นน้องยังต้องชิดซ้ายครับ โดยเฉพาะผลงานไล่แซงทั้งรถเฟอร์รารี่และเมอร์เซเดส ในการแข่งขันที่บาห์เรน ทั้งที่รถแข่ง AMR23 ของเขาไม่ได้เป็นรถที่เร็วที่สุดในสนาม

ในอดีตเคยมี กฎ 80/20 ที่พูดกันว่าชัยชนะบนสนามเอฟวัน มาจากสมรรถนะของรถ 80 เปอร์เซ็นต์ และ 20 เปอร์เซ็นต์มาจากความสามารถนักขับ แต่มาในยุคหลังเหล่านักขับและกูรูมอเตอร์สปอร์ตต่างมีความเห็นตรงกันว่า ชัยชนะนั้นมาจากฝีมือนักขับกว่าเกินกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงยังมีกลยุทธ์การวางแผนเป็นอีกปัจจัยสำคัญด้วย

นั่นเป็นสิ่งที่อธิบายถึงผลงานและความสามารถของ อลอนโซ่ และทีมงานแอสตัน มาร์ติน ได้เห็นภาพที่สุดครับ โดยเฉพาะตัวนักขับที่ต้องรีดสมรรรถนะของรถออกมาให้ได้มากสุด และไม่จำเป็นที่จะต้องมีรถที่แรงที่สุด แต่ก็สามารถขึ้นโพเดียมอันดับที่ 3 ได้ ถือเป็นโพเดียมแรกของทีม นับจากที่เซบาสเตียน เวทเทล เคยทำได้ที่อาเซอร์ไบจานในปี 2021

ภาพจาก FB : Aston Martin Bangkok

สำหรับผมเติบโตมาในยุคที่ไมเคิล ชูมัคเกอร์ ครองความยิ่งใหญ่ร่วมกับเฟอร์รารี่ และจำได้ดีว่ามีเด็กหนุ่มจากสเปนนามว่า เฟร์นานโด อลอนโซ่ คือคนที่คว้าแชมป์โลกในยุคที่ “ชูมี่” ยังพีค ๆ ได้ถึง 2 สมัยในปี 2005 และ 2006 และมาถึงวันนี้ปี 2023 เขาคือนักขับเอฟวันที่อายุมากที่สุดบนกริดสตาร์ต และประเดิมสนามแรกกับต้นสังกัดใหม่บนโพเดียมอันดับที่ 3

พูดถึง แอสตัน มาร์ติน กับเอฟวัน พวกเขาเคยเข้าร่วมแข่งขันในปี 1959 และ 1960 รวม 6 เรซ แต่ไม่มีแต้มติดมือแม้แต่สนามเดียว ทว่านับจากการรีแบรนด์ดิงทีม Racing Point ในปี 2021 โดยลอว์เรนซ์ สโตรลล์ มหาเศรษฐีชาวแคนาเดียน และบอสใหญ่แอสตัน มาร์ติน เป้าหมายของพวกเขาไม่ได้มาเล่น ๆ แต่ต้องการมาเพื่อล่าแชมป์ให้ได้

หากไม่นับ แลนซ์ สโตรลล์ ลูกชายของเจ้าของทีมซึ่งเป็น 1 ใน 2 นักขับ การจ้าง เซบาสเตียน เวทเทล ในปี 2021 และ 2022 มาจนถึง อลอนโซ่ ในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าทีมต้องการประสบการณ์ของมือเก๋าเข้ามาช่วยยกระดับทีม บวกกับปีนี้มีการดึงผู้อำนวยการด้านเทคนิคมาจากเรดบูลล์ ทำให้ทิศทางของทีมแข่งสัญชาติอังกฤษออกมาดูดีเหลือเกินครับ

แม้พวกเขาจะไม่ได้ทำทีมเองทั้งระบบ (ใช้เครื่องยนต์เมอร์เซเดส) แต่การทำรถให้ขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหัวแถวของฟอร์มูล่า วัน บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะการจะทำให้เวลาต่อรอบให้เร็วขึ้นแค่ 0.1 วินาที บางทียังต้องหาสาเหตุและวิเคราะห์กันเป็นแรมเดือน ซึ่งถ้าผลงานยังยืนระยะติดกลุ่มหัวแถวได้ไปจนถึงสนามในภาคพื้นยุโรป ปีนี้มีลุ้นเป็นทีมแข่งอังกฤษที่ผลงานดีที่สุดเหนือ แม็คลาเรน และวิลเลียมส์ แน่นอน

ภาพจาก FB : Aston Martin Bangkok

ผมเชื่อว่าผลงานจากสนามแข่งจะมีส่วนช่วยให้แบรนด์รถยนต์ยี่ห้อนี้กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง อย่างในบ้านเรา แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ก็เพิ่งเปิดตัว DBX707 ซูเปอร์เอสยูวีระดับหรู เครื่องยนต์เบนซิน วี8 4.0 ลิตร 707 แรงม้าไปหมาด ๆ ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เอฟวันใช้เป็น Medical Car ในปีนี้เสียด้วย เคาะราคาขายเบาะ ๆ ในบ้านเรา 24.9 ล้านบาท

ภาพจาก FB : Aston Martin Bangkok

สำหรับผมคงไม่ต้องลุ้นถึง DBX707 นะครับ แต่สำหรับ “อลอนโซ่  007” ปีนี้มีลุ้นแน่นอน นักขับวัยเกินหลักสี่ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าในกีฬาแข่งรถ คนอายุมากอาจขับรถเร็วไม่เท่าเด็กหนุ่ม แต่สามารถขับให้ชนะเด็กหนุ่มได้ นี่แหละครับที่เรียกว่าขับให้เด็กมันดู! (ซึ่งพี่โซ่ไม่ได้กล่าวไว้ ฮา ๆ)