จะเป็น “บาริสต้า” แค่ชงกาแฟ แต่ไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ

หนึ่งในความใฝ่ฝันของคนวัยทำงานหลาย ๆ คน คือ “อยากจะทำงานอย่างอิสระและเป็นเจ้านายตัวเอง” หรือก็คือ การลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งธุรกิจส่วนตัวนั้นก็มีหลากหลายไอเดีย หลากหลายเทรนด์ แต่ธุรกิจที่ยังคงเป็นเทรนด์อยู่เสมอ คือ “การเปิดร้านกาแฟ”

ดังเช่นที่เราเห็นว่าทั่วทุกมุมถนนล้วนมีร้านกาแฟ บางที่เปิดห่างกันเพียงสองช่วงตึก และก็ไม่ได้มีแค่ร้านหรือสองร้านด้วย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ร้านกาแฟเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงพอสมควร เพราะคุณจะเจอร้านคู่แข่งมากมาย ทั้งร้านของตัวเองและร้านแบบที่ซื้อแฟรนไชส์มา ถ้าคุณไม่เจ๋งพอ คุณก็ไม่ได้ไปต่อ

แต่ในทางกลับกัน ลูกค้าของตลาดกาแฟ (สด) ทุกวันนี้ถือว่ามีไม่น้อย ข้อมูลของ Thai Franchise Center ระบุว่าตลาดกาแฟสดมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโอกาสเติบโตของตลาดกาแฟไทยในปี 2563 นี้ ค่อนข้างที่จะสูงทีเดียว ด้วยอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 300 แก้วต่อคนต่อปี!

อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งที่อยู่คู่กับร้านกาแฟ และยังเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของคนที่อยากจะเป็นเจ้าของร้านกาแฟด้วย แน่นอนว่าคือ “บาริสต้า” ฟังดูเป็นอาชีพที่ดูดี ดูเท่ ดูน่าสนใจ โดยที่ผู้คนทั่วไปก็เข้าใจตรงกันว่า “บาริสต้า คือนักชงกาแฟ” แต่บาริสต้าไม่ได้จบแค่การชงกาแฟ

ทุกคนเข้าใจถูกแล้วว่าบาริสต้าคือนักชงการแฟ แต่คำตอบไม่ได้ถูกทั้งหมด ในเมื่อบาริสต้าเป็นอาชีพ ผู้ที่จะประกอบอาชีพนี่ได้จึงต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และใส่ใจในทุกรายละเอียดของกาแฟ ถ้าอยากจะเป็นบาริสต้าที่ดี และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน คุณอาจจะต้องคลุกคลีอยู่กับกาแฟจนเบื่อกันไปข้างเลยก็ได้

คุณสมบัติของบาริสต้า

หากคุณอยากจะเป็นบาริสต้าแล้วล่ะก็ คุณต้องมีความรู้เฉพาะด้านเกี่ยวกับกาแฟเป็นอย่างดี สนใจความรู้เกี่ยวกับกาแฟอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่พื้นฐานเท่านั้น แต่ต้องพยายามผลักดันให้ตัวเองทะลุเกินเพดานอยู่เสมอ คุณจะต้องชงกาแฟได้ตั้งแต่แก้วละหลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อย หลักพัน กว่าจะขึ้นไปอยู่จุดนั้นได้ ต้องใช้ความเพียรพยายาม และความตั้งใจไม่ใช่น้อยเลย

แล้วบรรดาบาริสต้าทั้งหลายพวกเขาต้องรู้อะไรบ้าง สำหรับผู้ที่คิดจะทำงานเกี่ยวกับกาแฟนั้น แน่นอนว่าคุณต้องรู้จักเรื่องพื้นฐานของกาแฟ คุณต้องแยกรสชาติกาแฟแต่ละแบบได้ รู้วิธีการชง รู้จักเมล็ดการแฟแต่ละชนิด รู้วิธีการคั่ว วิธีการใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ มีศิลปะในการชง คารมดี อารมณ์ขัน ชงการแฟรสชาติแบบที่ลูกค้าพึงพอใจ ยึดมั่นในคุณภาพและมาตรฐาน ส่วนลูกค้าประจำ ตัวบาริสต้าเองยังต้องหน้าลูกค้าและจำเมนูโปรดของลูกค้าเจ้าประจำให้ได้ด้วย

เสน่ห์ล้นเหลือของบาริสต้าเป็นสิ่งที่ซื้อใจลูกค้า

ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง “เสน่ห์” คือสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่จะเป็นบาริสต้า ทั้งเรื่องของบุคลิกภาพ ท่าทาง ลีลาในการชงกาแฟ ทักษะการวาดลวดลายศิลปะบนแก้วกาแฟ (Latte Art) ที่ยิ่งครีเอทได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับแก้วกาแฟมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ แต่ก็ฝึกกันได้ ถ้าอยากให้ลูกค้าประทับใจ คุณจำเป็นต้องทำ

ส่วนเรื่องของ “คารม” ไม่ใช่เสน่ห์ที่หาได้จากบาริสต้าทุกคน คนที่มีคารมดีถือว่าคุณเป็นต่อคนอื่น หากมีโอกาส ลองสังเกตบาริสต้าดัง ๆ ที่มีประสบการณ์ในวงการ พวกเขาไม่ได้มีหน้าที่แค่ชงกาแฟ แต่ต้องให้ความบันเทิงให้กับลูกค้าด้วย แสดงความเป็นมิตร มีจิตใจที่ละเอียดอ่อนต่อการเข้าถึงใจลูกค้า นั่นหมายความว่าตลอดเวลาที่คุณยืนอยู่หลังบาร์ คุณจะต้องเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่ว่าตัวจริงคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม

ความก้าวหน้าในอาชีพบาริสต้า

ผู้ที่สนใจอยากจะเป็นบาริสต้านั้น จะมีคอร์สอบรมการเป็นบาริสต้าอยู่มากมายหลายแห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเป็นบาริสต้าตัวจริง เมื่อสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรแล้ว คุณจะได้ใบรับรองว่าผ่านการอบรม

การสอบใบรับรอง มีขึ้นเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ เพราะคนที่มีหลักฐานว่าผ่านการเข้าคอร์สมา ย่อมมีประสบการณ์มากกว่าผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ จำไว้ว่าอาชีพที่สร้างสรรค์เครื่องดื่มอย่างกาแฟให้กลายเป็นศิลปะทั้งรสชาติและหน้าตา จำเป็นต้องแม่นยำและชำนาญเรื่องของกาแฟ ชงสดใหม่แก้วต่อแก้ว รักษาคุณภาพและมาตรฐาน ทุกแก้วที่เสิร์ฟให้ลูกค้าต้องมีสัดส่วนแน่นอน เพื่อให้ลูกค้าได้กาแฟที่ดีที่สุด รวมถึงคิดค้นสูตร ลองผิดลองถูกทำเมนูใหม่ ๆ หรือเมนูเฉพาะของร้านขึ้นมาเพื่อให้เป็นจุดขายของร้าน หากคุณทำได้ ชีวิตในวงการนี้ยังอีกยาวไกล