ขับกระบะครั้งแรกในรอบ 15 ปี

ครั้งล่าสุดที่ผมขับรถกระบะ คงต้องย้อนไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ในยุคนั้นยังเป็นรถเกียร์ธรรมดา ที่จังหวะออกตัวหลายครั้งมักจะออกตัวด้วยเกียร์ 2 เพื่อลดการกระชาก แม้จะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องเพราะกินคลัตช์และเปลืองน้ำมัน แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธครับว่าใช้วิธีแบบนั้นเช่นกัน

จวบจนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเองมีโอกาสได้กลับมาขับกระบะอีกครั้งด้วยรถ โตโยต้า Hilux Revo GR Sport ตัวท็อป ซึ่งเป็นหนึ่งส่วนของรายการ World of Speed ทาง PPTV ที่กำลังจะมีช่วงใหม่ที่ชื่อว่า Journey with Euro สนับสนุนโดย ยูโร่ เค้ก ออนแอร์เดือนกุมภาพันธ์นี้

ครั้งนี้ผมมีโอกาสได้อยู่กับรถคันนี้เกือบ 5 วันเต็ม ๆ บอกเลยว่าเข้าใจคนที่ขับรถกระบะเลยครับ เพราะรถกระบะยุคนี้มีการพัฒนาไปจากสมัยที่ผมเคยขับค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเครื่องยนต์และอัตราเร่ง ที่แม้จังหวะออกตัวจะไม่พุ่งปรู๊ดปร๊าดแบบรถเครื่องยนต์เบนซิน แต่รู้สึกได้ถึงพละกำลังอันเหลือเฟือขณะทำความเร็ว

นั่นทำให้ผมนึกถึงประสบการณ์ที่เคยถูกรถกระบะขับจี้ท้าย ซึ่งก็เชื่อว่าหลายท่านก็น่าจะเคยพบเจอมาเช่นกัน ต้องบอกก่อนนะครับ พวกรถที่ชอบจี้ท้ายชาวบ้าน จริง ๆ ไม่ได้มีแค่รถกระบะ ยังมีรถประเภทอื่นด้วย แต่อาจเป็นเพราะ “กระบะ” มีจำนวนเยอะที่สุดในตลาดบ้านเรา จึงตกเป็นข่าวบ่อยกว่าเท่านั้นเอง

ประกอบกับการที่เป็นรถยกสูงกว่ารถเก๋งทั่วไป ทำให้ทัศนวิสัยในการมองไปข้างหน้าและรอบข้างมีมุมที่กว้างมากกว่าเดิม ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า “เอาอยู่” หากมีการเบรกจากรถคันหน้าซึ่งเป็นรถคันที่เล็กกว่า เพราะเท่าที่สังเกต เรามักจะไม่ค่อยเห็นกระบะขับจี้รถตู้ หรือรถที่สูงและใหญ่กว่าสักเท่าไร

จากที่ผมได้ขับกับกระบะ Revo GR Sport คันนี้ใช้เครื่องยนต์ตัวเดิมจากรุ่นก่อน ก็คือ ดีเซล เทอร์โบ 2,800 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า รู้สึกได้เลยว่าขณะทำความเร็วระดับ 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถที่จะเร่งไปต่อได้อีกตามที่เท้าเราอยากจะเหยียบเลย รวมถึงจังหวะเร่งแซงก็ทำได้สบาย ๆ แบบไม่ต้องลุ้น

ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ที่ขับกระบะ (บางคน) จะมีความมั่นใจเวลาขึ้นไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัย จนบางครั้งอาจจะพลั้งเผลอไปขับจี้ท้ายคันอื่น หรือไปดวลความเร็วกันบนท้องถนนก็มีให้เห็นเช่นกัน ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด สิ่งที่อยากจะย้ำคือ ความปลอดภัยครับ

เพราะรถยกสูง ต่อให้พัฒนาช่วงล่างมาดี การทรงตัวย่อมไม่เท่ารถเก๋ง หากเกิดเหตุกะทันหันในช่วงความเร็วสูง มีโอกาสพลาดง่ายกว่า เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยที่ในบางรุ่นไม่ได้ให้มาครบเหมือนกับรุ่นท็อป นั่นหมายความว่ารถรุ่นเดียวกัน เครื่องแรงเท่ากัน แต่ระบบความปลอดภัยอาจจะให้มาไม่เท่ากัน

ก็คงต้องย้ำว่ารถยนต์ไม่ว่าจะประเภทไหน ไม่ว่าสมรรถนะจะยอดเยี่ยมเพียงใด คนที่ควบคุมก็คือ “คนขับ” ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะขับรถอะไร ดุดันได้ แต่เกรงใจเพื่อนร่วมทางสักหน่อยก็ยังดีครับ