ถ่างตาดูฟุตบอลโลก 2022 มาจนเกือบครึ่งทาง จากรอบแรกที่พลิกล็อกกันอุตลุด แต่พอมารอบน็อกเอาต์ นับว่าทีมใหญ่รอดสันดอนเข้าสู่ 8 ทีมสุดท้ายรายงานตัวกันเกือบครบ อาร์เจนตินา, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ น่าจะมันส์หยดติ๋ง ๆ แน่นอน
ถามว่าประทับใจฟอร์มทีมไหนมากที่สุด ต้องบอกว่าเป็น “อัศวินสีส้ม” ของยอดโค้ชอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ที่มีข้อจำกัดทั้งเรื่องของเกรดนักเตะระดับบีบวก แถมตัวผู้เล่นก็ไม่ได้มีให้เลือกมากนัก ต่างกับชาติใหญ่อื่น ๆ แต่อาจารย์หลุยส์ใช้ประสบการณ์คร่ำหวอดของเขาในการพาทีมโชว์ฟอร์มเวิลด์คัพสมัยที่สามได้อย่างสุขุมนุ่มลึก
เขาตัดสินใจเลือกระบบการเล่น 3-4-1-2 ตั้งแต่ออกสตาร์ตเวิลด์คัพ เพราะเชื่อว่าน่าจะเหมาะสมกับทีมเนเธอร์แลนด์มากที่สุด แต่แล้วเมื่อเจอปัญหาในช่วงต้นยอดโค้ชตัดสินใจดร็อป มัทไธจ์ เดอ ลิกต์, สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ และวินเซนต์ ยานเซ่น ไว้ที่ข้างสนาม โดยใช้ ยูเรียน ทิมเบอร์, ดาวี่ คลาสเซ่น กับเมมฟิส เดปาย ลงไปแทนจนทำให้ค้นพบทีมที่ลงตัวระหว่างทัวร์นาเมนต์ เรียกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้นไม่เป็นสองรองใคร
ระบบของอาจารย์หลุยส์ใช้วิงแบ็กทั้งสองข้าง คือ เดนเซล ดุมฟรีส์กับดาลี่ย์ บลินด์ เติมเกมรุกได้อย่างสะเด็ดสะเด่าขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกัน โคดี้ กัคโป กับ เมมฟิส เดปาย ประสานงานกันเด่นในลักษณะโต้กลับหรือรุกแบบรวดเร็ว ทั้งคู่จบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด จนเชื่อแน่ว่าไม่มีกองหลังทีมใดอยากเจอ
อีกจุดคือการปรับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมให้เล่นปราการหลังตัวกลาง ทำหน้าที่คุมแนวรับ โดยมี ยูเรียน ทิมเบอร์ กับ นาธาน อาเค่ ขนาบข้าง ระบบนี้ทำให้ “วีวีดี” ไม่ต้องรับภาระหนักเหมือนเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เพราะมีคนคอยเข้าบอลให้ก่อน เขาจึงมีเวลาเหลือในการอ่านเกม และคอยดักเก็บบอลในจังหวะที่เหมาะสม
เห็นแล้วนึกสนุกอยากให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ปรับไปใช้สูตรดัตช์บ้างจัง โดยเปลี่ยนเป็น โจ โกเมซ กับ อิบราฮิม่า โคนาเต้ คอยเป็นสตอปเปอร์ วิงแบ็กไม่ต้องสืบ เทรนต์ อาร์โนลด์ กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ระบบนี้คงทำให้พี่เทรนต์ เติมเกมสนุกไม่ต้องพะวงหลัง เพราะมีโกเมซ คอยซ้อน ด้านซ้าย “ร็อบโบ้” ก็คงบุกมันส์ไม่แพ้ ดาลี่ย์ บลินด์ หรอกครับ ส่วนฟาน ไดค์ เองเล่นระบบนี้จะเบาลงเท่ากับเป็นการยืดอายุการใช้งานของตัวเขาเองไปด้วยเพราะอายุอานามก็ 31 เข้าไปแล้ว ลิเวอร์พูล จะใช้เขาสมบุกสมบันเหมือนสมัยก่อนคงไม่ไหว
ขยับขึ้นมาในแดนกลาง คล็อปป์สามารถจัดวาง ฟาบินโญ่ เล่นคู่กับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ได้แบบสะดวกโยธิน แล้วให้ โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนหน้าต่ำในตำแหน่งของ ดาวี่ คลาสเซ่น ส่วนคู่กองหน้าก็ใช้เป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กับ ดาร์วิน นูนเญซ สลับกับ หลุยส์ ดิอ๊าซ ลื่นปรื๊ด ลืนปรื๊ด ได้เลย
ร่ายไปให้เคลิบเคลิ้มแต่ทั้งหมดคงเป็นได้เพียงแค่ความฝันล่ะครับ เพราะกุนซือเยอรมนีไม่ชอบเล่นแบบกองหลังสามตัว คงไม่ยอมรื้อโครงสร้างการเล่นของ “หงส์แดง” อย่างแน่นอน เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
กลับไปว่าเรื่องของ เนเธอร์แลนด์ ส่งท้ายครับ น่าลุ้นจริง ๆ ว่า อาจารย์หลุยส์จะมีทีเด็ดอะไรในการจัดการกับ ลิโอเนล เมสซี่ และจะดันทีมให้ผ่าน อาร์เจนตินา เข้าสู่รอบตัดเชือก สมดังที่เขาเคยประกาศว่าจะพาทีมเข้ารอบลึกได้แน่นอน มันจะเป็นไปได้อย่างไรภายใต้สถานการณ์ที่เป็นรองทีม “ฟ้าขาว” อยู่ครึ่งช่วงตัวแบบนี้ แฟนบอลโปรดติดตามแบบห้ามกระพริบตา.